คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชุบ วีระเวคิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 567 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2095/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้จัดการมรดก: ผู้ไม่มีส่วนได้เสียและพฤติการณ์ไม่สมควรเป็นผู้จัดการ
โจทก์อยู่กินกับผู้ตายภายหลังประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ใช้บังคับโดยมิได้จดทะเบียนสมรส โจทก์จึงไม่เป็นภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นทายาทของผู้ตาย ทั้งระหว่างอยู่กินด้วยกันไม่มีทรัพย์สินใหม่เกิดขึ้น ซึ่งมีความหมายว่าไม่มีทรัพย์สินที่โจทก์กับผู้ตายร่วมกันทำมาหาได้โจทก์จึงเป็นผู้ไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกอีกไม่มีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก
จำเลยเป็นพี่ผู้ตาย ดื่มสุราจนจิตฟั่นเฟือน มีผู้สนับสนุนให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก โดยจัดหาทนายความให้ เพราะจำเลยไม่ค่อยมีเงินและจะจัดหาคนมาสร้างตึกแถวในที่ดินมรดกเพื่อหาประโยชน์ต่อไปตามพฤติการณ์ดังกล่าวไม่สมควรตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2070/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้าวโพดที่เกิดจากการเพาะปลูกในป่าสงวน ไม่เป็นของป่าและไม่ต้องริบ
จำเลยเข้าไปปลูกข้าวโพดในป่าสงวนแห่งชาติ ข้าวโพดของกลางเป็นผลิตผลเกิดจากการปลูกหว่านของจำเลย หาใช่เกิดขึ้นหรือมีอยู่ในป่าอันจำเลยเก็บเกี่ยวเอาโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงไม่ จึงไม่เป็นของป่า ทั้งไม่เป็นของที่ได้มาโดยการกระทำความผิดของจำเลยโดยตรง ไม่เป็นของที่ต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2070/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผลิตจากการเพาะปลูกในป่าสงวน ไม่ถือเป็นของป่า และไม่เข้าข่ายต้องริบ
จำเลยเข้าไปปลูกข้าวโพดในป่าสงวนแห่งชาติ ข้าวโพดของกลางเป็นผลิตผลเกิดจากการปลูกหว่านของจำเลย หาใช่เกิดขึ้นหรือมีอยู่ในป่าอันจำเลยเก็บเกี่ยวเอาโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงไม่ จึงไม่เป็นของป่า ทั้งไม่เป็นของที่ได้มาโดยกระทำความผิดของจำเลยโดยตรง ไม่เป็นของที่ต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2040/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยปฏิบัติหน้าที่จัดซื้อที่ดินโดยมิชอบหรือไม่ มีส่วนได้เสียเพื่อตนเองหรือผู้อื่นหรือไม่ ศาลฎีกาพิจารณาพยานหลักฐานและวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิด
เมื่ออธิบดีกรมอัยการชี้ขาดให้ฟ้องคดีตามความเห็นแย้งของอธิบดีกรมตำรวจแล้ว คำชี้ขาดย่อมเป็นอันถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 พนักงานอัยการต้องฟ้องคดีไปตามนั้น เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ให้อำนาจอธิบดีกรมอัยการรื้อฟื้นขึ้นมาชี้ขาดใหม่ได้ อธิบดีกรมอัยการจึงไม่มีอำนาจที่จะชี้ขาดกลับคำสั่งของตนได้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2036/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการโอนทรัพย์สินที่ถูกยึด ศาลฎีกาเพิกถอนคำสั่งโอนทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้ก่อน
ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยข้อที่ผู้ร้องอุทธรณ์ขึ้นมาด้วยเมื่อข้อเท็จจริง มีอยู่ในสำนวนครบถ้วนแล้วศาลฎีกาวินิจฉัยไปได้โดยไม่ต้องย้อนสำนวน ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่
