พบผลลัพธ์ทั้งหมด 700 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1769/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            สัญญาประกันภัย: การบอกล้างสัญญา, สิทธิเรียกร้อง, และการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
                        
                        ผู้เอาประกันชีวิตระหว่างเดินทางเอาประกันไว้กับบริษัทหนึ่งแล้วขอเลื่อนวันเดินทาง  บริษัทยังไม่อนุมัติ  กับได้ขอเอาประกันกับอีกบริษัทซึ่งยังไม่ตอบรับ  ผู้นั้นเอาประกันกับบริษัทจำเลยอีก ข้อความที่ว่าไม่เคยประกันภัยเกี่ยวกับอุบัติเหตุกับบริษัทอื่นก่อนเป็นข้อสำคัญที่จำเลยอาจบอกปัดไม่ยอมทำสัญญา  แต่การประกันภัยครั้งนี้เป็นคนละระยะเวลากับครั้งก่อนที่ยังไม่อนุมัติเลื่อนการเดินทางจึงถือไม่ได้ว่าได้เอาประกันภัยไว้กับบริษัทอื่นก่อน
การบอกล้างโมฆียะกรรมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 ต้องทำภายใน 1 เดือนหลังจากบริษัททราบเหตุที่ปกปิดข้อความจริง การบอกล้างหลังจากนั้นไม่มีผล
สัญญาประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทางโดยเครื่องบินมีเงื่อนไขให้จ่ายเงินในกรณีตายรวมทั้งบาดเจ็บนั้น ในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้เงินอันอาศัยความมรณะ เป็นประกันชีวิตตาม มาตรา 889 ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน ไม่มีการจ่ายเงินตามลำดับผู้รับประกันภัยก่อนหลัง ตาม มาตรา 870
โจทก์ขวนขวายออกเงินให้ผู้อื่นเอาประกันชีวิตโดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ ยังไม่พอเป็นข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นผู้เอาประกันชีวิตของผู้อื่นนั้น ถือเป็นการที่ผู้เอาประกันซึ่งมีส่วนได้เสียเอาประกันชีวิตตนเอง
                                    การบอกล้างโมฆียะกรรมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 ต้องทำภายใน 1 เดือนหลังจากบริษัททราบเหตุที่ปกปิดข้อความจริง การบอกล้างหลังจากนั้นไม่มีผล
สัญญาประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทางโดยเครื่องบินมีเงื่อนไขให้จ่ายเงินในกรณีตายรวมทั้งบาดเจ็บนั้น ในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้เงินอันอาศัยความมรณะ เป็นประกันชีวิตตาม มาตรา 889 ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน ไม่มีการจ่ายเงินตามลำดับผู้รับประกันภัยก่อนหลัง ตาม มาตรา 870
โจทก์ขวนขวายออกเงินให้ผู้อื่นเอาประกันชีวิตโดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ ยังไม่พอเป็นข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นผู้เอาประกันชีวิตของผู้อื่นนั้น ถือเป็นการที่ผู้เอาประกันซึ่งมีส่วนได้เสียเอาประกันชีวิตตนเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1687/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การเปลี่ยนเป้าหมายจากการแก้แค้นเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
                        
                        จำเลยกับพวกเตรียมการมีอาวุธมาเพื่อจะฆ่าทหารกลุ่มที่ทำร้ายพวกของตนเท่านั้น  บังเอิญมาพบทหารกลุ่มอื่นเข้า จำเลยกับพวกเกิดความคิดที่จะฆ่าทหารกลุ่มที่พบในปัจจุบันทันที  ดังนั้น การที่จำเลยฆ่าและพยายามฆ่าทหารในกลุ่มที่พบนี้ จึงเป็นเรื่องที่จำเลยมิได้เตรียมการมาก่อน  จำเลยกับพวกหาได้มีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่  จึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1681/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            พยานหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือจากจำเลยร่วมคดี และคำเบิกความของจำเลยเอง ไม่อาจนำสืบลงโทษจำเลยอื่นได้
                        
