พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,935 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่โต้แย้ง และฎีกาขาดอายุความที่ไม่ชัดเจน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำสั่งระหว่างพิจารณาเมื่อมิได้โต้แย้งคัดค้านไว้ จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งนี้ไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226
จำเลยฎีกาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยมิได้ระบุว่าขาดอายุความอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่มิได้กล่าวให้ชัดแจ้งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยฎีกาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยมิได้ระบุว่าขาดอายุความอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่มิได้กล่าวให้ชัดแจ้งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกานอกประเด็น: การที่จำเลยอ้างเรื่องภริยาเป็นเจ้าของร่วมทรัพย์สิน มิได้ยกขึ้นเป็นเหตุต่อสู้ในชั้นศาลต่ำกว่า
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินและเรือนโรงที่จำเลยตกลงทำสัญญาจะซื้อขายให้โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุที่ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาว่า เนื่องจากจำเลยกับภริยาทำสัญญาหย่ากัน จำเลยไม่อาจจัดการประการใดในการที่ภริยาคัดค้านการซื้อขาย เพราะเป็นสิทธิของภริยาแต่จำเลยยอมขายที่ดินและเรือนโรงเฉพาะส่วนของจำเลย ดังนี้ จำเลยจะฎีกาว่าจำเลยไม่มีอำนาจทำสัญญาขายทรัพย์พิพาทให้โจทก์โดยลำพังเนื่องจากจำเลยกับภริยาไม่ได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่เป็นฎีกานอกประเด็นที่จำเลยให้การไว้ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกานอกประเด็น: จำเลยอ้างเหตุไม่มีอำนาจทำสัญญาขายร่วมกับภริยา ซึ่งไม่ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาล
โจทย์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินและเรือนโรงที่จำเลยตกลงทำสัญญาจะซื้อขายให้โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุที่ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาว่า เนื่องจากจำเลยกับภริยาทำสัญญาหย่ากัน จำเลยไม่อาจจัดการประการใดในการที่ภริยาคัดค้านการซื้อขาย เพราะเป็นสิทธิของภริยา แต่จำเลยยอมขายที่ดินและเรือนโรงเฉพาะส่วนของจำเลย ดังนี้ จำเลยจะฎีกาว่าจำเลยไม่มีอำนาจทำสัญญาขายทรัพย์พิพาทให้โจทก์โดยลำพัง เนื่องจากจำเลยกับภริยาไม่ได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ เป็นฎีกานอกประเด็นที่จำเลยให้การไว้ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันสมบูรณ์ แม้มติคณะกรรมการบริษัทจำกัดวงเงินค้ำประกัน เหตุจำเลยสมัครใจทำสัญญา
มติคณะกรรมการบริษัทให้จัดให้มีค้ำประกันสำหรับสมุหบัญชีในวงเงิน 30,000 บาท และพนักงานที่เกี่ยวกับการเงินคนละ10,000 บาทแต่สัญญาค้ำประกันที่จำเลยทำไว้กับโจทก์ไม่ได้จำกัดวงเงินที่จะต้องรับผิดชอบนั้น ก็เป็นสัญญาที่สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมาย มติของคณะกรรมการเป็นเพียงระเบียบภายในของบริษัท มิได้เกี่ยวกับจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เมื่อจำเลยสมัครใจทำสัญญาค้ำประกันไว้กับโจทก์อย่างใด ก็ต้องรับผิดชอบตามสัญญาที่ได้ทำไว้
ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกา ต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกา ต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันสมบูรณ์ แม้ขัดมติบริษัทผู้รับประกัน ย่อมผูกพันตามสัญญาที่ทำ
มติคณะกรรมการบริษัทให้จัดให้มีค้ำประกันสำหรับสมุหบัญชีในวงเงิน 30,000 บาทและพนักงานที่เกี่ยวกับการเงินคนละ 10,000 บาท แต่สัญญาค้ำประกันที่จำเลยทำไว้กับโจทก์ไม่ได้จำกัดวงเงินที่จะต้องรับผิดชอบนั้น ก็เป็นสัญญาที่สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมาย มติของคณะกรรมการเป็นเพียงระเบียบภายในของบริษัท มิได้เกี่ยวกับจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เมือจำเลยสมัครใจทำสัญญาค้ำประกันไว้กับโจทก์อย่างใด ก็ต้องรับผิดชอบตามสัญญาที่ได้ทำไว้
ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกา ต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกา ต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดจากการเป็นสามีภริยา, การกลับมาอยู่กินกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส, และสิทธิในมรดก
