คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 ม. 48

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูปยังไม่เป็นเครื่องใช้ การครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิด
ไม้ของกลางเป็นไม้สักแผ่นเล็กๆ รวม 95 ชิ้น ตัดเป็นรูปคล้ายค้างคาวและปลาตรงกลางขุดเซาะเป็นแอ่ง ตัดและขุดเป็นรูปหยาบๆ ยังไม่เป็นรูปสัตว์ และดูไม่ออกว่าทำเป็นภาชนะใส่อะไร ไม่ได้ตกแต่งตาม รอยตัด ไม่ลบเหลี่ยม มีเสี้ยนและรอยสิ่ว รอยมีดไม่ขัดทาน้ำมัน ลักษณะ ดังนี้ถือได้ว่ายังเป็นไม้แปรรูปอยู่ ยังไม่เป็นภาชนะใส่อาหารตั้งบนโตกอัน จะเป็นเครื่องใช้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูปเป็นบานประตูหน้าต่างสำเร็จรูปแล้ว ไม่ถือเป็นไม้แปรรูปตามกฎหมายป่าไม้
บานประตูและบานหน้าต่างของกลางนั้น กรอบนอกส่วนหัวและส่วนกลางเข้าเดือยหรือลิ่มแน่นหนามั่นคง และเซาะเป็นร่องที่บานเจตนาเพื่อใช้เป็นบานประตู บานหน้าต่างโดยเฉพาะแม้ส่วนหัวและส่วนท้ายไม่เรียบเสมอกัน ไสกบไม่เรียบร้อย ไม่มีรอยบากเพื่อใส่เหล็กริโก้หรือเพื่อใส่บานพับ จะนำไปใช้ประกอบสิ่งปลูกสร้างทีเดียวไม่ได้ ก็เป็นบานประตู บานหน้าต่าง สำเร็จรูปแล้วคงอยู่แต่จะตบแต่งติดตั้งเท่านั้น จึงเป็นเครื่องใช้สำหรับสิ่งปลูกสร้างแล้วไม่ใช่ไม้แปรรูป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1978/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้ที่โค่นก่อนมีกฎหมายใหม่ ไม้แปรรูปในครอบครองไม่ผิด แม้ต่อมาเป็นไม้หวงห้าม
ไม้ยางที่ขึ้นในที่ดินของจำเลย จำเลยได้ตัดฟันก่อนใช้พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 ย่อมไม่เป็นความผิด และการมีไม้แปรรูปนั้น ต่อมาภายหลังเมื่อประกาศใช้พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ.2503 แล้วไม้แปรรูปนั้นย่อมไม่กลายเป็นไม้หวงห้าม จำเลยมีไว้ไม่ต้องขออนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลาง (เกวียนและโค) ที่ใช้ในการกระทำความผิดฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และขอให้ริบไม้และเกวียนโคของกลางด้วย คดีได้ความตามฟ้องและคำรับสารภาพว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้ขณะที่จำเลยเอาไม้บรรทุกใส่เกวียนเทียมโค เห็นได้ว่าจำเลยใช้โคและเกวียนของกลางเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด คือ การมีไม้รายนี้ไว้โดยมิได้รับอนุญาต โคและเกวียนจึงเป็นสิ่งพึงต้องริบด้วย
โจทก์บรรยายฟ้องด้วยว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม่เหียบซึ่งจำเลยมีไว้ในขณะที่จำเลยบรรทุกใส่เกวียนเทียมโค อันเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดเป็นของกลาง และขอให้ริบไม้กับเกวียนโคของกลางด้วย เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ดังนี้ แม้ศาลชั้นต้นจะให้คืนเกวียนและโคโดยเห็นว่าไม่เกี่ยวกับการมีไม้ ก็เป็นเพียงคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ไม่ผูกมัดศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยได้ใช้เกวียนและโคเป็นอุปกรณ์ในการมีไม้ไว้ในครอบครองแล้วให้ริบเสียด้วยได้ จำเลยจะอ้างว่าเป็นข้อเท็จจริงอันถึงที่สุดแล้วหาได้ไม่