พบผลลัพธ์ทั้งหมด 564 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3742/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรสโมฆะ, สิทธิในกองมรดก, หนังสือสละมรดกที่ไม่สมบูรณ์, การแบ่งมรดก
ด. จดทะเบียนสมรสกับโจทก์ที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์(ฉบับเดิม) ในขณะที่ ด. มีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5อยู่แล้ว การสมรสระหว่างโจทก์ที่ 1 กับ ด. จึงเป็นโมฆะตามมาตรา 1490 และ 1445(เดิม) โจทก์ที่ 1จึงมิใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของ ด. ไม่มีสิทธิได้รับมรดกของ ด.แม้การสมรสระหว่างด. กับโจทก์ที่ 1จะยังไม่มีคำพิพากษาเพิกถอนหรือพิพากษาว่าเป็นโมฆะ แต่ศาลยกขึ้นวินิจฉัยว่าการสมรสเป็นโมฆะได้ เพราะจำเลยได้ต่อสู้เป็นประเด็นไว้
มรดกอยู่ระหว่างจัดการแบ่งให้ทายาท โจทก์ฟ้องคดีแม้จะเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีก็ไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754
เอกสารมีข้อความว่า 'บัดนี้ ว. ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลได้จัดการแบ่งมรดกตามที่ควรได้เป็นจำนวนเงิน10,000 บาทไว้เป็นที่เรียบร้อยซึ่งผู้รับได้รับไว้ถูกต้องทุกประการแล้ว และขอรับรองไว้ในหนังสือนี้ว่า ข้าพเจ้าหมดสิทธิในกองมรดกทั้งหมดด้วย' ซึ่งโจทก์ที่ 1 ที่ 2ลงชื่อไว้ก็ตาม แต่ผู้จัดการมรดกบอกในวันทำเอกสารว่าใครมารับเงินก็ต้องเซ็นชื่อ ในวันทำเอกสารนี้โจทก์ที่2 ที่ 3 ยังไม่ทราบว่ามีที่ดินเป็นทรัพย์มรดกเพราะผู้จัดการมรดกไม่เคยบอกให้ทราบ ทั้งเอกสารก็ไม่ได้ระบุชัดว่าโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ไม่ต้องการที่ดินมรดกดังนั้นที่โจทก์ที่ 2 ที่ 3 รับรองว่าหมดสิทธิในกองมรดกด้วยซึ่งหมายความถึงเฉพาะเงินอันเป็นส่วนแบ่งบางส่วนของกองมรดกซึ่งโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ได้รับไปเท่านั้น โจทก์ที่ 2ที่ 3 ยังมีสิทธิรับที่ดินซึ่งเป็นมรดก
มรดกอยู่ระหว่างจัดการแบ่งให้ทายาท โจทก์ฟ้องคดีแม้จะเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีก็ไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754
เอกสารมีข้อความว่า 'บัดนี้ ว. ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลได้จัดการแบ่งมรดกตามที่ควรได้เป็นจำนวนเงิน10,000 บาทไว้เป็นที่เรียบร้อยซึ่งผู้รับได้รับไว้ถูกต้องทุกประการแล้ว และขอรับรองไว้ในหนังสือนี้ว่า ข้าพเจ้าหมดสิทธิในกองมรดกทั้งหมดด้วย' ซึ่งโจทก์ที่ 1 ที่ 2ลงชื่อไว้ก็ตาม แต่ผู้จัดการมรดกบอกในวันทำเอกสารว่าใครมารับเงินก็ต้องเซ็นชื่อ ในวันทำเอกสารนี้โจทก์ที่2 ที่ 3 ยังไม่ทราบว่ามีที่ดินเป็นทรัพย์มรดกเพราะผู้จัดการมรดกไม่เคยบอกให้ทราบ ทั้งเอกสารก็ไม่ได้ระบุชัดว่าโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ไม่ต้องการที่ดินมรดกดังนั้นที่โจทก์ที่ 2 ที่ 3 รับรองว่าหมดสิทธิในกองมรดกด้วยซึ่งหมายความถึงเฉพาะเงินอันเป็นส่วนแบ่งบางส่วนของกองมรดกซึ่งโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ได้รับไปเท่านั้น โจทก์ที่ 2ที่ 3 ยังมีสิทธิรับที่ดินซึ่งเป็นมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3742/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรสโมฆะของคู่สมรสเดิมก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และสิทธิในการรับมรดกของทายาท
ด. จดทะเบียนสมรสกับโจทก์ที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับเดิม) ในขณะที่ ด. มีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 อยู่แล้ว การสมรสระหว่างโจทก์ที่ 1 กับ ด. จึงเป็นโมฆะตามมาตรา 1490 และ 1445 (เดิม) โจทก์ที่ 1 จึงมิใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของ ด. ไม่มีสิทธิได้รับมรดกของ ด. แม้การสมรสระหว่าง ด. กับโจทก์ที่ 1 จะยังไม่มีคำพิพากษาเพิกถอนหรือพิพากษาว่าเป็นโมฆะ แต่ศาลยกขึ้นวินิจฉัยว่าการสมรสเป็นโมฆะได้ เพราะจำเลยได้ต่อสู้เป็นประเด็นไว้
