พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,935 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2745/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินในเขตป่าสงวนฯ ไม่อาจโอนได้ การกระทำไม่ถึงฐานโกงเจ้าหนี้
แม้จำเลยที่ 1 และที่ 2 จะเป็นผู้ครอบครองที่ดินซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเลยทั้งสองก็ไม่มีสิทธิครอบครองอันจะนำไปโอนให้แก่จำเลยที่ 3 หรือบุคคลอื่นได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350
เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดแล้ว ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดแล้ว ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2745/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ การโอนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้
แม้จำเลยที่ 1 และที่ 2 จะเป็นผู้ครอบครองที่ดินซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเลยทั้งสองก็ไม่มีสิทธิครอบครองอันจะนำไปโอนให้แก่จำเลยที่ 3 หรือบุคคลอื่นได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดแล้ว ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดแล้ว ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2691-2694/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างที่เล่นการพนันในหอพักโรงงานโดยไม่จ่ายค่าชดเชย: กรณีร้ายแรงและอำนาจการวินิจฉัยของหน่วยงาน
แม้ลูกจ้างจะได้ยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของพนักงานแรงงานจังหวัดต่ออธิบดีกรมแรงงาน และอธิบดีกรมแรงงานเห็นว่านายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้าง จึงมีหนังสือแจ้งให้นายจ้างนำเงินค่าชดเชยไปชำระให้ลูกจ้างก็ตาม การอุทธรณ์เช่นนี้มิใช่เป็นวิธีการซึ่งกฎหมายบัญญัติให้จำต้องปฏิบัติ การที่นายจ้างไม่ปฏิบัติตามความเห็นของอธิบดีกรมแรงงานจึงไม่ทำให้นายจ้างต้องรับผิดเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะหนังสือของอธิบดีกรมแรงงานเป็นเพียงคำเตือนตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ เท่านั้น และปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้อธิบดีกรมแรงงานจำเลยจะมิได้ยกขึ้นอ้างอิงในศาลชั้นต้นก็ยังมีสิทธิยกขึ้นในชั้นฎีกาได้
เมื่อการเล่นการพนันเป็นการต้องห้ามตามระเบียบของนายจ้าง การที่ลูกจ้างเล่นการพนันนอกเวลาปฏิบัติงานในหอพักซึ่งนายจ้างจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยของคนงานภายในบริเวณโรงงาน และเป็นการพนันไฮโลว์ตามบัญชี ก. ท้ายพระราชบัญญัติการพนันฯ ย่อมจะเป็นชนวนวิวาทบาดหมางในหมู่คนงานด้วยกัน และชักนำให้ประกอบอาชญากรรมอย่างอื่นได้ มีผลกระทบกระเทือนถึงการผลิตและชื่อเสียงของโรงงานนายจ้าง จึงถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของนายจ้างอันเป็นกรณีที่ร้ายแรง นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างลูกจ้างผูนั้นได้ในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับโดยไม่ต้องว่ากล่าวตักเตือนก่อนและไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้
เมื่อการเล่นการพนันเป็นการต้องห้ามตามระเบียบของนายจ้าง การที่ลูกจ้างเล่นการพนันนอกเวลาปฏิบัติงานในหอพักซึ่งนายจ้างจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยของคนงานภายในบริเวณโรงงาน และเป็นการพนันไฮโลว์ตามบัญชี ก. ท้ายพระราชบัญญัติการพนันฯ ย่อมจะเป็นชนวนวิวาทบาดหมางในหมู่คนงานด้วยกัน และชักนำให้ประกอบอาชญากรรมอย่างอื่นได้ มีผลกระทบกระเทือนถึงการผลิตและชื่อเสียงของโรงงานนายจ้าง จึงถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของนายจ้างอันเป็นกรณีที่ร้ายแรง นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างลูกจ้างผูนั้นได้ในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับโดยไม่ต้องว่ากล่าวตักเตือนก่อนและไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2691-2694/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างที่เล่นการพนันในหอพักของโรงงานโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและอำนาจของอธิบดีกรมแรงงาน
แม้ลูกจ้างจะได้ยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของพนักงานแรงงานจังหวัดต่ออธิบดีกรมแรงงาน และอธิบดีกรมแรงงานเห็นว่านายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้าง จึงมีหนังสือแจ้งให้นายจ้างนำเงินค่าชดเชยไปชำระให้ลูกจ้างก็ตามการอุทธรณ์เช่นนี้มิใช่เป็นวิธีการซึ่งกฎหมายบัญญัติให้จำต้องปฏิบัติ การที่นายจ้างไม่ปฏิบัติตามความเห็นของอธิบดีกรมแรงงานจึงไม่ทำให้นายจ้างต้องรับผิดเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะหนังสือของอธิบดีกรมแรงงานเป็นเพียงคำเตือนตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ เท่านั้น และปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้อธิบดีกรมแรงงานจำเลยจะมิได้ยกขึ้นอ้างอิงในศาลชั้นต้นก็ยังมีสิทธิยกขึ้นในชั้นฎีกาได้
