พบผลลัพธ์ทั้งหมด 564 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275-278/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่สาธารณะและผลกระทบต่อการใช้ประโยชน์ที่ดิน โจทก์ต้องพิสูจน์ความเสียหายเป็นพิเศษ
จำเลยปลูกบ้านสร้างรั้วในที่สาธารณะหน้าที่ดินของโจทก์แต่มีทางสาธารณะจากที่ดินของโจทก์ รถยนต์ออกชายทะเลได้ไม่ถือว่าโจทก์เสียหายพิเศษ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1337 ที่จะฟ้องให้จำเลยรื้อบ้าน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการอายัดสิทธิเรียกร้อง: ศาลต้องไต่สวนพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน
เดิมศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องชั้นบังคับคดีของโจทก์ให้โดยอนุโลมว่าเป็นคำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 277 และมีคำสั่งกล่าวไว้ชัดว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลทำการไต่สวนว่าจำเลยมีทรัพย์สินอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องเป็นจำนวนเท่าใดแล้วยกคำร้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำขออายัดสิทธิเรียกร้องซึ่งมีอยู่ที่ผู้ร้องอีก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินตามคำขอ ดังนี้ คำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีไปถึงผู้ร้องครั้งหลังนี้เป็นคำสั่งตามมาตรา 311 ประกอบด้วยมาตรา 310(3) แม้เดิมศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยินยอมให้ผู้ร้องหักหนี้ไปแล้วก็ตาม ข้อเท็จจริงนั้นก็ไม่ผูกพันโจทก์กรณีขอให้อายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยครั้งหลังนี้เมื่อผู้ร้องได้ปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้ที่โจทก์เรียกร้องศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะไต่สวนพยานหลักฐานโจทก์และผู้ร้องให้เสร็จสิ้นกระแสความก่อนจะมีคำสั่งในเรื่องนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับมรดกตามพินัยกรรมตัดทายาทโดยธรรม และผลกระทบต่อสิทธิในการต่อสู้คดี
โจทก์มีสิทธิรับมรดกตามพินัยกรรมแต่ผู้เดียว จำเลยเป็นบุตรเป็นทายาทโดยธรรม ถูกตัดมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1608 วรรคท้าย ไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้ตามมาตรา 1755
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในความผิดเสพยาเสพติด แม้โจทก์มิได้อ้างบทลงโทษโดยตรง ศาลสามารถลงโทษได้ตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเสพกัญชา อ้างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 57 อันเป็นบทห้ามแต่มิได้อ้าง มาตรา 92 ซึ่งเป็นบทลงโทษไม่ใช่เรื่องโจทก์ ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ ศาลลงโทษจำเลยตาม มาตรา 92 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาปลูกบ้านและการใช้ค่าแห่งการงาน เมื่อผู้ว่าจ้างไม่ชำระเงินค่าวัสดุและห้ามทำงาน
สัญญาปลูกบ้านเสร็จใน 50 วัน แต่ผู้ว่าจ้างจ่ายเงินงวดแรกไม่ครบ และสั่งซื้อสัมภาระให้ผู้รับจ้างช้ากว่ากำหนดจึงถือกำหนด 50 วันบังคับไม่ได้ ผู้ว่าจ้างไม่ให้ผู้รับจ้างทำงานจะว่าผู้รับจ้างทิ้งงานไม่ได้ ผู้ว่าจ้างเลิกสัญญาได้โดยอาศัย มาตรา 605 จึงต้องใช้ค่าแห่งการงานที่ผู้รับจ้างได้ทำไปแล้วตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 หักกับเงินที่ผู้ว่าจ้างจ่ายให้ผู้รับจ้างไปก่อนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3122/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเกี่ยวกับสถานะทายาทเพื่อประโยชน์ในการจัดการมรดกเข้าข่ายความผิดฐานเบิกความเท็จ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177จำคุกจำเลย 2 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
แม้โจทก์จะขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนจำเลยแถลงหมดพยานแล้วก็ตาม ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งรับระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ และรับฟังเอกสารที่อ้างนั้นมาวินิจฉัยคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 228
การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกหรือไม่เป็นประเด็นโดยตรง และเป็นข้อสำคัญในคดีซึ่งศาลจำต้องวินิจฉัย การที่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ว่าผู้ตายไม่มีภรรยาและบุตร และศาลเชื่อตามคำเบิกความ เป็นผลให้จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้ตายมีสิทธิรับมรดกและศาลได้แต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานลำดับต้นและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเป็นผู้เสียประโยชน์ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
แม้โจทก์จะขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนจำเลยแถลงหมดพยานแล้วก็ตาม ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งรับระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ และรับฟังเอกสารที่อ้างนั้นมาวินิจฉัยคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 228
การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกหรือไม่เป็นประเด็นโดยตรง และเป็นข้อสำคัญในคดีซึ่งศาลจำต้องวินิจฉัย การที่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ว่าผู้ตายไม่มีภรรยาและบุตร และศาลเชื่อตามคำเบิกความ เป็นผลให้จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้ตายมีสิทธิรับมรดกและศาลได้แต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานลำดับต้นและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเป็นผู้เสียประโยชน์ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3122/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเกี่ยวกับสถานะทายาทเพื่อหวังผลประโยชน์ในการจัดการมรดก เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียประโยชน์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 จำคุกจำเลย 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
