คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประถม วิเชียรเนตร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 163 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสาร vs. ลงข้อความเท็จในบัญชีธนาคาร และการห้ามฎีกาในคดีโทษไม่เกิน 5 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดบทเดียวไม่ใช่หลายบทดังที่ศาลชั้นต้นพิพากษา และลงโทษจำคุกจำเลยเท่ากับที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย เมื่อโทษแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปีคดีต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่สมุห์บัญชีธนาคารอาศัยอำนาจหน้าที่ของตนในการควบคุมบัญชีและเขียนข้อความลงในบัญชีสมุดเงินฝาก เขียนข้อความที่ไม่ตรงต่อความจริงลงในบัญชีดังกล่าวขณะที่ตนมีหน้าที่ต้องเขียนข้อความที่ถูกต้องนั้นเป็นเรื่องลงข้อความเท็จ หาใช่เป็นการปลอมเอกสารไม่เพราะมิใช่ปลอมเอกสารอันแท้จริงของผู้ใด และไม่เป็นการกรอกข้อความลงในกระดาษซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่น โดยมิได้รับความยินยอมที่ให้ถือว่าเป็นการปลอมเอกสารตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา264,265 จำเลยร่วมกับสมุห์บัญชีทำการดังกล่าวจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายมีผลผูกพันเมื่อตกลงเงื่อนไขกันได้ชัดเจน แม้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขเดิม และจำเลยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายจากการผิดสัญญา
โจทก์สอบถามเพื่อซื้อสินค้าจากจำเลย จำเลยวางเงื่อนไขว่าโจทก์จะต้องชำระราคาเป็นเงินสด 15% พร้อมกับใบสั่งสินค้า หลังจากนั้นโจทก์ได้ติดต่อขอลดราคาและขอให้ยื่นราคาต่อไปอีก จำเลยกำหนดให้โจทก์ชำระราคาเป็นเงินภายใน 4 วัน หลังจากการส่งมอบโดยมีธนาคารค้ำประกัน ไม่ได้กล่าวถึงการวางเงินสด 15% อีก โจทก์สั่งซื้อสินค้า จำเลยตอบรับว่าจะส่งสินค้าให้ ดังนี้ สัญญาซื้อขายเกิดขึ้นแล้ว จำเลยจะอ้างว่าสัญญายังไม่มีผลผูกพันเพราะโจทก์ไม่ได้ชำระเงิน 15% หาได้ไม่
ในระยะเวลาที่จำเลยสัญญาว่าจะส่งสินค้าให้โจทก์ดังกล่าว โจทก์ได้แจ้งเป็นหนังสือให้จำเลยทราบถึงสองคราวว่า สินค้าดังกล่าว โจทก์ได้ตกลงขายต่อให้กับลูกค้าแล้ว หากจำเลยส่งสินค้าดังกล่าวล่าช้าไม่ทันกำหนด โจทก์จะต้องถูกปรับ จำเลยผิดสัญญาโจทก์ถูกลูกค้าปรับ ค่าปรับดังกล่าวถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษที่จำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดในค่าปรับดังกล่าวด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายมีผลผูกพันเมื่อตกลงเงื่อนไขครบถ้วน แม้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขบางส่วน ผู้ขายต้องรับผิดต่อค่าเสียหายจากการผิดสัญญา
โจทก์สอบถามเพื่อซื้อสินค้าจากจำเลย จำเลยวางเงื่อนไขว่าโจทก์จะต้องชำระราคาเป็นเงินสด 15% พร้อมกับใบสั่งสินค้าหลังจากนั้นโจทก์ ได้ติดต่อขอลดราคาและขอให้ยื่นราคาต่อไปอีกจำเลยกำหนดให้โจทก์ชำระราคาเป็นเงินสดภายใน 4 วัน หลังจากการส่งมอบโดยมีธนาคารค้ำประกันไม่ได้กล่าวถึงการวางเงินสด 15% อีก โจทก์สั่งซื้อสินค้าจำเลยตอบรับว่าจะส่งสินค้าให้ ดังนี้สัญญาซื้อขายเกิดขึ้นแล้วจำเลยจะอ้างว่าสัญญายังไม่มีผลผูกพันเพราะโจทก์ไม่ได้ชำระเงิน 15% หาได้ไม่
ในระยะเวลาที่จำเลยสัญญาว่าจะส่งสินค้าให้โจทก์ดังกล่าวโจทก์ได้แจ้งเป็นหนังสือให้จำเลยทราบถึงสองคราวว่าสินค้าดังกล่าว โจทก์ได้ตกลงขายต่อให้กับลูกค้าแล้วหากจำเลยส่งสินค้าดังกล่าวล่าช้าไม่ทันกำหนดโจทก์จะต้องถูกปรับจำเลยผิดสัญญาโจทก์ถูกลูกค้าปรับค่าปรับดังกล่าวถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษที่จำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้วจำเลยจึงต้องรับผิด ในค่าปรับดังกล่าวด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228-231/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปล้นทรัพย์คือการขู่เข็ญเอาทรัพย์สิน แม้คืนทรัพย์บางส่วนก็ไม่ถือว่าไม่มีเจตนาต่อทรัพย์
จำเลยขู่เจ้าทรัพย์ ค้นตัวเอาเงินไป 160 บาทนาฬิกาข้อมือ ยึดรถจักรยานยนต์ไว้แล้วเรียกค่าไถ่ตัว ตกลงให้ภริยาเจ้าทรัพย์ไปเอาเงินค่าไถ่จำเลยคืนเงิน 160 บาท ให้ภริยาเจ้าทรัพย์นำเงินกลับไปให้จำเลยจำเลยคืนนาฬิกาและจักรยานยนต์ให้ เสื้อกันฝนหายไปดังนี้นอกจากความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา316 ยังเป็นความผิดตาม มาตรา 340 ด้วย ที่จำเลยคืนเงิน 160 บาท ให้เป็นค่ารถไปเอาเงิน กับคืนนาฬิกาและจักรยานยนต์ ไม่ใช่เรื่องไม่ประสงค์ต่อทรัพย์นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2605/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีซื้อขายสินค้า: ตัวแทนจำหน่าย vs. การค้าทั่วไป และข้อยกเว้นอายุความตามมาตรา 165
