คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สอน ไชยสุต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 290 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยในความผิดฐานอื่นนอกเหนือจากที่โจทก์อุทธรณ์ เป็นการเพิ่มเติมโทษที่มิชอบตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
จำเลยเมาสุราขนาดหนัก ต้องการแสดงอิทธิพลด้วยสันดานอันธพาล ไม่รู้ว่าผู้เสียหายกับพวกเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ จำเลยยิงปืนใส่ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงมีเจตนาเพียงพยายามฆ่าผู้เสียหายในฐานบุคคลธรรมดา ไม่ใช่เจ้าพนักงาน
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิตในความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่เพียงกระทงเดียว โจทก์มิได้อุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไม่รับอนุญาตและฐานเสพสุราจนเป็นเหตุให้ตนเมา ประพฤติวุ่นวาย การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไม่รับอนุญาต จำคุก 6 เดือนและฐานเสพสุราจนเป็นเหตุให้ตนเมาประพฤติวุ่นวาย ปรับ 100 บาท อีก 2 กระทงด้วย ย่อมไม่ได้เพราะเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยโดยที่โจทก์มิได้อุทธรณ์ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่า และการเพิ่มโทษโดยโจทก์มิได้อุทธรณ์
จำเลยเมาสุราขนาดหนักต้องการแสดงอิทธิพลด้วยสันดานอันธพาลไม่รู้ว่าผู้เสียหายกับพวกเป็นเจ้าพนักงานตำรวจจำเลยยิงปืนใส่ผู้เสียหายการกระทำของจำเลยจึงมีเจตนาเพียงพยายามฆ่าผู้เสียหายในฐานะบุคคลธรรมดาไม่ใช่เจ้าพนักงาน
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิตในความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่เพียงกระทงเดียวโจทก์มิได้อุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไม่รับอนุญาตและฐานเสพสุราจนเป็นเหตุให้ตนเมาประพฤติวุ่นวายการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไม่รับอนุญาตจำคุก6เดือนและฐานเสพสุราจนเป็นเหตุให้ตนเมาประพฤติวุ่นวายปรับ100บาทอีก2กระทงด้วยย่อมไม่ได้เพราะเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยโดยที่โจทก์มิได้อุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา212

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, ฟ้องไม่เคลือบคลุม, อายุความสัญญาสลากกินแบ่ง: การส่งมอบสลากเพื่อขายต่อและข้อยกเว้นอายุความ
จำเลยทำสัญญาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งกระทำในนามของจังหวัด ถือได้ว่าจำเลยได้ทำสัญญากับจังหวัด ดังนั้น จังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีอำนาจฟ้องจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยขาดส่งเงินค่าสลากกินแบ่งรวม 14 งวด แต่บรรยายงวดที่ขาดส่งเพียง 10 งวด ส่วนอีก 4 งวด บรรยายว่าจำเลยนำเงินหลายๆ งวดรวมส่งเข้าบัญชีในคราวเดียวกัน โดยมิได้แยกว่าเป็นเงินงวดใดบ้างนั้นจำเลยพอเข้าใจข้อความแห่งข้อหาแล้ว ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(5) ที่กำหนดให้มีอายุความ 2 ปี นั้น ได้บัญญัติเฉพาะบุคคลจำพวกที่ขายตั๋วสลากกินแบ่งเรียกเอาเงินค่าที่ได้ขายตั๋วแต่ถ้าเป็นการที่ได้ส่งมอบตั๋วเพียงสำหรับให้ขายต่อไปแล้วก็เข้าข้อยกเว้น ไม่อยู่ในบังคับอายุความ 2 ปี แต่มีอายุความ5 ปี ตามวรรคสุดท้าย โจทก์ส่งมอบสลากกินแบ่งให้จำเลยไปขายอีกต่อหนึ่ง กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นดังกล่าว เมื่อนับเงินค้างงวดแรกถึงวันฟ้องยังไม่ถึง 5 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, ฟ้องเคลือบคลุม, อายุความสลากกินแบ่ง: สัญญาซื้อสลากกับจังหวัด, การส่งมอบเพื่อขายต่อ, และข้อยกเว้นอายุความ 5 ปี
จำเลยทำสัญญาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งกระทำในนามของจังหวัด ถือได้ว่าจำเลยได้ทำสัญญากับจังหวัด ดังนั้น จังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีอำนาจฟ้องจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยขาดส่งเงินค่าสลากกินแบ่งรวม 14 งวด แต่บรรยายงวดที่ขาดส่งเพียง 10 งวด ส่วนอีก 4 งวด บรรยายว่าจำเลยนำเงินหลายๆ งวดรวมส่งเข้าบัญชีในคราวเดียวกัน โดยมิได้แยกว่าเป็นเงินงวดใดบ้างนั้น จำเลยพอเข้าใจข้อความแห่งข้อหาแล้ว ไม่เป็นห้องที่เคลือบคลุม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (5) ที่กำหนดให้มีอายุความ 2 ปีนั้น ได้บัญญัติเฉพาะบุคคลจำพวกที่ขายตั๋วสลากกินแบ่งเรียกเอาเงินค่าที่ได้ขายตั๋ว แต่ถ้าเป็นการที่ได้ส่งมอบตั๋วเพียงสำหรับให้ขายต่อไปแล้วก็เข้าข้อยกเว้น ไม่อยู่ในบังคับอายุความ 2 ปี แต่มีอายุความ 5 ปีตามวรรคสุดท้าย โจทก์ส่งมอบสลากกินแบ่งให้จำเลยไปขายอีกต่อหนึ่ง กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นดังกล่าว เมื่อนับเงินค้างงวดแรกถึงวันฟ้องยังไม่ถึง 5 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์: การพิจารณาจากขั้นการกระทำความผิดของผู้กระทำร่วม
ม. กระชากสร้อยคอขาดหลุดจากคอผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้ใช้มือจับยึดสร้อยคอของตนไว้ก่อน ม. จึงแย่งเอาไปไม่ได้ แล้ว ม. วิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของจำเลยซึ่งติดเครื่องจอดรออยู่ตามแผนการที่ร่วมกันวางไว้และหลบหนีไป ดังนี้แม้สร้อยคอจะอยู่ที่มือ ม. ตอนกระชาก ก็เป็นการกระทำในขั้นที่มุ่งหมายจะให้สร้อยขาดหลุดจากคอผู้เสียหายเท่านั้น ม. ยังไม่ทันยึดถือเอาไป การที่ ม. จะยึดถือเอาสร้อยไปยังไม่บรรลุผล จำเลยซึ่งร่วมกระทำความผิดด้วยจึงมีความผิดฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด
เดิมจำเลยกับ ม. ถูกฟ้องเป็นสำนวนเดียวกันในข้อหาว่าร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ม. ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยให้การปฎิเสธ ศาลสั่งให้แยกฟ้องจำเลยแล้วพิพากษาลงโทษ ม. ในความผิดสำเร็จฐานวิ่งราวทรัพย์ ส่วนคดีหลังซึ่งจำเลยถูกฟ้องนั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่า การกระทำของ ม. เป็นเพียงขั้นพยายามเท่านั้นศาลจึงพิพากษาลงโทษจำเลยซึ่งร่วมกระทำผิดด้วยฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์ดังนี้ ศาลพิพากษาชอบแล้ว เพราะในคดีที่ ม. เป็นจำเลยไม่มีข้อเท็จจริงปรากฏว่าการกระทำความผิดของ ม. เป็นเพียงขั้นพยายามกระทำผิด ศาลจึงต้องลงโทษ ม. ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากคำฟ้องและคำให้การรับสารภาพของจำเลยในคดีนั้นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำความผิดฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์ แม้ผู้กระทำหลักยังไม่ยึดทรัพย์สำเร็จ
