คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชุบ วีระเวคิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 567 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2270/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเลื่อนคดีเนื่องจากทนายโจทก์ป่วย และความจำเป็นในการพิจารณาคำร้องก่อนมีคำสั่งขาดนัด
ทนายโจทก์ป่วยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำขอเลื่อนคดีไว้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ศาลมิได้นำเสนอก่อนศาลออกนั่งพิจารณา จะถือว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาหาได้ไม่ และกรณีเช่นนี้เป็นความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ ประกอบกับยังไม่มีการสืบพยานจำเลย โจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก สมควรอนุญาตให้เลื่อนคดีตามขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2054/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนรับรองบุตร: เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งความ/ประกาศหาความยินยอมมารดา หากไม่พบและไม่มีคัดค้าน ต้องจดทะเบียนให้
การขอจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1548 วรรคสองนั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งความการขอจดทะเบียนไปยังเด็กและมารดา เพื่อเปิดโอกาสให้คัดค้านหรือไม่คัดค้านหากไม่ทราบที่อยู่ของมารดาเด็กก็ควรปิดประกาศหรือแจ้งความทางหนังสือพิมพ์โดยให้ผู้ร้องขอจดทะเบียนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเมื่อไม่มีการคัดค้าน เจ้าหน้าที่ต้องจดทะเบียนให้ จะอ้างระเบียบภายในโดยมิได้ปฏิบัติตามวรรคสองของมาตรา 1548 เสียก่อนย่อมไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2054/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนรับรองบุตร: หน้าที่เจ้าหน้าที่แจ้งความและเปิดโอกาสคัดค้าน แม้ไม่ทราบที่อยู่มารดา
การขอจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1548 วรรคสองนั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งความการขอจดทะเบียนไปยังเด็กและมารดา เพื่อเปิดโอกาสให้คัดค้านหรือไม่คัดค้านหากไม่ทราบที่อยู่ของมารดาเด็กก็ควรปิดประกาศหรือแจ้งความทางหนังสือพิมพ์โดยให้ผู้ร้องขอจดทะเบียนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเมื่อไม่มีการคัดค้าน เจ้าหน้าที่ต้องจดทะเบียนให้ จะอ้างระเบียบภายในโดยมิได้ปฏิบัติตามวรรคสองของมาตรา 1548 เสียก่อน ย่อมไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โฉนดที่ออกทับที่ดินเดิม เจ้าของเดิมมีสิทธิแม้มีการโอนหลายครั้ง ศาลมีอำนาจเพิกถอนโฉนดที่ไม่ชอบ
โฉนดที่พิพาทออกทับที่ของโจทก์ จึงเป็นการออกโฉนดที่ไม่ชอบแม้จะมีการโอนทางทะเบียนกี่ครั้งก็ตาม ผู้รับโอนก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ เพราะผู้ออกโฉนดไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท ผู้รับโอนคนต่อมาแม้จะเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ก็ไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน
โฉนดที่พิพาทออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้โจทก์ไม่มีคำขอศาลก็มีอำนาจสั่งเพิกถอนโฉนดที่พิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1967/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเอกสารปลอมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อพ้นผิด แม้เป็นผู้ต้องหาฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ก็ถือเป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
เจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่บ้านจำเลย พบรถยนต์ซึ่งถูกคนร้ายลักมา 1 คัน จำเลยแสดงตนว่าเป็นเจ้าของรถ โดยนำใบอนุญาตทะเบียนรถยนต์และแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีซึ่งเป็นเอกสารปลอมมาแสดงเพื่อให้พ้นผิด เป็นการใช้หรืออ้างเอกสารนั้นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับแล้ว เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเอกสารดังกล่าว เป็นเอกสารปลอม แม้จำเลยต้องหาฐานลักทรัพย์รับของโจร จำเลยก็มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานเพิ่มเติมต้องมีเหตุสมควร หากไม่มีเหตุผลรองรับ ศาลย่อมต้องห้ามมิให้รับฟัง
เมื่อไม่มีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยระบุพยานเพิ่มเติมตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม แม้ศาลชั้นต้นได้สืบพยานที่ระบุ เพิ่มเติมไปแล้ว ก็ย่อมต้องห้าม มิให้รับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจโทษยาเสพติด: ศาลฎีกาแก้ไขโทษจำคุกเบาลงสำหรับจำเลยร่วม กระทบถึงจำเลยที่ไม่ฎีกา
ในกรณีที่ศาลฎีกาเห็นว่า ดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลล่างหนักไป สมควรกำหนดโทษจำเลยที่ฎีกาขึ้นมาให้เบาบางลงไปอีก และเนื่องจากจำเลยที่ฎีกากับจำเลยที่มิได้ฎีกากระทำความผิดร่วมกัน เหตุสมควรกำหนดโทษดังกล่าวจึงเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาได้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 213 ประกอบด้วยมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกา และข้อจำกัดการวินิจฉัยประเด็นใหม่ที่ไม่เคยยกขึ้นในศาลชั้นต้น
จำเลยยกข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การเพียงว่าหนังสือสัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นหนังสือสัญญาระงับข้อพิพาทคดีอาญาเป็นโมฆะไม่ได้ต่อสู้ว่าคดีที่โจทก์ถอนคำร้องทุกข์เป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ในชั้นฎีกาจำเลยจะฎีกาว่าความผิดคดีอาญาดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้หาได้ไม่ เพราะเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทั้งมิใช่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1566/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่ารักษาทรัพย์ยึด: ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจกำหนดค่าธรรมเนียมได้ แม้ต่ำกว่าสัญญาก็ตาม
ค่ารักษาทรัพย์ (ที่ยึดไว้ในคดี) เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งศาลอาจจะพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควร ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 161 ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดค่ารักษาทรัพย์ให้ผู้ร้องต่ำกว่าจำนวนที่ระบุในหนังสือสัญญารักษาทรัพย์จึงเป็นอำนาจที่จะกระทำได้ หาเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่เมื่อค่ารักษาทรัพย์เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ศาลอาจสั่งให้ได้ การที่ผู้ร้องไม่พอใจคำสั่งกำหนดค่ารักษาทรัพย์ของศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ต่อมาก็เป็นการฟ้องคดีต่อศาลอุทธรณ์ ให้กำหนดค่ารักษาทรัพย์เช่นเดียวกันหาใช่เรื่องเรียกร้องค่ารักษาทรัพย์ไม่ จึงเป็นคดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1566/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งค่ารักษาทรัพย์ยึดในคดีแพ่ง: ศาลใช้ดุลพินิจได้ แม้ไม่ตรงตามสัญญา
ค่ารักษาทรัพย์ (ที่ยึดไว้ในคดี) เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งศาลอาจจะพิจารณาสั่งให้ได้ตามที่เห็นสมควร ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 161 ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดค่ารักษาทรัพย์ให้ผู้ร้องต่ำกว่าจำนวนที่ระบุในหนังสือสัญญารักษาทรัพย์จึงเป็นอำนาจที่จะกระทำได้ หาเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่เมื่อค่ารักษาทรัพย์เป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ศาลอาจสั่งให้ได้ การที่ผู้ร้องไม่พอใจคำสั่งกำหนดค่ารักษาทรัพย์ของศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ต่อมาก็เป็นการฟ้องคดีต่อศาลอุทธรณ์ ให้กำหนดค่ารักษาทรัพย์เช่นเดียวกัน หาใช่เรื่องเรียกร้องค่ารักษาทรัพย์ไม่ จึงเป็นคดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
of 57