คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 249

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,935 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้รับประกันภัยและผู้รับขนส่งทางทะเล กรณีสินค้าเปียกน้ำ และประเด็นอายุความฟ้องร้อง
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับขนส่งทางทะเล เนื่องจากของที่ขนส่งเปียกน้ำ โดยระบุเหตุที่ทำให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหายเกิดจากการประมาทเลินเล่อของนายเรือผู้ควบคุมดูแลยานพาหนะ และส่งสำเนากรมธรรม์มาด้วย ซึ่งตามกรมธรรม์ ข้อ 9 ระบุว่า บริษัทไม่ต้องรับผิดจากภัยอันเนื่องจากการเสียหาย ฯลฯ อันเกิดแต่การเลินเล่อของนายเรือจำเลยมิได้ยกกรมธรรม์ ข้อ 9 ขึ้นมาต่อสู้ เพื่อให้พ้นความรับผิด ก็ไม่มีประเด็นในข้อนี้ ดังนี้ ศาลไม่มีอำนาจหยิบยกกรมธรรม์ ข้อ 9 นั้น ขึ้นวินิจฉัยให้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2502)
สัญญาประกันภัยการขนส่งทางทะเลระบุว่า ประกันภัยน้ำย่อมกินความถึงการเปียกน้ำทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเลหรือน้ำจืด ซึ่งทำให้ทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยเสียหาย
อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับขนส่งทางทะเล ไม่มีบทบัญญัติไว้ในกฎหมายไทย แต่นำเอาอายุความรับขนตาม มาตรา 624 ป.พ.พ. มาใช้ปรับแก่คดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีอาญาใช้เช็คไม่มีเงิน กับ คดีแพ่งเรียกใช้เงินตามเช็ค ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้นเรื่องฟ้องซ้ำ
จำเลยก็ยกขึ้นมาคัดค้านในชั้นฎีกาได้
คดีก่อนโจทก์ฟ้องทางอาญาขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้เช็คไม่มีเงินแต่คดีหลังโจทก์ฟ้องทางแพ่งขอให้จำเลยใช้เงินตามเช็คที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายแม้ว่าจะเป็นเช็คฉบับเดียวกันกับที่พิพาทกันในคดีอาญาก็ไม่เป็นฟ้องซ้ำเพราะเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีอาญาใช้เช็คไม่มีเงิน กับ คดีแพ่งเรียกใช้เงินตามเช็ค ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้นเรื่องฟ้องซ้ำ จำเลยก็ยกขึ้นมาคัดค้านในชั้นฎีกาได้
คดีก่อนโจทก์ฟ้องทางอาญาขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้เช็คไม่มีเงิน แต่คดีหลังโจทก์ฟ้องทางแพ่งขอให้จำเลยใช้เงินตามเช็คที่จำเลยเป็นสั่งจ่าย แม้ว่าจะเป็นเช็คฉบับเดียวกันกับที่พิพาทกันในคดีอาญา ก็ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำความผิดชิงทรัพย์: ศาลฎีกายกฟ้องจำเลยที่ 1 แม้ไม่ได้ฎีกา
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการสมคบกันชิงทรัพย์ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยเป็นเพียงผู้สนับสนุนโจทก์ฎีกาฝ่ายเดียว ขอให้ลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิด แม้จำเลยไม่ได้ฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยและยกฟ้องได้เพราะเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขาย - เหตุสุดวิสัย - การหาซื้อสินค้าทดแทน
ปัญหาที่ว่าสัญญารายพิพาทเป็นนิติกรรมมีเงื่อนไขบังคับก่อนแล้วแต่ใจลูกหนี้ฝ่ายเดียวหรืออย่างไรนั้นไม่ใช่ปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การที่ไม่มีนุ่นตามตัวอย่างที่ตกลงกัน เพราะโรงงานที่จำเลยตกลงจะซื้อนุ่นเพื่อขายให้โจทก์ต้องเลิกล้มไป เช่นนี้ ไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัยอันจะทำให้จำเลยพ้นจากความรับผิด เพราะปรากฏว่าขณะทำสัญญาซื้อขายนุ่นกันนี้ มีโรงงานทำนุ่นหลายแห่งที่จำเลยสามารถหาซื้อนุ่นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเคหะ: สัญญาเช่าโรงรถใช้เป็นที่อยู่อาศัย ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ไม่ได้