เมื่อการเล่นการพนันเป็นการต้องห้ามตามระเบียบของนายจ้างการที่ลูกจ้างเล่นการพนันนอกเวลาปฏิบัติงานในหอพักซึ่งนายจ้างจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยของคนงานภายในบริเวณโรงงานและเป็นการพนันไฮโลว์ตามบัญชี ก. ท้ายพระราชบัญญัติการพนันฯ ย่อมจะเป็นชนวนวิวาทบาดหมางในหมู่คนงานด้วยกันและชักนำให้ประกอบอาชญากรรมอย่างอื่นได้ มีผลกระทบกระเทือนถึงการผลิตและชื่อเสียงของโรงงานนายจ้าง จึงถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของนายจ้างอันเป็นกรณีที่ร้ายแรง นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างลูกจ้างผู้นั้นได้ในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับโดยไม่ต้องว่ากล่าวตักเตือนก่อนและไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้
เมื่อการเล่นการพนันเป็นการต้องห้ามตามระเบียบของนายจ้างการที่ลูกจ้างเล่นการพนันนอกเวลาปฏิบัติงานในหอพักซึ่งนายจ้างจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยของคนงานภายในบริเวณโรงงานและเป็นการพนันไฮโลว์ตามบัญชี ก. ท้ายพระราชบัญญัติการพนันฯ ย่อมจะเป็นชนวนวิวาทบาดหมางในหมู่คนงานด้วยกันและชักนำให้ประกอบอาชญากรรมอย่างอื่นได้ มีผลกระทบกระเทือนถึงการผลิตและชื่อเสียงของโรงงานนายจ้าง จึงถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของนายจ้างอันเป็นกรณีที่ร้ายแรง นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างลูกจ้างผู้นั้นได้ในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับโดยไม่ต้องว่ากล่าวตักเตือนก่อนและไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2487/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินโดยคนต่างด้าว การถือครองแทน และสิทธิในการบังคับจำหน่าย
โจทก์เป็นคนต่างด้าวร่วมกับพวกซึ่งเป็นคนต่างด้าวอีกคนหนึ่งซื้อที่ดินตาม น.ส.3 แปลงหนึ่งโดยตกลงให้จำเลยมีชื่อถือสิทธิแทน การกระทำดังกล่าวขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 จึงเป็นโมฆะ แต่มาตรา 94 แห่งกฎหมายดังกล่าวให้คนต่างด้าวนั้นจัดการจำหน่ายที่ดินนั้นเสียภายในเวลาที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนดให้ ความเป็นโมฆะดังกล่าวจึงไม่เสียเปล่า ยังมีผลตามกฎหมายอยู่หากแต่ว่าคนต่างด้าวจะถือสิทธิเอาที่ดินเป็นของตนไม่ได้เท่านั้น เพราะฉะนั้นโจทก์ย่อมนำสืบได้ว่า จำเลยซึ่งมีชื่อถือสิทธิในที่ดินนั้นถือสิทธิแทนตนและบังคับจำเลยให้นำที่ดินออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งให้แก่ตนได้แต่จะขอให้ แสดงกรรมสิทธิ์และให้จำเลยโอนที่พิพาทให้แก่ตนไม่ได้
ฎีกาจำเลยกล่าวแต่เพียงว่ามีความสงสัยในคำวินิจฉัยของศาลล่าง มิได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งในข้อโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างว่า ไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ฎีกาจำเลยกล่าวแต่เพียงว่ามีความสงสัยในคำวินิจฉัยของศาลล่าง มิได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งในข้อโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างว่า ไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2487/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คนต่างด้าวซื้อที่ดินผิดกฎหมาย สิทธิในที่ดินเป็นโมฆะ แต่มีผลบังคับใช้ได้ในบางส่วน
โจทก์เป็นคนต่างด้าวร่วมกับพวกซึ่งเป็นคนต่างด้าวอีกคนหนึ่งซื้อที่ดินตาม น.ส.3 แปลงหนึ่งโดยตกลงให้จำเลยมีชื่อถือสิทธิแทน การกระทำดังกล่าวขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 จึงเป็นโมฆะ แต่มาตรา 94 แห่งกฎหมายดังกล่าวให้คนต่างด้าวนั้นจัดการจำหน่ายที่ดินนั้นเสียภาษีภายในเวลาที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนดให้ ความเป็นโมฆะดังกล่าวจึงไม่เสียเปล่า ยังมีผลตามกฎหมายอยู่ หากแต่ว่าคนต่างด้าวจะถือสิทธิเอาที่ดินเป็นของตนไม่ได้เท่านั้น เพราะฉะนั้นโจทก์ย่อมนำสืบได้ว่า จำเลยซึ่งมีชื่อถือสิทธิในที่ดินนั้นถือสิทธิทดแทนตนและบังคับจำเลยให้นำที่ดินออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งให้แก่ตนได้แต่จะขอให้แสดงกรรมสิทธิ์และให้จำเลยโอนที่พิพาทให้แก่ตนไม่ได้
