คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
แถม ดุลยสุข

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 238 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการกู้ยืมเงินจากเช็คและจดหมายรับสภาพหนี้ เพียงพอตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา ๖๕๓
จำเลยยืมเงินของโจทก์แล้วออกเช็คสั่งจ่ายเงินเท่าจำนวนที่จำเลยยืมไปให้โจทก์ไว้ เมื่อโจทก์นำเช็คไปรับเงินจากธนาคารไม่ได้และทวงถามให้จำเลยชำระหนี้จำเลยได้มีจดหมายถึงโจทก์ขอความเห็นใจมิให้โจทก์นำเช็คไปแจ้งความและรับรองว่าจะชำระเงินที่จำเลยยืมไปจนครบ ดังนี้ ข้อความตามเอกสารเหล่านั้นเมื่อประกอบเข้าด้วยกันย่อมถือได้ว่าการกู้ยืมเงินรายนี้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้ยืมเป็นสำคัญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการกู้ยืมเงิน: เช็ค + จดหมายรับสภาพหนี้ ถือเป็นหลักฐานหนังสือลงลายมือชื่อตามกฎหมาย
จำเลยยืมเงินของโจทก์แล้วออกเช็คสั่งจ่ายเงินเท่าจำนวนที่จำเลยยืมไปให้โจทก์ไว้ เมื่อโจทก์นำเช็คไปรับเงินจากธนาคารไม่ได้ และทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ จำเลยได้มีจดหมายถึงโจทก์ขอความเห็นใจ มิให้โจทก์นำเช็คไปแจ้งความและรับรองว่าจะชำระเงินที่จำเลยยืมไปจนครบ ดังนี้ข้อความตามเอกสารเหล่านั้นเมื่อประกอบเข้าด้วยกันย่อมถือได้ว่าการกู้ยืมเงินรายนี้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้ยืมเป็นสำคัญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2337/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทครอบครองที่ดิน: การฟ้องเพื่อพิสูจน์สิทธิในที่ดินและห้ามโต้แย้ง
ฟ้องจำเลย 16 คนว่าคัดค้านการที่โจทก์ขอ น.ส.3 สำหรับที่ดินเนื้อที่ 20 ไร่ของโจทก์ อ้างว่าเป็นของจำเลย ขอให้แสดงว่าที่ดินเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยโต้แย้ง จำเลยให้การว่าได้ครอบครองที่ดินมาเป็นส่วนสัดดังนี้ เป็นคดีมีข้อหาเดียว จะสั่งแยกคดีให้ฟ้องจำเลยแต่ละคนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2324/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินระบุเนื้อที่เกินจริง ผู้ขายต้องรับผิดชดใช้ราคาส่วนที่ขาด
ขายที่ดินระบุเลขโฉนดและเนื้อที่ในโฉนด 99 ตารางวา แต่ที่ดินตามโฉนดมีเนื้อที่จริง 84 ตารางวา เป็นการขายโดยระบุเนื้อที่ต้องรับผิดในจำนวนที่ขาด ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 466 ผู้ซื้อยอมรับที่ดินผู้ขายต้องใช้ราคาส่วนที่ขาดคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2323/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์สินสมรสและการติดตามทรัพย์คืน ความแตกต่างระหว่างละเมิดกับสัญญา
ฟ้องว่าจำเลยแกล้งยึดทรัพย์ละเมิดสิทธิของโจทก์ แต่โจทก์ขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์กับดอกเบี้ย เป็นเรื่องติดตามเอาทรัพย์คืน ไม่ใช่ละเมิดที่ใช้อายุความ 1 ปี
ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรสรวมทั้งหุ้นในบริษัทจำกัดหรือสิทธิการเช่า สิ่งที่ซื้อมาด้วยสินส่วนตัวหรือดอกผลของสินส่วนตัวไม่เข้า มาตรา 1465 เป็นสินสมรส สิ่งที่ได้มาโดยหนังสือยกให้ไม่มีระบุว่าเป็นสินส่วนตัว ก็เป็นสินสมรส ดอกผลของสินเดิมเป็นสินสมรส เครื่องใช้ส่วนตัวตามฐานะเป็นสินส่วนตัว
ทรัพย์ซึ่งอยู่ที่คนภายนอก ผู้ว่าราชการจังหวัดยึดตามประมวลรัษฎากร ไม่ได้ใช้คำว่าอายัด ผลก็คือต้องส่งมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด จึงไม่แตกต่างกัน