การเช่าโรงเก็บรถนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำพยานและสภาพของสถานที่ว่าเช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยก็ถือว่าเป็นการเช่า 'เคหะ' ตามความหมายของกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
แม้สัญญาจะมีถ้อยคำว่า 'เช่าโรงรถ' ก็ตามคู่ความก็ยังนำสืบได้ว่าเมื่อเช่ามาแล้วมิได้ใช้เก็บรถหากใช้เป็นที่อยู่อาศัยตลอดมาไม่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร
การให้เช่า 'เคหะ' ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่านั้นผู้ให้เช่าจะถือเอาเหตุที่สัญญาสิ้นอายุมาฟ้องขับไล่ผู้เช่าไม่ได้และผู้ให้เช่าจะได้บอกกล่าวเลิกสัญญาหรือไม่ก็ไม่สำคัญ
ในเรื่องเช่า 'เคหะ' ข้อสัญญาที่ว่าเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า ผู้เช่ายอมให้ถือว่าผู้เช่ายินยอมออกจากที่เช่าตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันนั้น ความยินยอมเช่นว่านี้ใช้บังคับไม่ได้(เทียบฎีกาที่ 1963-1965/2494, ฎีกาที่ 769/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794-1795/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อรู้ผู้รับผิด และการยกประเด็นใหม่ในชั้นฎีกา
การนับอายุความ 1 ปี เรื่องละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 ต้องเริ่มนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้ว่าใครควรรับผิดอย่างใด เมื่อมาฟ้องคดีเกินกว่าหนึ่งปี นับแต่ได้ทราบเรื่อง ก็ขาดอายุความ (ฎีกา 243/2497)
เมื่อโจทก์จำเลยกะประเด็นกันมาแต่ศาลชั้นต้นว่ามีประเด็นข้อสืบเป็นเรื่องละเมิดแล้ว ในชั้นฎีกาจะโต้เถียงว่าควรปรับอายุความเข้าตามบทมาตรา 164,165 ย่อมเป็นการแปรเรื่องเป็นอื่นซึ่งไม่ตรงกับคดี และจะโต้เถียงว่า หากจะมิใช่เป็นความผิดเรื่องละเมิดก็ต้องรับผิดในฐานเป็นตัวแทนผู้เสียหายด้วย ดังนี้เป็นเรื่องยกประเด็นขึ้นมาใหม่ มิใช่ข้อที่ว่ากันมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794-1795/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิด: เริ่มนับแต่วันที่รู้ตัวผู้ละเมิด & ห้ามเปลี่ยนประเด็นใหม่ในชั้นฎีกา
การนับอายุความ 1 ปี เรื่องละเมิดตาม ป.พ.พ.มาตรา 448 ต้องเริ่มนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้ว่าใครควรรับผิดอย่างใด เมื่อมาฟ้องคดีเกินกว่าหนึ่งปี นับแต่ได้ทราบเรื่อง ก็ขาดอายุความ (ฎีกา 243/2497)
เมื่อโจทก์จำเลยกะประเด็นมาแต่ศาลขั้นต้นว่ามีประเด็นข้อสืบเป็นเรื่องละเมิดแล้ว ในชั้นฎีกาจะโต้เถียงว่าควรปรับอายุความเข้าตามบทมาตรา 164,165 ย่อมเป็นการแปรเรื่องเป็นอื่นซึ่งไม่ตรงกับคดี และจะโต้เถียงว่า หากจะมิใช่เป็นความผิดเรื่องละเมิดก็ต้องรับผิดในฐานเป็นตัวแทนผู้เสียหายด้วย ดังนี้เป็นเรื่องยกประเด็นขึ้นมาใหม่ มิใช่ข้อที่ว่ากันมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการทำละเมิดต่อที่นาทำกินของคู่สมรสที่ไม่จดทะเบียน
ชายหญิงเป็นสามีภรรยากันโดยมิได้จดทะเบียนสมรสและได้ทำนาร่วมกันมา จำเลยทำละเมิดต่อที่นาแปลงนั้น ชายมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ในนามของตนเอง และหญิงก็ร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้เพราะมีส่วนได้เสีย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการทำลายคันดินกั้นน้ำ แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และสิทธิการเป็นโจทก์ร่วม
ชายหญิงเป็นสามีภรรยากันโดยมิได้จดทะเบียนสมรสและได้ทำนาร่วมกันมา จำเลยทำละเมิดต่อที่นาแปลงนั้น ชายมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ในนามของตนเอง และหญิงก็ร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้เพราะมีส่วนได้เสีย
of 294