ข้อเท็จจริงที่ศาลล่างวินิจฉัยมา เมื่อมิได้อุทธรณ์คัดค้านหรือมิได้แก้อุทธรณ์โต้แย้งไว้โดยชัดแจ้ง อันจะให้ถือได้ว่าได้ตั้งประเด็นคัดค้านไว้ ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงต้องฟังเป็นยุติ จะฎีกาโต้เถียงต่อไปมิได้
โจทก์กับสามีเป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ต่อมาสามีโจทก์ถูกจำคุก โจทก์ก็ไปมีสามีใหม่และมีบุตรด้วยกัน เมื่อสามีโจทก์พ้นโทษก็ได้ภรรยาใหม่และมีบุตรด้วยกัน ดังนี้ เป็นการแสดงออกชัดแจ้งว่าต่างสมัครใจสละละทิ้งกันแล้ว ย่อมขาดจากการเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายลักษณะผัวเมียบทที่ 51 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้น โดยไม่จำต้องทำพิธีหย่า เมื่อภรรยาใหม่ของสามีตาย โจทก์ได้กลับมาอยู่กินกับสามีอีกเป็นเวลาภายหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว โดยมิได้จดทะเบียนสมรส โจทก์จึงไม่เป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายของสามี ไม่มีสิทธิรับมรดก
ทรัพย์ที่สามีได้มาก่อนที่โจทก์จะกลับมาอยู่กินกับสามีและทรัพย์ที่สามีโจทก์ได้รับมรดกมาเมื่อโจทก์ได้มาอยู่กินกับสามีครั้งหลัง ไม่ใช่ทรัพย์สินที่โจทก์กับสามีร่วมกันทำมาหาได้โจทก์ไม่มีส่วนเป็นเจ้าของร่วม
โจทก์กับสามีเป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ต่อมาสามีโจทก์ถูกจำคุก โจทก์ก็ไปมีสามีใหม่และมีบุตรด้วยกัน เมื่อสามีโจทก์พ้นโทษก็ได้ภรรยาใหม่และมีบุตรด้วยกัน ดังนี้ เป็นการแสดงออกชัดแจ้งว่าต่างสมัครใจสละละทิ้งกันแล้ว ย่อมขาดจากการเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายลักษณะผัวเมียบทที่ 51 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้น โดยไม่จำต้องทำพิธีหย่า เมื่อภรรยาใหม่ของสามีตาย โจทก์ได้กลับมาอยู่กินกับสามีอีกเป็นเวลาภายหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว โดยมิได้จดทะเบียนสมรส โจทก์จึงไม่เป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายของสามี ไม่มีสิทธิรับมรดก
ทรัพย์ที่สามีได้มาก่อนที่โจทก์จะกลับมาอยู่กินกับสามีและทรัพย์ที่สามีโจทก์ได้รับมรดกมาเมื่อโจทก์ได้มาอยู่กินกับสามีครั้งหลัง ไม่ใช่ทรัพย์สินที่โจทก์กับสามีร่วมกันทำมาหาได้โจทก์ไม่มีส่วนเป็นเจ้าของร่วม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสามีภริยาที่สิ้นสุดลงและการไม่มีสิทธิในมรดกเมื่อไม่ได้จดทะเบียนสมรส
ข้อเท็จจริงที่ศาลล่างวินิจฉัยมา เมื่อมิได้อุทธรณ์คัดค้านหรือมิได้แก้อุทธรณ์โต้แย้งไว้โดยชัดแจ้ง อันจะให้ถือได้ว่าได้ตั้งประเด็นคัดค้านไว้ ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงต้องฟังเป็นยุติ จะฎีกาโต้เถียงต่อไปมิได้
โจทก์กับสามีเป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ต่อมาสามีโจทก์ถูกจำคุก โจทก์ก็ไปมีสามีใหม่และมีบุตรด้วยกันเมื่อสามีโจทก์พ้นโทษก็ได้ภรรยาใหม่และมีบุตรด้วยกัน ดังนี้ เป็นการแสดงออกชัดแจ้งว่าต่างสมัครใจสละละทิ้งกันแล้ว ย่อมขาดจากการเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายลักษณะผัวเมียบทที่ 51 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นโดยไม่จำต้องทำพิธีหย่า เมื่อภรรยาใหม่ของสามีตาย โจทก์ได้กลับมาอยู่กินกับสามีอีกเป็นเวลาภายหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 แล้ว โดยมิได้จดทะเบียนสมรส โจทก์จึงไม่เป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายของสามี ไม่มีสิทธิรับมรดก
ทรัพย์ที่สามีได้มาก่อนที่โจทก์จะกลับมาอยู่กินกับสามีและทรัพย์ที่สามีโจทก์ได้รับมรดกมาเมื่อโจทก์ได้มาอยู่กินกับสามีครั้งหลัง ไม่ใช่ทรัพย์สินที่โจทก์กับสามีร่วมกันทำมาหาได้ โจทก์ไม่มีส่วนเป็นเจ้าของร่วม
โจทก์กับสามีเป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ต่อมาสามีโจทก์ถูกจำคุก โจทก์ก็ไปมีสามีใหม่และมีบุตรด้วยกันเมื่อสามีโจทก์พ้นโทษก็ได้ภรรยาใหม่และมีบุตรด้วยกัน ดังนี้ เป็นการแสดงออกชัดแจ้งว่าต่างสมัครใจสละละทิ้งกันแล้ว ย่อมขาดจากการเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายลักษณะผัวเมียบทที่ 51 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นโดยไม่จำต้องทำพิธีหย่า เมื่อภรรยาใหม่ของสามีตาย โจทก์ได้กลับมาอยู่กินกับสามีอีกเป็นเวลาภายหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 แล้ว โดยมิได้จดทะเบียนสมรส โจทก์จึงไม่เป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายของสามี ไม่มีสิทธิรับมรดก
