คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ปรีชา สุมาวงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 700 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้จัดการมรดก: การพิสูจน์ความเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายโดยพิจารณาจากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกัน
ผู้ร้องเป็นบุตรคนอื่น เจ้ามรดกขอมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เล็ก ไม่มีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของเจ้ามรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อของทั้งสองฝ่ายในอุบัติเหตุทางรถไฟ ทำให้ไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย
แม้คดีอาญาที่จำเลยที่ 1 ถูกพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องในข้อหาผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 จะปรากฏว่าศาลพิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุดแล้วก็ตาม แต่ก็ปรากฏว่า โจทก์ในคดีนี้มิได้เข้าเป็นคู่ความด้วย ทั้งมิใช่ ผู้เสียหายในคดีดังกล่าว คำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ ผูกพันโจทก์ในคดีนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงใหม่
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เหตุที่รถไฟของโจทก์ชนกับรถยนต์บรรทุกที่จำเลยที่ 1 ขับเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของทั้งสองฝ่ายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย จำเลยที่ 3 ในฐานะนายจ้างก็ไม่ต้องรับผิดด้วย (อ้างฎีกา 676/2524)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนหย่าเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สิน: ทรัพย์สินที่ได้มาหลังหย่าถือเป็นสินสมรส
ผู้ร้องและจำเลยที่ 1 จดทะเบียนหย่ากันเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 ยึดทรัพย์ตามคำร้องขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์ มิได้เจตนาหย่ากันจริงจัง โดยผู้ร้องกับจำเลยที่ 1 ยังคงอยู่กินฉันสามีภริยาตลอดมา หลังจากจดทะเบียนหย่ากันแล้วดังนั้นทรัพย์สินที่ผู้ร้องซื้อหามาแม้จะโดยเงินของผู้ร้องเอง ก็ต้องถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ผู้ร้องและจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของร่วมกัน โจทก์มีสิทธิยึดทรัพย์ตามคำร้องได้ ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของร่วมไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้ปล่อยทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1845/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทแก้ไขจำนวนเงิน ผู้ทรงโดยชอบมีสิทธิเรียกร้องเฉพาะจำนวนเดิม การรับเงินเกินถือเป็นรับโดยปราศจากมูล
เช็คพิพาทถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญเกี่ยวกับจำนวนเงินให้เพิ่มมากขึ้นโดยไม่ประจักษ์ และผู้สั่งจ่ายไม่รู้เห็นยินยอมด้วยจำเลยที่ 1 ผู้ทรงโดยชอบย่อมมีสิทธิบังคับการใช้เงินจากผู้สั่งจ่ายได้เพียงจำนวนเงินเดิมอันเป็นคำสั่งของผู้สั่งจ่ายเท่านั้น ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 987,1007 วรรคสองส่วนเงินจำนวนที่เกินไปจากนั้นเป็นการรับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้
ขณะที่จำเลยที่ 1 นำเช็คพิพาทมาเรียกเก็บเงินจากธนาคารโจทก์ การแก้ไขจำนวนเงินไม่ประจักษ์ และธนาคารโจทก์เชื่อว่าผู้สั่งจ่ายออกเช็คสั่งจ่ายเงินจากบัญชีตามจำนวนที่มีการแก้ไข ธนาคารโจทก์มิได้จ่ายเงินให้จำเลยที่ 1 รับไปตามอำเภอใจ จำเลยทั้งสองจึงต้องคืนเงินส่วนที่รับเกินมาให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันที่โจทก์แจ้งให้จำเลยทั้งสองทราบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสินสมรส: สามีทำสัญญาเงินกู้เพื่อกิจการครอบครัว ภรรยาไม่มีสิทธิขอส่วนแบ่งจากทรัพย์สินที่ถูกบังคับชำระหนี้