มรดกอยู่ระหว่างจัดการแบ่งให้ทายาท โจทก์ฟ้องคดีแม้จะเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีก็ไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754
เอกสารมีข้อความว่า "บัดนี้ ว. ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลได้จัดการแบ่งมรดกตามที่ควรได้เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาทไว้เป็นที่เรียบร้อยซึ่งผู้รับได้รับไว้ถูกต้องทุกประการแล้ว และขอรับรองไว้ในหนังสือนี้ว่า ข้าพเจ้าหมดสิทธิในกองมรดกทั้งหมดด้วย" ซึ่งโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ลงชื่อไว้ก็ตาม แต่ผู้จัดการมรดกบอกในวันทำเอกสารว่าใครมารับเงินก็ต้องเซ็นชื่อ ในวันทำเอกสารนี้โจทก์ที่ 2 ที่ 3 ยังไม่ทราบว่ามีที่ดินเป็นทรัพย์มรดกเพราะผู้จัดการมรดกไม่เคยบอกให้ทราบ ทั้งเอกสารก็ไม่ได้ระบุชัดว่าโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ไม่ต้องการที่ดินมรดกดังนั้นที่โจทก์ที่ 2 ที่ 3 รับรองว่าหมดสิทธิในกองมรดกด้วยซึ่งหมายความถึงเฉพาะเงินอันเป็นส่วนแบ่งบางส่วนของกองมรดกซึ่งโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ได้รับไปเท่านั้น โจทก์ที่ 2 ที่ 3 ยังมีสิทธิรับที่ดินซึ่งเป็นมรดก
มรดกอยู่ระหว่างจัดการแบ่งให้ทายาท โจทก์ฟ้องคดีแม้จะเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีก็ไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754
เอกสารมีข้อความว่า "บัดนี้ ว. ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลได้จัดการแบ่งมรดกตามที่ควรได้เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาทไว้เป็นที่เรียบร้อยซึ่งผู้รับได้รับไว้ถูกต้องทุกประการแล้ว และขอรับรองไว้ในหนังสือนี้ว่า ข้าพเจ้าหมดสิทธิในกองมรดกทั้งหมดด้วย" ซึ่งโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ลงชื่อไว้ก็ตาม แต่ผู้จัดการมรดกบอกในวันทำเอกสารว่าใครมารับเงินก็ต้องเซ็นชื่อ ในวันทำเอกสารนี้โจทก์ที่ 2 ที่ 3 ยังไม่ทราบว่ามีที่ดินเป็นทรัพย์มรดกเพราะผู้จัดการมรดกไม่เคยบอกให้ทราบ ทั้งเอกสารก็ไม่ได้ระบุชัดว่าโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ไม่ต้องการที่ดินมรดกดังนั้นที่โจทก์ที่ 2 ที่ 3 รับรองว่าหมดสิทธิในกองมรดกด้วยซึ่งหมายความถึงเฉพาะเงินอันเป็นส่วนแบ่งบางส่วนของกองมรดกซึ่งโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ได้รับไปเท่านั้น โจทก์ที่ 2 ที่ 3 ยังมีสิทธิรับที่ดินซึ่งเป็นมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4026/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลิขสิทธิ์งานการ์ตูน: การคุ้มครองภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ และการพิจารณาความคล้ายคลึงกับเครื่องหมายการค้า
แม้ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน แต่เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นข้อเดียวว่าภาพการ์ตูนที่จำเลยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้เหมือนหรือคล้ายกับภาพการ์ตูนสนูปปี้ของโจทก์หรือไม่ หากเหมือนหรือคล้ายกันจะเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์หรือไม่ โดยโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพยานต่อไป เช่นนี้ ต้องถือว่าจำเลยได้สละข้อต่อสู้อื่นๆ แล้ว โจทก์จึงไม่ต้องสืบพยานว่าสิทธิของโจทก์ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไทยหรือไม่