แม้โจทก์จะขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนจำเลยแถลงหมดพยานแล้วก็ตาม ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งรับระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ และรับฟังเอกสารที่อ้างนั้นมาวินิจฉัยคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228
การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรง และเป็นข้อสำคัญในคดีซึ่งศาลจำต้องวินิจฉัย การที่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกว่าผู้ตายไม่มีภรรยาและบุตร และศาลเชื่อตามคำเบิกความ เป็นผลให้จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้ตายมีสิทธิรับมรดกและศาลได้แต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานลำดับต้นและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเป็นผู้เสียประโยชน์ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
แม้โจทก์จะขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จจนจำเลยแถลงหมดพยานแล้วก็ตาม ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะสั่งรับระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ และรับฟังเอกสารที่อ้างนั้นมาวินิจฉัยคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228
การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ปัญหาว่าผู้ร้องเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรง และเป็นข้อสำคัญในคดีซึ่งศาลจำต้องวินิจฉัย การที่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกว่าผู้ตายไม่มีภรรยาและบุตร และศาลเชื่อตามคำเบิกความ เป็นผลให้จำเลยซึ่งเป็นน้องผู้ตายมีสิทธิรับมรดกและศาลได้แต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานลำดับต้นและมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายเป็นผู้เสียประโยชน์ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษการพนัน: 'พ้นโทษ' หมายถึงการได้รับโทษจริง ไม่ใช่รอการลงโทษ
พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 14 ทวิบัญญัติว่า "ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก (1) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกและปรับให้วางโทษทวีคูณ (2) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกหรือปรับให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ"
คำว่าพ้นโทษตามบทบัญญัติของมาตราดังกล่าว คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆในคดีก่อนนั่นเอง เมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุก จึงไม่มีวันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้
เพียงแต่ศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ก็ไม่ใช่โทษซึ่งครบกำหนดตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัวกรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมากระทำความผิดอีก จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่7/2523)
คำว่าพ้นโทษตามบทบัญญัติของมาตราดังกล่าว คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆในคดีก่อนนั่นเอง เมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุก จึงไม่มีวันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้
เพียงแต่ศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ก็ไม่ใช่โทษซึ่งครบกำหนดตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัวกรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมากระทำความผิดอีก จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่7/2523)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2934/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมมีไม้ผิดกฎหมาย แม้ไม่มีกรรมสิทธิ์: การรับหรือช่วยพาไม้ที่รู้ว่าเป็นของผิดกฎหมายถือเป็นความผิด
พระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 70 บัญญัติว่า ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้นจำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น ดังนั้น แม้จำเลยมิได้มีกรรมสิทธิ์ในไม้ของกลางก็ตาม แต่เมื่อจำเลยรับไว้หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ของกลางที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ผิดกฎหมาย จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันมีไม้ของกลางหวงห้ามไว้ในความครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2934/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับหรือช่วยพาไม้ผิดกฎหมายเข้าครอบครอง ถือเป็นตัวการร่วมกันมีไม้หวงห้าม
ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 70 บัญญัติว่า ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้นจำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น ดังนั้น แม้จำเลยมิได้มีกรรมสิทธิ์ในไม้ของกลางก็ตาม แต่เมื่อจำเลยรับไว้หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ของกลางที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ผิดกฎหมาย จำเลยก็ต้งมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันมีไม้ของกลางหวงห้ามไว้ในความครอบครอง