ศาลชั้นต้นมีหนังสือถึงนายอำเภอให้โอนที่ดินและโรงเรือนพิพาทให้ โจทก์แม้จะเป็นการปฏิบัติตามคำบังคับของศาลแต่ทรัพย์ดังกล่าวถูก เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ตามหมายบังคับคดีในอีกคดีหนึ่งอยู่ในระหว่างรอการขายทอดตลาดศาลมีคำสั่งโดยผู้ร้องไม่ยินยอมด้วยทำให้ผู้ร้องซึ่งกำลังบังคับคดีอยู่ในคดีดังกล่าวได้รับความเสียหายจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2002/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่าสองหมื่นบาท ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเกินขอบเขตที่ศาลชั้นต้นสั่งรับ
ในคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย ส่วนข้อเท็จจริงมิได้สั่งรับเป็นอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงเป็นเรื่องนอกประเด็นในชั้นอุทธรณ์ แม้การวินิจฉัยดังกล่าวเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง อันเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดกฎหมายอย่างไร ศาลอุทธรณ์ก็หาอาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้ไม่ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินโดยแลกเปลี่ยนไม่ได้กรรมสิทธิ์ แม้ครอบครองนานแค่ไหน ก็เป็นเพียงการครอบครองแทน
จำเลยเอาที่นาของจำเลยมาแลกกันทำกินกับที่พิพาทของโจทก์ แม้จำเลยจะครอบครองทำกินในที่พิพาทมาช้านานเพียงใดจำเลยก็ไม่ได้สิทธิครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาทเพราะการครอบครองของจำเลยเป็นการครอบครองแทนและโดยอาศัยสิทธิของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1978/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาฐานจำหน่ายยาเสพติด ศาลพิพากษาลงโทษตามกระทงเดียวที่ฟ้อง โดยไม่ถือว่าเป็นการฟ้องหลายกระทง
ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ว่า จำเลยบังอาจสมคบร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ไว้ในความครอบครองเพื่อขาย อันเป็นการขายตามกฎหมายนั้น เป็นการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเพียงกระทงเดียว แม้คำขอท้ายฟ้องจะระบุมาตรา 13 กับ 62 อันเป็นความผิดฐานขายกับฐานมีไว้ในครอบครองมาทั้งสองมาตรา แต่เห็นได้ว่า เป็นเรื่องที่ให้ศาลลงโทษฐานขาย หากฟังไม่ได้ศาลจะได้ลงโทษฐานมีไว้ในครอบครองเท่านั้น เมื่อพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานมีไว้เพื่อขาย อันเป็นการขายตามมาตรา 13, 89 และ ศาลลงโทษจำเลยตามนั้นแล้ว ก็เป็นการลงโทษเต็มตามฟ้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1978/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องจำเลยฐานครอบครองวัตถุออกฤทธิ์เพื่อขาย ศาลวินิจฉัยว่าการลงโทษฐานขายตามคำฟ้องแล้ว ถือว่าครบถ้วนตามฟ้อง
ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ว่า จำเลยบังอาจสมคบร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ไว้ในความครอบครองเพื่อขาย อันเป็นการขายตามกฎหมายนั้น เป็นการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเพียงกระทงเดียว แม้คำขอท้ายฟ้องจะระบุมาตรา13 กับ 62 อันเป็นความผิดฐานขายกับฐานมีไว้ในครอบครองมาทั้งสองมาตรา แต่เห็นได้ว่า เป็นเรื่องที่ให้ศาลลงโทษฐานขาย หากฟังไม่ได้ศาลจะได้ลงโทษฐานมีไว้ในครอบครองเท่านั้น เมื่อพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานมีไว้เพื่อขาย อันเป็นการขายตามมาตรา 13,89 และศาลลงโทษจำเลยตามนั้นแล้ว ก็เป็นการลงโทษเต็มตามฟ้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1965/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คหลายฉบับลงวันที่ต่างกันถือเป็นกรรมต่างกัน แม้โจทก์มิได้ฎีกา ศาลฎีกาปรับบทลงโทษได้
จำเลยออกเช็ค 3 ฉบับ ครั้งเดียวลงวันที่สั่งจ่ายต่างกันชี้ให้เห็นว่าจำเลยเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับแยกจากกันจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
of 57