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม ฯลฯ ลิขสิทธิในศิลปกรรมจะมีขึ้นได้ก็ต้องเป็นศิลปกรรมที่ทำขึ้นในแผนกศิลป เช่น รูปศิลป ดังนี้ รูปการ์ตูนสุนัขของโจทก์ซึ่งเป็นเพียงรูปคล้ายสุนัขธรรมดาทั่วๆ ไปที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ ซึ่งการขีดเขียนอาจเหมือนหรือคล้ายกันได้เป็นธรรมดา จึงไม่ใช่ลิขสิทธิ์ในศิลปกรรมตามความหมายของพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม ฯลฯ ลิขสิทธิในศิลปกรรมจะมีขึ้นได้ก็ต้องเป็นศิลปกรรมที่ทำขึ้นในแผนกศิลป เช่น รูปศิลป ดังนี้ รูปการ์ตูนสุนัขของโจทก์ซึ่งเป็นเพียงรูปคล้ายสุนัขธรรมดาทั่วๆ ไปที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ ซึ่งการขีดเขียนอาจเหมือนหรือคล้ายกันได้เป็นธรรมดา จึงไม่ใช่ลิขสิทธิ์ในศิลปกรรมตามความหมายของพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4026/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลิขสิทธิ์ภาพการ์ตูน: การคุ้มครองภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์เดิม และการสละประเด็นข้อต่อสู้
แม้ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน แต่เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นข้อเดียวว่าภาพการ์ตูนที่จำเลยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้เหมือนหรือคล้ายกับภาพการ์ตูนสนูปปี้ของโจทก์หรือไม่ หากเหมือนหรือคล้ายกันจะเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์หรือไม่ โดยโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพยานต่อไป เช่นนี้ ต้องถือว่าจำเลยได้สละข้อต่อสู้อื่นๆ แล้ว โจทก์จึงไม่ต้องสืบพยานว่าสิทธิของโจทก์ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไทยหรือไม่
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม ฯลฯ ลิขสิทธิในศิลปกรรมจะมีขึ้นได้ก็ต้องเป็นศิลปกรรมที่ทำขึ้นในแผนกศิลป เช่น รูปศิลป ดังนี้ รูปการ์ตูนสุนัขของโจทก์ซึ่งเป็นเพียงรูปคล้ายสุนัขธรรมดาทั่วๆ ไปที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ ซึ่งการขีดเขียนอาจเหมือนหรือคล้ายกันได้เป็นธรรมดา จึงไม่ใช่ลิขสิทธิ์ในศิลปกรรมตามความหมายของพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม ฯลฯ ลิขสิทธิในศิลปกรรมจะมีขึ้นได้ก็ต้องเป็นศิลปกรรมที่ทำขึ้นในแผนกศิลป เช่น รูปศิลป ดังนี้ รูปการ์ตูนสุนัขของโจทก์ซึ่งเป็นเพียงรูปคล้ายสุนัขธรรมดาทั่วๆ ไปที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ ซึ่งการขีดเขียนอาจเหมือนหรือคล้ายกันได้เป็นธรรมดา จึงไม่ใช่ลิขสิทธิ์ในศิลปกรรมตามความหมายของพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4017/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเบิกเงินเกินบัญชีทำได้ด้วยวาจา แม้มิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยต้องรับผิดชำระหนี้รวมดอกเบี้ยทบต้น
ข้อตกลงเบิกเงินเกินบัญชีไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำหลักฐานเป็นหนังสือ แม้มิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือระบุวงเงินที่จะเบิกเกินบัญชีและมิได้กำหนดเรื่องดอกเบี้ยไว้ จำเลยก็ต้องรับผิดชำระหนี้รวมทั้งดอกเบี้ยทบต้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4017/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเบิกเงินเกินบัญชีทำได้ด้วยวาจา แม้มิมีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยต้องรับผิดชำระหนี้รวมดอกเบี้ย