                        พยานโจทก์ได้รับคำบอกเล่ามาจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นจำเลยคนหนึ่งในคดีนี้  จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานยันจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นจำเลยในคดีเดียวกันไม่ได้  ส่วนที่จำเลยที่ 2 เบิกความว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนยิงตนนั้นก็เป็นคำเบิกความของจำเลยที่ 2 ซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานนำสืบต่อสู้คดีของตน  เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 โดยเฉพาะ จะรับฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นจำเลยด้วยกันไม่ได้เช่นกัน
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การขนแร่เกินปริมาณที่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.แร่ และต้องริบทั้งหมด แม้เจ้าของใบอนุญาตจะไม่มีส่วนรู้เห็น
                        
                        แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ.  จะได้รับใบอนุญาตขนแร่ของกลาง 100 กระสอบ  แต่ยังมีแร่ที่ขนปริมาณเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตอีก 20 กระสอบ  ซึ่งเป็นปริมาณเกินกว่าร้อยละห้าของแร่ที่ได้รับใบอนุญาตให้ขน ตามพระราชบัญญัติแร่ มาตรา 110 ให้ถือว่าแร่ที่ขนทั้งสิ้นเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต  และต้องริบตามมาตรา 154
พระราชบัญญัติแร่ มาตรา 10 ระบุว่า ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ได้กระทำโดยตัวแทนหรือลูกจ้าง ให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จึงเป็นบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดในการกระทำของผู้อื่นที่กฎหมายประสงค์จะให้ผู้รับใบอนุญาตรับผิดชอบในการกระทำของตัวแทนหรือลูกจ้างของตน โดยมิต้องอาศัยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ดังนั้น แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. เจ้าของแร่ผู้รับใบอนุญาต จะมิได้ร่วมรู้เห็นกับลูกจ้างในการขนแร่เกินกว่าที่ได้รับใบอนุญาต ก็ต้องถือว่าเป็นตัวการในการกระทำผิดฐานขนแร่โดยไม่ได้รับใบอนุญาต หาใช่เป็นผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดตามความหมายของมาตรา 154 ไม่
                                    พระราชบัญญัติแร่ มาตรา 10 ระบุว่า ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ได้กระทำโดยตัวแทนหรือลูกจ้าง ให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จึงเป็นบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดในการกระทำของผู้อื่นที่กฎหมายประสงค์จะให้ผู้รับใบอนุญาตรับผิดชอบในการกระทำของตัวแทนหรือลูกจ้างของตน โดยมิต้องอาศัยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ดังนั้น แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. เจ้าของแร่ผู้รับใบอนุญาต จะมิได้ร่วมรู้เห็นกับลูกจ้างในการขนแร่เกินกว่าที่ได้รับใบอนุญาต ก็ต้องถือว่าเป็นตัวการในการกระทำผิดฐานขนแร่โดยไม่ได้รับใบอนุญาต หาใช่เป็นผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดตามความหมายของมาตรา 154 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การขนแร่เกินปริมาณที่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการขนแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้รับใบอนุญาตต้องรับผิดชอบ
                        
                        แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. จะได้รับใบอนุญาตขนแร่ของกลาง 100 กระสอบ แต่ยังมีแร่ที่ขนปริมาณเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตอีก 20 กระสอบ  ซึ่งเป็นปริมาณเกินกว่าร้อยละห้าของแร่ที่ได้รับใบอนุญาตให้ขน ตามพระราชบัญญัติแร่ มาตรา 110 ให้ถือว่าแร่ที่ขนทั้งสิ้นเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และต้องริบตามมาตรา 154
พระราชบัญญัติแร่ มาตรา 10 ระบุว่า ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ ได้กระทำโดยตัวแทนหรือลูกจ้าง ให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จึงเป็นบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดในการกระทำของผู้อื่นที่กฎหมายประสงค์จะให้ผู้รับใบอนุญาต รับผิดชอบในการกระทำของตัวแทนหรือลูกจ้างของตน โดยมิต้องอาศัยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ดังนั้น แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. เจ้าของแร่ ผู้รับใบอนุญาตจะมิได้ร่วมรู้เห็นกับลูกจ้างในการขนแร่เกินกว่าที่ได้รับใบอนุญาต ก็ต้องถือว่าเป็นตัวการในการกระทำผิดฐานขนแร่โดยไม่ได้รับใบอนุญาต หาใช่เป็นผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นในในการกระทำความผิดตามความหมายของมาตรา 154 ไม่
                                    พระราชบัญญัติแร่ มาตรา 10 ระบุว่า ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ ได้กระทำโดยตัวแทนหรือลูกจ้าง ให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จึงเป็นบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดในการกระทำของผู้อื่นที่กฎหมายประสงค์จะให้ผู้รับใบอนุญาต รับผิดชอบในการกระทำของตัวแทนหรือลูกจ้างของตน โดยมิต้องอาศัยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ดังนั้น แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. เจ้าของแร่ ผู้รับใบอนุญาตจะมิได้ร่วมรู้เห็นกับลูกจ้างในการขนแร่เกินกว่าที่ได้รับใบอนุญาต ก็ต้องถือว่าเป็นตัวการในการกระทำผิดฐานขนแร่โดยไม่ได้รับใบอนุญาต หาใช่เป็นผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นในในการกระทำความผิดตามความหมายของมาตรา 154 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ความผิดฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี: การพิจารณาความผิดหลายกรรมต่างกัน
                        