ทรัพย์ที่สามีได้มาก่อนที่โจทก์จะกลับมาอยู่กินกับสามีและทรัพย์ที่สามีโจทก์ได้รับมรดกมาเมื่อโจทก์ได้มาอยู่กินกับสามีครั้งหลัง ไม่ใช่ทรัพย์สินที่โจทก์กับสามีร่วมกันทำมาหาได้ โจทก์ไม่มีส่วนเป็นเจ้าของร่วม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีและการออกเช็คของผู้ที่มิได้เป็นตัวแทน
ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคาร โดยยอมให้บุคคลอีกคนหนึ่งออกเช็คสั่งจ่ายเงินในบัญชีของตนได้ด้วยนั้น กรณีมิใช่เป็นเรื่องตั้งเป็นตัวแทนไปทำสัญญากู้ และข้อตกลงระหว่างผู้ไปทำสัญญากู้กับผู้ที่ตนยอมให้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินในบัญชีของตนได้ ก็ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือ
ออกเช็คสั่งจ่ายเงินตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีของบุคคลอื่นตามความตกลงระหว่างกัน ต้องรับผิดใช้เงินคืนให้แก่เจ้าของบัญชี แม้ธนาคารผู้ให้กู้จะยังไม่ได้ทวงถามเจ้าของบัญชีก็ตาม หากผู้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินนั้นถึงแก่ความตายก่อนชดใช้เงิน กองมรดกของผู้นั้นก็ต้องรับผิดต่อเจ้าของบัญชี
ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นว่ากล่าวไว้แล้วในศาลชั้นต้น แต่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาไม่ได้
ออกเช็คสั่งจ่ายเงินตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีของบุคคลอื่นตามความตกลงระหว่างกัน ต้องรับผิดใช้เงินคืนให้แก่เจ้าของบัญชี แม้ธนาคารผู้ให้กู้จะยังไม่ได้ทวงถามเจ้าของบัญชีก็ตาม หากผู้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินนั้นถึงแก่ความตายก่อนชดใช้เงิน กองมรดกของผู้นั้นก็ต้องรับผิดต่อเจ้าของบัญชี
ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นว่ากล่าวไว้แล้วในศาลชั้นต้น แต่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเบิกเงินเกินบัญชี: ผู้สั่งจ่ายเช็คมีหน้าที่รับผิดชอบหนี้แม้ธนาคารยังไม่เรียกเก็บ
ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคาร โดยยอมให้บุคคลอีกคนหนึ่งออกเช็คสั่งจ่ายเงินในบัญชีของตนได้ด้วยนั้น กรณีมิใช่เป็นเรื่องตั้งเป็นตัวแทนไปทำสัญญากู้ และข้อตกลงระหว่างผู้ไปทำสัญญากู้กับผู้ที่ตนยอมให้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินในบัญชีของตนได้ ก็ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือ
ออกเช็คสั่งจ่ายเงินตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีของบุคคลอื่นตามความตกลงระหว่างกัน ต้องรับผิดใช้เงินคืนให้แก่เจ้าของบัญชี แม้ธนาคารผู้ให้กู้จะยังไม่ได้ทวงถามเจ้าของบัญชีก็ตาม หากผู้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินนั้นถึงแก่ความตายก่อนชดใช้เงิน กองมรดกของผู้นั้นก็ต้องรับผิดต่อเจ้าของบัญชี
ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นว่ากล่าวไว้แล้วในศาลชั้นต้น แต่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาไม่ได้
ออกเช็คสั่งจ่ายเงินตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีของบุคคลอื่นตามความตกลงระหว่างกัน ต้องรับผิดใช้เงินคืนให้แก่เจ้าของบัญชี แม้ธนาคารผู้ให้กู้จะยังไม่ได้ทวงถามเจ้าของบัญชีก็ตาม หากผู้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินนั้นถึงแก่ความตายก่อนชดใช้เงิน กองมรดกของผู้นั้นก็ต้องรับผิดต่อเจ้าของบัญชี
ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นว่ากล่าวไว้แล้วในศาลชั้นต้น แต่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจและยกที่ดิน: ประเด็นความสามารถในการทำนิติกรรมของผู้มอบอำนาจและขอบเขตการฟ้องร้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นมรดกของมารดา ขอให้ศาลสั่งทำลายหนังสือมอบอำนาจและเพิกถอนนิติกรรมสัญญาให้ที่พิพาทซึ่งทำตามหนังสือมอบอำนาจ เพราะหนังสือมอบอำนาจเป็นโมฆะเนื่องจากมารดาพิมพ์ลายนิ้วมือขณะที่มีสติฟั่นเฟือนไม่รู้สึกผิดชอบดังนี้ โจทก์จะฎีกาว่าที่พิพาทเป็นมรดกของบิดา มารดาไม่มีสิทธิยกที่พิพาทที่เป็นมรดกของบิดานั้นหาได้ไม่ เพราะเป็นฎีกานอกประเด็นจากที่กล่าวในฟ้อง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้