โจทก์แต่งตั้งให้จำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายปูนซีเมนต์ โดยจำเลยต้องซื้อปูนซีเมนต์จากโจทก์ตามราคาที่กำหนดไว้ และชำระเงินตามราคาให้ภายในกำหนด 60 วัน นับจากวันรับสินค้าไปจำเลยจะนำสินค้าไปขายได้หรือไม่ กำไรหรือขาดทุนเป็นเรื่องของจำเลยโจทก์ไม่เกี่ยวข้อง ดังนี้ มีลักษณะเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด จำเลยจึงหาใช่ตัวแทนค้าต่างของโจทก์ไม่
คำว่า "อุตสาหกรรม" หมายถึงกิจการในทางผลิตสิ่งของเพื่อให้เป็นสินค้าขึ้น การที่จำเลยรับปูนซีเมนต์จากโจทก์ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมไปจำหน่ายหาผลกำไรเป็นปกติธุระ มิได้นำไปผลิตสิ่งของเพื่อให้เป็นสินค้าอันเป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรม กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นให้ใช้อายุความห้าปีตามความในมาตรา 165 วรรคสุดท้ายสิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีอายุความ 2 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2605/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสัญญาซื้อขายสินค้า: สิทธิเรียกร้องของผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่จำหน่ายสินค้าโดยมิได้ผลิตเอง
โจทก์แต่งตั้งให้จำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายปูนซีเมนต์ โดยจำเลยต้องซื้อปูนซีเมนต์จากโจทก์ตามราคาที่กำหนดไว้ และชำระเงินตามราคาให้ภายในกำหนด 60 วันนับจากวันรับสินค้าไป จำเลยจะนำสินค้าไปขายได้หรือไม่ กำไรหรือขาดทุนเป็นเรื่องของจำเลย โจทก์ไม่เกี่ยวข้อง ดังนี้ มีลักษณะเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด จำเลยจึงหาใช่ตัวแทนค้าต่างของโจทก์ไม่
คำว่า "อุตสาหกรรม" หมายถึงกิจการในทางผลิตสิ่งของเพื่อให้เป็นสินค้าขึ้น การที่จำเลยรับปูนซีเมนต์จากโจทก์ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมไปจำหน่ายหาผลกำไรเป็นปกติธุระมิได้นำไปผลิตสิ่งของเพื่อให้เป็นสินค้าอันเป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรม กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นให้ใช้อายุความห้าปีตามความในมาตรา 165 วรรคสุดท้าย สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีอายุความ 2 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2369/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงที่สุดแล้ว การสั่งรับฎีกาของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบ
ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของผู้ร้อง คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคท้าย ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของผู้ร้องจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาของผู้ร้อง และให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายในเวลาที่กำหนดนับแต่วันฟังคำพิพากษาหากผู้ร้องประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2369/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบ ศาลชั้นต้นรับฎีกาเกินสิทธิ แม้คำร้องขออนาถาถูกยก
ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของผู้ร้อง คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้าย ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของผู้ร้องจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาของผู้ร้อง และให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายในเวลาที่กำหนดนับแต่วันฟังคำพิพากษาหากผู้ร้องประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2360/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแลกเปลี่ยนที่ดินและปลูกสร้างโรงเรือนก่อนจดทะเบียน ถือเป็นการครอบครองแทนกัน ไม่ใช่ครอบครองปรปักษ์
แลกเปลี่ยนที่ดินตามโฉนด ต่างเข้าปลูกสร้างโรงเรือนแล้วแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนโอนตามที่ระบุไว้ในสัญญาว่าจะจดทะเบียน เป็นการครอบครองแทนกัน ไม่ใช่ครอบครองปรปักษ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2310/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: การโอนสิทธิและข้อยกเว้นการบอกกล่าว
รถยนต์ที่เจ้าของเอาประกันภัยค้ำจุนไว้ได้โอนมาเป็นของจำเลยที่ 2 และได้บอกกล่าวผู้รับประกันภัยแล้ว ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดในกรณีที่จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดต่อโจทก์ การบอกกล่าวไม่ต้องทำเป็นหนังสือหรือจดลงในกรมธรรม์
of 17