ม.กระชากสร้อยคอขาดหลุดจากคอผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้ใช้มือจับยึดสร้อยคอของตนไว้ก่อน ม.จึงแย่งเอาไปไม่ได้ แล้ว ม.วิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของจำเลย ซึ่งติดเครื่องจอดรถอยู่ตามแผนการที่ร่วมกันวางไว้และหลบหนีไป ดังนี้ แม้สร้อยคอจะอยู่ที่มือ ม.ตอนกระชาก ก็เป็นการกระทำในขั้นที่มุ่งหมายจะให้สร้อยขาดหลุดจากคอผู้เสียหายเท่านั้น ม.ยังไม่ทันยึดถือเอาไป การที่ ม.จะยึดถือเอาสร้อยไปยังไม่บรรลุผล จำเลยซึ่งร่วมกระทำความผิดด้วยจึงมีความผิดฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด
เดิมจำเลยกับ ม.ถูกฟ้องเป็นสำนวนเดียวกันในข้อหาว่าร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ ม.ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลสั่งให้แยกฟ้องจำเลยแล้วพิพากษาลงโทษ ม. ในความผิดสำเร็จฐานวิ่งราวทรัพย์ ส่วนคดีหลังซึ่งจำเลยถูกฟ้องนั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่าการกระทำของ ม.เป็นเพียงขั้นพยายามเท่านั้น ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำเลยซึ่งร่วมกระทำผิดด้วยฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์ ดังนี้ ศาลพิพากษาชอบแล้ว เพราะในคดีที่ ม. เป็นจำเลยไม่มีข้อเท็จจริงปรากฏว่าการกระทำความผิดของ ม.เป็นเพียงขั้นพยายามกระทำผิด ศาลจึงต้องลงโทษ ม.ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากคำฟ้องและคำให้การรับสารภาพของจำเลยในคดีนั้นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาการยื่นคำให้การ: ผลของการนับวันและวันหยุดราชการ
แม้วันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การได้คือวันที่ 29 มิถุนายน 2518(ตรงกับวันอาทิตย์หยุดราชการ) แต่เมื่อศาลอนุญาตให้ขยายระยะเวลา 5 วันโดยมิได้ระบุว่านับแต่วันใดจึงต้องนับต่อจากวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาเดิมโดยไม่คำนึงว่าวันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลาเดิมจะเป็นวันหยุดราชการหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลายื่นคำให้การ: การนับวันและผลกระทบของวันหยุดราชการ
แม้วันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การได้คือวันที่ 29 มิถุนายน 2518 (ตรงกับวันอาทิตย์หยุดราชการ) แต่เมื่อศาลอนุญาตให้ขยายระยะเวลา 5 วันโดยมิได้ระบุว่านับแต่วันใด จึงต้องนับต่อจากวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาเดิม โดยไม่คำนึงว่าวันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลาเดิมจะเป็นวันหยุดราชการหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 353/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์และการพยายามฆ่า: เจตนาของผู้ร่วมกระทำ
คนร้ายยิงผู้เสียหายในการปล้นโดยเหตุการณ์เกิดขึ้นกระทันหันคนร้ายอื่นมิได้มีเจตนาร่วมด้วยไม่เป็นตัวการในฐานพยายามฆ่าคนร่วมกับผู้ยิง
จำเลยที่ 4 ใช้ปืนขู่ปล้นทรัพย์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 2 และเพิ่มโทษอีกตาม มาตรา 340 ตรี จำเลยอื่นที่ไม่ใช้ปืนมีความผิดตาม มาตรา 340 วรรค 2 ไม่ผิด มาตรา 340 ตรี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งสละมรดกเท็จทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัดตาย ทายาทของผู้ตายห้าคนยื่นหนังสือต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทว่า ทายาทสละมรดกยกหุ้นให้จำเลยโดยไม่ระบุชื่อโจทก์ว่าเป็นทายาทด้วยเป็นความเท็จทำให้โจทก์เสียหายโจทก์ฟ้องตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ได้
of 29