คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 220

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 493 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าสินบนนำจับในคดีพ.ร.บ.การพะนัน: การมีอยู่ของผู้นำจับต้องมีพยานหลักฐานสนับสนุน
ไพ่ต่อแต้ม ในคดีผิดพระราชบัญญัติการพะนันศาลจะบังคับให้จำเลยใช้ค่าสินบนนำจับต่อเมื่อปรากฎว่ามีผู้นำจับ เพียงแต่ผู้ไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่ามีคนลักเล่นการพะนันกันที่นั่นที่นี่ไม่เรียกว่ามีผู้นำจับ
ในคดีที่ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ หากศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีคำพะยานหลักฐานในท้องสำนวนแล้วศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นปรับจำเลย 30 บาทศาลอุทธรณ์แก้ให้จำเลยใช้ค่าสินบนนำจับอีก 1 ใน 4 ของค่าปรับด้วย ดังนี้ คู่ความฎีกาได้ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจดุลยพินิจศาลในการริบทรัพย์: การที่ศาลอุทธรณ์ไม่ริบทรัพย์เป็นดุลยพินิจที่โจทก์ไม่อาจฎีกาได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย 400 บาท และให้ริบยางของกลาง ศาลอุทธรณ์แก้ให้คืนยางของกลางให้จำเลยไปส่วนโทษปรับคงพิพากษายืนดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้
การจะให้ริบทรัพย์หรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาลซึ่งถือว่าเป็นข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองลายมือชื่อปลอมเพื่อขอเอกสารราชการ มีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
เซ็นชื่อรับรองลายมือปลอมของผู้อื่น เพื่อขอให้เจ้าพนักงานออกตั๋วพิมพ์รูปพรรณให้ต้องมีผิดฐานปลอมหนังสือตามม.225(1)
รอการลงอาญาหรือไม่อยู่ในดุลยพินิจของศาลแลเป็นข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ดุลพินิจศาลในการรอการลงอาญา: ข้อจำกัดในการฎีกาเกี่ยวกับการแก้ไขดุลพินิจ
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ให้จำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี ศาลเดิมไม่รอการลงอาญาแต่ศาลอุทธรณ์ให้รอการลงอาญานั้น คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายกลุ่มบุคคล: การพิสูจน์เจตนาสมคบเพื่อทำร้าย และบทลงโทษตาม ม.256 vs. ม.258
ทั้งสองฝ่ายต่างมีพวกเกิดวิวาทต่อสู้ทำร้ายกันแต่ไม่ได้ความฝ่ายหนึ่งสมคบกันเพื่อมาทำร้าย+ฝ่ายหนึ่ง เมื่อฝ่ายนั้นมีบาดเจ็บดังนี้ จะลงโทษ+ที่ทำร้ายตาม ม.256 ไม่ได้ ต้องลงโทษตาม ม.258 ศาลอุทธรณ์วาง ม.256 จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษตาม ม.258 +ขอให้รอการลงอาญาได้ไม่ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นป๊อกด้วยไพ่เป็นพะนันประเภทห้ามขาด แม้ฟ้องกล่าวถึง 'ไพ่' แต่จำเลยรับสารภาพว่าเป็นการพะนันห้ามขาด
การเล่นป๊อกด้วยไพ่นั้นเข้าอยู่ในการพะนันประเภทห้ามขาดตามบัญชีหมาย ก. ที่ 11 หาเข้าอยู่ในบัญชีหมายเลขที่ 21 ที่ว่า"ไพ่ต่างๆ ไม่" วิธีพิจารณาอาญา คำรับสารภาพ ฟ้อง,ตัดสิน โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเล่นไพ่ป๊อกอันเป็นการพะนันประเภทห้ามขาดและจำเลยให้การรับสารภาพนั้น ต้องถือว่าจำเลยเล่นป๊อกด้วยไพ่อันเป็นความผิดเข้าอยู่ในบัญชีหมาย ก.เลขที่ 11 ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1359/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมาทในการขับรถและการลงโทษตามกฎหมายอาญา vs. กฎหมายจราจร
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายอาญา ม.259 และ พ.ร.บ.รถยนต์และ พ.ร.บ.จราจรให้จำคุก 3 เดือน ตามกฎหมายอาญา ม.259 ซึ่งเป็นบทหนัก ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.จราจร ให้ปรับ 5 บาท คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 966/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาบาดแผลทางกายเพื่อประเมินความรุนแรงของการทำร้ายร่างกาย และการวินิจฉัยว่าเข้าข่าย 'บาดเจ็บ' ตามกฎหมาย
การวินิจฉัยว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บหรือไม่นั้นต้องดูบาดแผลประกอบกับบริเวณอวัยวะที่ถูกทำร้าย ถูกชกต่อยที่หน้าแลที่คอถึงฟกบวมแลมีบางแผลถลอกโลหิตซับนั้น นับว่าถึงบาดเจ็บ การที่ศาลฎีกาพิจารณาบาดแผลที่ถูกทำร้ายตามฟ้องแลคำรับสารภาพประกอบกับใบชัณสูตร์บาดแผลท้ายฟ้องนั้น ไม่นับว่าเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตดุลยพินิจศาลในการกำหนดโทษปรับ และการแก้ไขคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปรับจำเลย 10 สตางค์ตามมาตรา 339 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ปรับ 1 บาทตาม ม.339-59 ดังนี้เป็นแก้น้อย ฎีกาไม่ได้ต้องห้ามตาม ม.218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาเรื่องบาดแผลสาหัส: ปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฎีกาอุทธรณ์ ปัญหาข้อเท็จจริง
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกไม่เกิน 1 ปี แม้ศาลอุทธรณ์วางโทษน้อยลงและให้รอการลงอาญาก็ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
of 50