คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ปรีชา สุมาวงศ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 700 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีภายใน 10 ปี: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการร้องขอภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ยังคงมีอำนาจบังคับคดีจนแล้วเสร็จได้ แม้พ้นกำหนด
เมื่อได้ร้องขอให้บังคับคดีภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการต่อไปจนแล้วเสร็จ แม้จะพ้น 10 ปีคำพิพากษาก็ไม่สิ้นผลบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ผู้จัดการมรดกฟ้องคดีซ้ำกับคดีเดิมที่ศาลจำหน่ายคดีเนื่องจากไม่ยื่นคำร้องขอรับมรดกภายในกำหนด
เดิม จ.เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้เงินกู้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง จ.อุทธรณ์และถึงแก่กรรมในระหว่างอุทธรณ์โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของ จ.โดยคำสั่งศาลยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่เกินกำหนดหนึ่งปีศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตและจำหน่ายคดีจากสารบบความคำพิพากษาศาลชั้นต้นย่อมถึงที่สุดนับแต่วันที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสองเมื่อโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ตามสัญญากู้ฉบับเดียวกันนั้นอีก เช่นนี้ถือได้ว่าโจทก์เป็นคู่ความรายเดียวกับเจ้ามรดก และคดีทั้งสองมีประเด็นอย่างเดียวกันซึ่งจะต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันจึงเป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: การฟ้องชำระหนี้สัญญาเดิมหลังคดีถึงที่สุดแล้ว ถือเป็นการฟ้องซ้ำตามกฎหมาย
เดิม จ.เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้เงินกู้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง จ.อุทธรณ์และถึงแก่กรรมในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของ จ.โดยคำสั่งศาลยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่เกินกำหนดหนึ่งปีศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตและจำหน่ายคดีจากสารบบความคำพิพากษาศาลชั้นต้นย่อมถึงที่สุดนับแต่วันที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสอง เมื่อโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ตามสัญญากู้ฉบับเดียวกันนั้นอีก เช่นนี้ถือได้ว่าโจทก์เป็นคู่ความรายเดียวกับเจ้ามรดก และคดีทั้งสองมีประเด็นอย่างเดียวกันซึ่งจะต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันจึงเป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างเฝ้ารักษาไม้: สัญญาจ้างแรงงาน, เหตุสุดวิสัยจากภัยธรรมชาติ, ความรับผิดของผู้รับจ้าง
สัญญาจ้างเฝ้ารักษาไม้มีข้อความว่า ผู้รับจ้างยอมรับเฝ้ารักษาไม้ของกลางโดยคิดค่าจ้างเฝ้ารักษาเป็นรายเดือนตามจำนวนปริมาตรของไม้ถ้าไม้ที่รับจ้างเฝ้ารักษาขาดหายหรือเป็นอันตรายยอมให้ผู้จ้างปรับไหมตามชนิดและปริมาตรของไม้ที่สูญหายหรือเป็นอันตรายไป ในระหว่างที่ผู้รับจ้างเฝ้ารักษาไม้ตามสัญญา ผู้จ้างอาจขนไม้ของกลางทั้งหมดหรือบางส่วนไปจากที่เดิมในเวลาใดก็ได้ ไม้ที่นำไปแล้วเป็นอันพ้นจากความรับผิดของผู้รับจ้างสัญญาเช่นนี้ต้องถือว่าเป็นสัญญาจ้างแรงงาน เพราะอำนาจการครอบครองไม้อยู่แก่ผู้จ้างผู้รับจ้างเพียงแต่เฝ้ารักษามิให้ไม้สูญหายหรือเป็นอันตรายไป
การที่เกิดฝนตกผิดปกติติดต่อกันหลายวันทำให้น้ำในคลองไหลเชี่ยวจนสามารถพัดพาไม้ที่ผูกรวมเป็นแพอยู่ในคลองออกไปสู่แม่น้ำตามหาไม่พบนั้น เป็นกรณีที่ไม้หลุดลอยหายไปเนื่องจากภัยธรรมชาติเหลือวิสัยที่จะป้องกันได้นับเป็นเหตุสุดวิสัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสและการริบของกลางเฉพาะส่วนของจำเลย
รถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลย (สามี) และผู้ร้อง(ภริยา) ซื้อมาด้วยเงินที่ได้มาระหว่างสมรส ผู้ร้องกับจำเลยจึงมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกันคนละครึ่ง เมื่อจำเลยนำเอารถยนต์ดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิดจนถูกศาลพิพากษาให้ริบไปแล้ว ผู้ร้องซึ่งมิได้มีส่วนรู้เห็นเป็นใจใน การกระทำความผิดของจำเลยด้วย ย่อมมีสิทธิขอคืนได้กึ่งหนึ่ง ส่วนอีกกึ่งหนึ่งตกเป็นของอันพึงต้องริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรส และสิทธิในการได้รับส่วนแบ่งทรัพย์สินที่ถูกริบ
รถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลย (สามี) และผู้ร้อง (ภริยา) ซื้อมาด้วยเงินที่ได้มาระหว่างสมรส ผู้ร้องกับ จำเลยจึงมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกันคนละครึ่ง เมื่อจำเลย นำเอารถยนต์ดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิดจนถูกศาล พิพากษาให้ริบไปแล้ว ผู้ร้องซึ่งมิได้มีส่วนรู้เห็นเป็นใจใน การกระทำความผิดของจำเลยด้วย ย่อมมีสิทธิขอคืนได้กึ่งหนึ่ง ส่วนอีกกึ่งหนึ่งตกเป็นของอันพึงต้องริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1334/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการได้รับค่าชดเชยของลูกจ้างเมื่อถูกเลิกจ้างหลังประกาศคุ้มครองแรงงานมีผลบังคับใช้ แม้เข้าทำงานก่อนประกาศ
ลูกจ้างเข้าทำงานก่อนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ฉบับที่ 2 ใช้บังคับ ได้ทำงานมา 3 ปี 1 เดือน นายจ้างให้ลูกจ้างออกจากงานเมื่อประกาศฉบับนั้นใช้บังคับแล้ว นายจ้างจ่ายเงินชดเชยไม่ครบตามหนังสือที่พนักงานแรงงานสัมพันธ์แจ้งให้จ่าย นายจ้างมีความผิดตามประกาศกระทรวงมหาดไทย และประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ข้อ 2, 8

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1301/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะเจ้าพนักงาน: ลูกจ้างชั่วคราวสุขาภิบาลไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา
พระราชบัญญัติสุขาภิบาล พ.ศ. 2495 ให้พนักงานสุขาภิบาลเป็นเจ้าพนักงานตามความหมายแห่งกฎหมายลักษณะอาญา และให้กระทรวงมหาดไทยวางระเบียบพนักงานสุขาภิบาลขึ้นไว้ โจทก์ไม่นำสืบว่าระเบียบนี้มีไว้อย่างไร ลูกจ้างชั่วคราวไม่อยู่ในฐานะพนักงานสุขาภิบาล การยักยอกเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 ไม่ใช่ มาตรา 147

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างเช่า: สัญญาเช่าต่างตอบแทนยังคงกรรมสิทธิ์ไว้จนกว่าจะครบกำหนดสัญญา แม้มีข้อตกลงสละสิทธิ์
สัญญาแบ่งเช่าที่ดินระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทยกับโจทก์ผู้เช่าข้อ 4 ระบุว่า 'เมื่อครบสัญญาเช่าบรรดาวัสดุและสิ่งปลูกสร้างตลอดจนทรัพย์สินที่ติดอยู่กับที่ดินตกเป็นของผู้ให้เช่า' มีความหมายอยู่ในตัวว่าตลอดระยะเวลาที่การเช่ายังมีอยู่ กรรมสิทธิ์ในบรรดาวัสดุและสิ่งปลูกสร้างฯยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แม้จะมีสัญญาข้อ 14ว่า 'โดยผู้เช่าไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายแต่ประการใด' ก็หามีผลลบล้างข้อตกลงตามสัญญาแบ่งเช่าที่ดินไม่และสัญญาข้อ 14 นี้ เป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับการท่าเรือแห่งประเทศไทยจะผูกพันถึงจำเลยหรือไม่เพียงใดน่าจะต้องฟังพยานหลักฐานจากคู่ความเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างในที่ดินเช่าเมื่อถูกเวนคืน: สัญญาต่างตอบแทนยังคงผูกพัน แม้มีข้อตกลงสละสิทธิค่าเสียหาย
สัญญาแบ่งเช่าที่ดินระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทยกับโจทก์ผู้เช่าข้อ 8 ระบุว่า "เมื่อครบสัญญาเช่าบรรดาวัสดุและสิ่งปลูกสร้างตลอดจนทรัพย์สินที่ติดอยู่กับที่ดินตกเป็นของผู้ให้เช่า" มีความหมายอยู่ในตัวว่าตลอดระยะเวลาที่การเช่ายังมีอยู่ กรรมสิทธิ์ในบรรดาวัสดุและสิ่งปลูกสร้างฯ ยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แม้จะมีสัญญาข้อ 14 ว่า โดยผู้เช่าไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายแต่ประการใดก็หามีผลลบล้างข้อตกลงตามสัญญาแบ่งเช่าที่ดินไม่ และสัญญาข้อ 14 นี้ เป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับการท่าเรือแห่งประเทศไทยจะผูกพันถึงจำเลยหรือไม่เพียงใดน่าจะต้องฟังพยานหลักฐานจากคู่ความเสียก่อน
of 70