ฟ้องเรียกสินเดิมและสินส่วนตัวคืน แต่ไม่ระบุว่าเครื่องประดับและรถยนต์ที่เรียกคืนมีอะไรบ้าง รถคันไหนเป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2249/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาต่อเนื่องในการกระทำอนาจารและข่มขืน: ถือเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา จำเลยกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเราทั้งในคืนแรกและคืนที่สอง เป็นการกระทำต่อเนื่องกันจากเจตนาเดิมนั่นเองแยกออกจากกันมิได้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2249/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพาผู้เสียหายไปกระทำอนาจารและข่มขืนต่อเนื่องกัน ถือเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา จำเลยกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเราทั้งในคืนแรกและคืนที่สอง เป็นการกระทำต่อเนื่องกันจากเจตนาเดิมนั้นเองแยกออกจากกันมิได้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2197/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจตามใบมอบอำนาจ: การเรียกเงินคืนนอกเหนือจากอำนาจที่ได้รับมอบหมาย
ใบมอบอำนาจให้จัดการในโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งฟ้องคดี ผู้มอบอำนาจจำนองที่ดินนำเงินไปฝากธนาคารไว้แล้ว จำเลยถอนเงินนั้นไป ผู้รับมอบอำนาจฟ้องเรียกเงินคืน กรณีเกี่ยวกับเงินที่เรียกคืน ไม่เกี่ยวกับที่ดิน ไม่อยู่ในหนังสือมอบอำนาจ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินเพื่อชำระหนี้: สิทธิการครอบครองที่ชอบด้วยกฎหมายหลังเจ้าหนี้รับมอบ
ข.ทำหนังสือแสดงเจตนาสละสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินไว้ล่วงหน้าว่า เมื่อ ข.ตายแล้วให้ที่พิพาทเป็นสิทธิแก่จำเลยเจ้าหนี้แทนการชำระหนี้ เมื่อจำเลยยินยอมตามนี้โดยได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตั้งแต่ ข.ตายก็เป็นสิทธิที่คู่กรณีกระทำได้โดยชอบไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 656 วรรค 2 และวรรคสุดท้าย ดังนั้น การครอบครองของ ข.จึงเป็นอันสิ้นสุดลงนับแต่ ข.ตาย จำเลยหาได้ครอบครองที่พิพาทแทน ข. หรือโจทก์ซึ่งเป็นทายาทไม่ จำเลยจึงไม่ตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ยึดถือแทนตามประมวลกกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการครอบครองไปยังโจทก์หรือทายาทอื่นของ ข. จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินเพื่อชำระหนี้: สิทธิของเจ้าหนี้และการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์
ข. ทำหนังสือแสดงเจตนาสละสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินไว้ล่วงหน้าว่า เมื่อ ข. ตายแล้วให้ที่พิพาทเป็นสิทธิแก่จำเลยเจ้าหนี้แทนการชำระหนี้ เมื่อจำเลยยินยอมตามนี้โดยได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตั้งแต่ ข. ตาย ก็เป็นสิทธิที่คู่กรณีกระทำได้โดยชอบไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสอง และวรรคสุดท้ายดังนั้น การครอบครองของ ข. จึงเป็นอันสิ้นสุดลงนับแต่ ข.ตาย จำเลยหาได้ครอบครองที่พิพาทแทน ข. หรือโจทก์ซึ่งเป็นทายาทไม่ จำเลย จึงไม่ตกอยู่ในฐานะผู้ยึดถือแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381ไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการครอบครองไปยังโจทก์หรือทายาทอื่นของ ข. จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาท
of 24