ข้อตกลงเบิกเงินเกินบัญชีไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำหลักฐานเป็นหนังสือ แม้มิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือระบุวงเงินที่จะเบิกเกินบัญชีและมิได้กำหนดเรื่องดอกเบี้ยไว้ จำเลยก็ต้องรับผิดชำระหนี้รวมทั้งดอกเบี้ยทบต้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3968/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องหนี้จากการซื้อขายและการมิใช่พ่อค้าในการบังคับอายุความ
เมื่อลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213
โจทก์ประกอบการค้าปลาและสัตว์ทะเล มิได้ประกอบการค้าขายรถยนต์การที่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่ารถยนต์จากจำเลยจึงมิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) จะนำอายุความตามมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับมิได้
โจทก์ประกอบการค้าปลาและสัตว์ทะเล มิได้ประกอบการค้าขายรถยนต์การที่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่ารถยนต์จากจำเลยจึงมิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) จะนำอายุความตามมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3968/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องหนี้และการบังคับชำระหนี้ โดยไม่ใช้บังคับอายุความตามมาตรา 165(1) หากไม่ใช่การค้าขาย
เมื่อลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213
โจทก์ประกอบการค้าปลาและสัตว์ทะเล มิได้ประกอบการค้าขายรถยนต์การที่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่ารถยนต์จากจำเลยจึงมิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) จะนำอายุความตามมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับมิได้
โจทก์ประกอบการค้าปลาและสัตว์ทะเล มิได้ประกอบการค้าขายรถยนต์การที่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่ารถยนต์จากจำเลยจึงมิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) จะนำอายุความตามมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3866/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นฟ้องเคลือบคลุมต้องยกขึ้นโต้แย้งตั้งแต่ชั้นต้น หากจำเลยไม่โต้แย้ง ถือเป็นการสละสิทธิ
คดีมีการชี้สองสถาน แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเรื่องฟ้องเคลือบคลุมเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ และจำเลยก็มิได้โต้แย้งคัดค้าน จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทเรื่องฟ้องเคลือบคลุม แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยมาก็เป็นการนอกประเด็นข้อพิพาท การที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้อย่างไร เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทเรื่องฟ้องเคลือบคลุมไว้ จำเลยย่อมหมดสิทธิอุทธรณ์ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3696/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการกระทำละเมิด การบรรยายฟ้องไม่เคลือบคลุมหากระบุความเสียหายเป็นจำนวนเงินชัดเจน
โจทก์บรรยายถึงความเสียหายว่า ผลแห่งการกระทำละเมิดครั้งนี้ทำให้รถจักรดีเซล ตู้รถบรรทุกน้ำมัน ป้ายจราจรทางบกของโจทก์ได้รับความเสียหาย คือรถจักรดีเซลเลขที่ 524 เสียหายเป็นเงิน 6,750 บาท รถ บทค. เลขที่ 1097 เสียหายเป็นเงิน 1,867.50 บาท รถ บทค. เลขที่ 976เสียหายเป็นเงิน 317.50 บาท ป้ายจราจรทางบกของโจทก์เสียหายเป็นเงิน 914.50 บาท รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น 9,849.50 บาท เป็นการบรรยายถึงความเสียหายโดยแจ้งชัดแล้วว่าทรัพย์สินของโจทก์ได้รับความเสียหายคิดเป็นเงินค่าเสียหายเท่าใดส่วนรายละเอียดเสียหายอย่างใดนั้นเป็นเรื่องที่จะนำสืบให้ปรากฏในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์เกี่ยวกับค่าเสียหายจึงไม่เคลือบคลุม