คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 220

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 493 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายทรัพย์สินของรัฐ: การพิจารณาความเป็นทรัพย์ที่ใช้ในราชการหลังการขาย
ในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำให้ทรัพย์ของใช้ในราชการเสียหายตาม มาตรา 325 โดยให้จำคุก 2 เดือนแต่ให้รอการลงอาญาไว้นั้น จำเลยจะฎีกาว่า ทรัพย์ที่เสียหายนั้นไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในทางราชการไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความผิดฐานทำร้ายร่างกาย: ด้ามไม้กวาดไม่ใช่สาตราวุธร้ายแรง
คดีที่มีแต่ฟ้องและคำรับ แม้ศาลล่างตัดสินต้องกันมา คู่ความก็ฎีกาว่าตามคำฟ้องและคำรับนั้นลงโทษฐานพยายามทำร้ายร่างกายได้
ใช้ด้ามไม้กวาดตีศรีษะแต่เขายกแขนรับ ไม่ถึงบาดเจ็ด ศาลลงโทษเพียงฐานทำร้ายไม่ถึงบาดเจ็ด ไม่ลงโทษฐานพยายามทำร้ายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254,60.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความผิดฐานทำร้ายร่างกายเมื่อใช้ไม้กวาดตี แต่ผู้ถูกทำร้ายยกแขนป้องกันจนไม่ถึงบาดเจ็บ
คดีที่มีแต่ฟ้องและคำรับแม้ศาลล่างตัดสินต้องกันมา
คู่ความก็ฎีกาว่าตามคำฟ้องและคำรับนั้นลงโทษฐานพยายามทำร้ายร่างกายได้
ใช้ด้ามไม้กวาดตีศีรษะแต่เขายกแขนรับ ไม่ถึงบาดเจ็บ ศาลลงโทษเพียงฐานทำร้ายไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่ลงโทษฐานพยายามทำร้ายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254,60

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้กระทำผิดซ้ำถูกพิจารณาว่ามีสันดานเป็นผู้ร้าย และถูกกักกันตามกฎหมาย
จำเลยทำผิดฐานลักทรัพย์และวิ่งราวมาถึง 3 ครั้ง ระหว่างพ.ศ.2480 ถึง 2489 ดังนี้นับว่าจำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ควรลงโทษกักกันจำเลยแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือน เมื่อพ้นโทษแล้วให้กักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไม่เพิ่มโทษกักกันดังนี้ถือว่าแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง: คดีข้อเท็จจริงที่ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ฎีกา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยรื้อเรือนส่วนหนึ่งของโจทก์ไป ขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์ จำเลยรับว่ารื้อจริง แต่จำเลยปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างนั้นไว้ เมื่อเลิกเช่าจึงรื้อไปตามที่ตกลงไว้ ดังนี้ เป็นการต่อสู้กรรมสิทธิ์ว่าตนเป็นเจ้าของและมีสิทธิจะรื้อไป ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างให้ลงโทษปรับจำเลยโดยฟังว่าจำเลยไม่มีสิทธิรื้อแล้ว คู่ความจะฎีกาต่อไปไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางเป็นโทษทางอาญา ไม่อุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
เมื่อศาลชั้นต้นปรับจำเลย 100 บาท กับให้ริบของกลางด้วย จำเลยอุทธรณ์ขออย่าริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ฉะเพาะให้คืนทรัพย์ของกลาง ดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องริบของกลางไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญา ม. 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในประเด็นริบของกลาง: ข้อจำกัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
เมื่อศาลชั้นต้นปรับจำเลย 100 บาทกับให้ริบของกลางด้วยจำเลยอุทธรณ์ขออย่าริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนทรัพย์ของกลางดังนี้โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องริบของกลางไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลเล็กน้อยไม่ถึงขั้น 'บาดเจ็บ' ตามประมวลกฎหมายอาญา
บาดแผลที่แก้มบวมฟกช้ำรักษา 7 วันหาย และแผลที่ข้อศอกผิวหนังถลอกโลหิตซับรักษา 5 วันหายนั้น ไม่นับว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยคำพูดต่อหน้า: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม เหตุเป็นการเถียงข้อเท็จจริง
ศาลล่างทั้งสอง ลงโทษฐานหมิ่นประมาท จำเลยฎีกาว่าคำกล่าวนั้น เป็นการด่ากันซึ่งหน้า และไม่มีใครเชื่อถือนั้นเป็นการเถียงข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การด่าซึ่งหน้าและการเถียงข้อเท็จจริง ไม่เป็นเหตุต้องห้ามฎีกาหมิ่นประมาท
ศาลล่างทั้งสองลงโทษฐานหมิ่นประมาท จำเลยฎีกาว่าคำกล่าวนั้น เป็นการด่ากันซึ่งหน้า และไม่มีใครเชื่อถือนั้นเป็นการเถียงข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา
of 50