จำเลยซึ่งเป็นสามีผู้ร้องกู้เงินมาลงทุนเอากำไรมาใช้จ่ายเลี้ยงครอบครัว เป็นหนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินบริคณห์และการอุปการะเลี้ยงดู ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482 เดิม ให้ถือว่าเป็นหนี้ร่วมกันระหว่างสามีภรรยา ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอกันส่วนในเงินขายทอดตลาดที่ดินซึ่งเป็นสินสมรส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าจากเหตุสามีภรรยาทำร้ายร่างกายและหึงหวง ศาลพิจารณาเหตุผลประกอบการวินิจฉัยสิทธิในการหย่า
โจทก์จำเลยซึ่งเป็นสามีภริยาทะเลาะและทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันดังนี้ หาใช่เป็นเรื่องจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์อันเป็นการร้ายแรงไม่
จำเลย(ภริยา) มีเหตุอันควรที่จะเชื่อได้ว่าโจทก์มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับหญิงอื่น จึงทำให้เกิดอารมณ์หึงหวงซึ่งโจทก์มีส่วนก่อให้เกิดขึ้นโดยไปไหนมาไหนกับหญิงอื่นจนเป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและโจทก์ไม่ได้ร่วมหลับนอนกับจำเลยมานานแล้วการที่จำเลยระงับอารมณ์ไม่อยู่และเกิดทะเลาะวิวาทกับโจทก์ บางครั้งถึงกับทุบตีและทำร้ายร่างกายกัน แม้จะทะเลาะวิวาทในสถานที่ทำงานของโจทก์ต่อหน้าผู้ที่มาติดต่อก็เป็นพฤติการณ์ที่ยังเรียกไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนรับชำระหนี้: การชำระหนี้ผ่านตัวแทนที่โจทก์ยินยอม ถือเป็นการชำระหนี้ให้โจทก์
จำเลยได้ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ผ่าน ช. ตลอดมา โจทก์เองก็รู้เรื่องนี้และยินยอมให้ ช. รับชำระหนี้ดอกเบี้ยแทนโจทก์ จึงเป็นเรื่องโจทก์เชิด ช. ให้เป็นตัวแทนรับชำระหนี้ดอกเบี้ย
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า จำเลยชำระดอกเบี้ยบางส่วนให้โจทก์ โดยชำระผ่านทางคนของโจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยชำระดอกเบี้ยให้ ช. ผู้ซึ่งโจทก์เชิดให้เป็นตัวแทนมีอำนาจรับชำระหนี้เท่ากับชำระหนี้ดอกเบี้ยนั้นให้โจทก์ เป็นการวินิจฉัยตามประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ว่า จำเลยชำระดอกเบี้ยให้โจทก์บางส่วนแล้วหรือไม่ หาใช่นอกประเด็นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1644/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินและการปิดกั้นทางเข้าออก แม้สะพานมิได้สร้างบนที่ดินโจทก์แต่ปิดกั้นทางเข้าออกได้
คู่ความตกลงกันให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดแต่เพียงประเด็นเดียวศาลย่อมพิจารณาพิพากษาคดีให้ตามที่ตกลงกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำที่มีอายุไม่เกิน 17 ปี ต้องนำหลักเกณฑ์จากประมวลกฎหมายอาญามาใช้
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกในคดีก่อนฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองมีกำหนด 6 เดือน ในขณะที่จำเลยมีอายุไม่เกิน 17 ปี แล้วมากระทำผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายในคดีนี้อีก จะเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา97 ไม่ได้ เพราะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17 ได้บัญญัติให้นำบทบัญญัติในภาค 1 ไปใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย เว้นแต่กฎหมายนั้นๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น เมื่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522มิได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 94 มาใช้บังคับแก่คดีนี้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้ที่ดินบุตรเพื่อเลี้ยงชีพ ไม่ใช่การให้โดยหน้าที่ธรรมจรรยา มารดาสามารถถอนคืนได้
มารดายกที่ดินให้บุตร เพื่อเอาไปทำมาหาเลี้ยงชีพ ไม่เป็นการให้โดยหน้าที่ธรรมจรรยา ซึ่งมารดาไม่มีหน้าที่ธรรมจรรยาที่จะต้องทำเช่นนั้น จึงถอนคืนเพราะเหตุเนรคุณได้
of 70