ฎีกาจำเลยกล่าวแต่เพียงว่ามีความสงสัยในคำวินิจฉัยของศาลล่างมิได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งในข้อโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างว่าไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ฎีกาจำเลยกล่าวแต่เพียงว่ามีความสงสัยในคำวินิจฉัยของศาลล่างมิได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งในข้อโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างว่าไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2143/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้อนและอำนาจศาลในการวินิจฉัยเรื่องผู้ปกครองบุตร
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอหย่าโดยอาศัยความยินยอมหย่าที่โจทก์จำเลยทำเป็นหนังสือกันไว้เป็นข้ออ้างส่วนคดีหลังโจทก์อ้างว่าจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไปเกินกว่าหนึ่งปีและจำเลยทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรงสภาพแห่งข้อหาตลอดจนประเด็นในคดีทั้งสองต่างกัน ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้อนอันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
ปัญหาว่าบิดาหรือมารดาควรเป็นผู้ปกครองบุตรมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อมิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นจะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ฎีกามิได้
ปัญหาว่าบิดาหรือมารดาควรเป็นผู้ปกครองบุตรมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อมิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นจะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ฎีกามิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2143/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้อนและการยกประเด็นผู้ปกครองบุตรในชั้นฎีกา
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอหย่าโดยอาศัยความยินยอมหย่าที่โจทก์จำเลยทำเป็นหนังสือกันไว้เป็นข้ออ้าง ส่วนคดีหลังโจทก์อ้างว่าจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไปเกินกว่าหนึ่งปี และจำเลยทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง สภาพแห่งข้อหาตลอดจนประเด็นในคดีทั้งสองต่างกัน ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้อนอันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
ปัญหาว่าบิดาหรือมารดาควรเป็นผู้ปกครองบุตร มิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อมิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ฎีกามิได้
ปัญหาว่าบิดาหรือมารดาควรเป็นผู้ปกครองบุตร มิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อมิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ฎีกามิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่อุทธรณ์เรื่องความเคลือบคลุมของฟ้อง และการอนุญาตให้เจ้าของที่ดินเข้าเป็นโจทก์ร่วม
การที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะชื่อโจทก์ในฟ้องไม่ถูกต้องและไม่ตรงกับความจริงมีถึง 2 คน จะให้จำเลยเข้าใจได้ถูกต้องว่าอะไรแน่นั้นฎีกาของจำเลยดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยอ้างเหตุแห่งความเคลือบคลุมของฟ้องโจทก์ขึ้นมาใหม่นอกเหนือจากที่ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นฎีกานอกประเด็นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินจากโจทก์ร่วม แต่เข้าครอบครองที่ดินที่เช่าไม่ได้เพราะจำเลยไม่ยอมออกไป ถ้าโจทก์แพ้คดีโจทก์ไม่สามารถเรียกค่าทดแทนที่ไม่ได้เข้าครอบครองที่ดินตามสัญญาจากโจทก์ร่วมได้และอาจถูกโจทก์ร่วมเรียกค่าเสียหายได้ด้วยดังนี้ จึงเป็นเหตุจำเป็นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3)(ก) ที่จะอนุญาตให้หมายเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีได้ โจทก์และโจทก์ร่วมย่อมมีอำนาจฟ้องให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินได้
โจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินจากโจทก์ร่วม แต่เข้าครอบครองที่ดินที่เช่าไม่ได้เพราะจำเลยไม่ยอมออกไป ถ้าโจทก์แพ้คดีโจทก์ไม่สามารถเรียกค่าทดแทนที่ไม่ได้เข้าครอบครองที่ดินตามสัญญาจากโจทก์ร่วมได้และอาจถูกโจทก์ร่วมเรียกค่าเสียหายได้ด้วยดังนี้ จึงเป็นเหตุจำเป็นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3)(ก) ที่จะอนุญาตให้หมายเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีได้ โจทก์และโจทก์ร่วมย่อมมีอำนาจฟ้องให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2067/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังไม่สามารถเอาผิดจำเลยได้ แม้โจทก์อุทธรณ์ประเด็นข้อกฎหมาย
คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายว่าโจทก์มิได้อุทธรณ์นอกฟ้อง แต่เมื่อข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังมาไม่อาจเอาผิดแก่จำเลยทั้งสองได้แล้วฎีกาปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15