                        จำเลยเขียนเช็คซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินรวม 9 ฉบับชำระหนี้ให้โจทก์ โดยลงวันออกเช็คแต่ละฉบับแตกต่างกัน  แม้บางฉบับจะลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันและเช็คทุกฉบับธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินวันเดียวกันก็ตาม แต่จำเลยมีเจตนาที่จะให้ธนาคารใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การกระทำความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริตหลายกรรมต่างกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษตามกระทงความผิดชอบแล้ว
                        
                        จำเลยเขียนเช็คซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินรวม 9 ฉบับชำระหนี้ให้โจทก์โดยลงวันออกเช็คแต่ละฉบับแตกต่างกัน แม้บางฉบับจะลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันและเช็คทุกฉบับธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินวันเดียวกันก็ตาม  แต่จำเลยมีเจตนาที่จะให้ธนาคารใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้  การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            กรรมสิทธิ์ที่ดินงอกริมตลิ่ง: เจ้าของที่ดินโฉนดมีกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินงอก เว้นแต่มีการแบ่งแยกการครอบครอง
                        
                        ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1308 บัญญัติว่า ที่ดินแปลงใดเกิดที่งอกริมตลิ่ง  ที่งอกย่อมเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่ดินแปลงนั้น  เมื่อโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ไม่ระบุว่าส่วนของคนใดมีเท่าใด และไม่มีข้อตกลงเรื่องที่งอกเป็นอย่างอื่น ต้องถือว่าโจทก์จำเลยมีกรรมสิทธิ์เท่า ๆ กัน  เมื่อยังไม่มีการแบ่งแยกการครอบครองโดยเด็ดขาด  จำเลยจะอ้างว่าครอบครองยึดถือที่งอกแต่ผู้เดียวมิได้ เพราะเป็นกรณียึดถือแทนโจทก์เจ้าของรวมด้วย  โจทก์จำเลยจึงเป็นเจ้าของที่งอกจากที่ดินโฉนดนี้ร่วมกัน
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1606/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            บันดาลโทสะจากการถูกด่าทอถึงตระกูล ศาลลดโทษตามมาตรา 72
                        
                        พ่อตาด่าบุตรเขยถึงตระกูล บุตรเขยห้ามก็ไม่ฟัง ด่าแล้วด่าอีกบุตรเขยฟันพ่อตาตายในขณะนั้น  เป็นบันดาลโทสะ
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2521
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจสอบสวนและฟ้องคดีเช็ค: ความผิดเกิดขึ้น ณ สถานที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน
                        
                        ออกเช็คลงวันล่วงหน้าที่อำเภอปากพนัง  เป็นเช็คที่สั่งธนาคารที่นครศรีธรรมราชจ่ายเงิน  โจทก์เอาเช็คเข้าบัญชีธนาคารที่ปากพนังมาเรียกเก็บที่ธนาคารนครศรีธรรมราช ธนาคารนครศรีธรรมราชไม่จ่ายเงินเพราะเงินในบัญชีไม่มีพอจ่าย  ความผิดเกิดเมื่อธนาคารนครศรีธรรมราชปฏิเสธการจ่ายเงิน พนักงานสอบสวนปากพนังไม่มีอำนาจสอบสวน อัยการไม่มีอำนาจฟ้อง