คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประถม วิเชียรเนตร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 163 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงต่อเนื่องหลายกรรมต่างกัน ศาลปรับบทฟ้องให้ถูกต้องแต่ไม่เพิ่มโทษ
จำเลยกับพวกยิง ด. ที่พื้นดินคนละ 1 นัด แล้วจำเลยกับพวกขึ้นเรือน อ. แล้วขึ้นเรือน ส. ลงจากเรือน ส. ไปพบ ถ. เดินมา จำเลยกับพวกยิง ถ. อีกคนละ 1 นัด ดังนี้ เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ต่างกระทง กัน โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยยิง ด. และยิง ถ. หลายนัด พอถือได้ว่าฟ้องเป็นสองกรรมต่างกัน แต่ศาลชั้นต้นลงโทษกรรมเดียว โจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาปรับบทให้ถูก แต่ไม่เพิ่มเติมโทษ
ยิงคนหนึ่งตาย กระสุนเลยไปถูกอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ตายเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 กรรมเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1309/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรมที่ดินต้องรับผิดค่าเสียหายจากความผิดของช่างตรี แต่มีสิทธิไล่เบี้ยเรียกค่าเสียหายจากช่างตรีได้
ช่างตรีเจ้าพนักงานกรมที่ดินโจทก์รายงานไม่ตรงตามความจริงฝ่าฝืนระเบียบ ทำให้เจ้าพนักงานที่ดินสั่งแก้รูปโฉนดที่ดินเจ้าของโฉนดเสียหาย กรมที่ดินต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าของโฉนดกรมที่ดินไล่เบี้ยเอาแก่ช่างตรีผู้เป็นต้นเหตุแห่งความเสียหายได้ อายุความการไล่เบี้ยมี 10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 ไม่ใช่ช่างตรีทำละเมิดต่อกรมที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงชื่อหนังสือพิมพ์ในการฟ้องร้องค่าจ้างพิมพ์ ไม่ถือว่าเป็นการนอกฟ้อง หากยังคงเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน
ฟ้องโจทก์เรียกร้องให้จำเลยชำระค่าจ้างพิมพ์หนังสือพิมพ์ที่จำเลยจ้างโจทก์พิมพ์ แม้ชื่อหนังสือพิมพ์ที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจ้างโจทก์พิมพ์จะแตกต่างกับชื่อที่ปรากฏในทางพิจารณา ก็ไม่ถือว่าเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเอกสารโดยรู้ว่าเป็นของผู้ซื้อรายอื่น ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ห้างโจทก์มิใช่ผู้สั่งซื้อสินค้ารายพิพาทและทราบอยู่แล้วว่าบริษัทผู้ขายส่งของมาโดยลงชื่อผู้รับผิดเป็นห้างโจทก์ แท้จริงเจ้าของสินค้าคือจำเลยที่ 2 แต่โจทก์ก็ยังรับใบอินวอยส์ ตั๋วแลกเงิน และใบตราส่งจากธนาคาร ถือได้ว่าโจทก์รับเอกสารต่างๆ ดังกล่าวไว้โดยไม่สุจริต โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ที่จะได้รับความคุ้มครองหรือรับประโยชน์จากบทกฎหมายมาตรา 614,615 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเอกสารซื้อขายโดยรู้ว่าเป็นของผู้อื่น ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ห้างโจทก์มิใช่ผู้สั่งซื้อสินค้ารายพิพาทและทราบอยู่แล้วว่าบริษัทผู้ขายส่งของมาโดยลงชื่อผู้รับผิดเป็นห้างโจทก์ แท้จริงเจ้าของสินค้าคือจำเลยที่ 2 แต่โจทก์ก็ยังรับใบอินวอยส์ ตั๋วแลกเงิน และใบตราส่งจากธนาคาร ถือได้ว่าโจทก์รับเอกสารต่าง ๆ ดังกล่าวไว้โดยไม่สุจริต โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ที่จะได้รับความคุ้มครองหรือรับประโยชน์จากบทกฎหมายมาตรา 614,615 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดต้องยื่นก่อนบังคับคดีเสร็จสิ้น การสู้ราคาเป็นข้อตกลงระหว่างคู่กรณี
จำเลยร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ต้องร้องก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้น มาร้องเมื่อขายและจ่ายเงินแก่โจทก์ไปแล้ว ขอเพิกถอนไม่ได้ โจทก์และภริยาโจทก์เข้าสู้ราคาได้ การที่มีข้อตกลงกันไว้ในการสู้ราคาอย่างไร ไม่ใช่เรื่องที่จะมาร้องให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำคุก 18 ปี เพิ่มลดโทษตามบทบัญญัติ มาตรา 92, 78 และ 54
ศาลจำคุกจำเลย 18 ปีตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เพิ่มโทษตามมาตรา 92 หนึ่งในสาม ลดโทษตาม มาตรา 78 หนึ่งในสามอัตราส่วนเท่ากัน ศาลเห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลดตาม มาตรา 54 คง จำคุก 18 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1132/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามข้อตกลงชำระหนี้และการจำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้
โจทก์เข้าใจว่า ม. บุตรของจำเลยทั้งสองฉ้อโกงค่าน้ำมันโจทก์ จึงไปทำความตกลงกันที่สถานีตำรวจ ม. ยอมรับว่าเป็นหนี้โจทก์อยู่ และจำเลยที่ 1 ร่วมกับ ม. ยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งให้โจทก์ก่อน ส่วนที่เหลือจำเลยที่ 1 เอา น.ส. 3 สามฉบับของจำเลยทั้งสองให้โจทก์ยึดถือเป็นประกันได้ทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวกันไว้ คดีอาญาจึงเลิกกัน รุ่งขึ้นโจทก์และจำเลยทั้งสองไปยื่นเรื่องราวขอทำจำนองที่ดินตาม น.ส.3 นั้นแก่โจทก์โดยระบุในคำขอด้วยว่าเพื่อประกันหนี้อันแสดงว่าเพื่อเป็นประกันหนี้ที่ ม. ค้างชำระจำเลยทั้งสองจึงผูกพันต่อโจทก์ที่ จะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงต่อมาในระหว่างการประกาศโฆษณาจำเลยที่ 1 กลับจะขอถอนเรื่องราวคำขอจำนองและขอรับ น.ส.3 คืน โดยโจทก์ไม่รู้เห็นยินยอมด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนโดยข้อเท็จจริงและการได้มาซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินโดยชอบธรรม
จำเลยขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่ผู้ร้อง และสละเจตนาครอบครองที่พิพาทให้ผู้ร้องแล้วตั้งแต่วันทำสัญญา ดังนี้ การครอบครองของจำเลยย่อมสิ้นสุดลง ผู้ร้องเข้ายึดถือที่พิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตน จึงได้สิทธิครอบครอบทันทีที่จำเลยสละเจตนาครอบครอง
การโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1377, 1378 นั้น มีผลบังคับกันได้ ไม่ต้องมีแบบอยู่ในตัว การที่ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนหาทำให้การซื้อขายเป็นโมฆะไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยการโอนโดยข้อเท็จจริง แม้ไม่ได้ทำเป็นหนังสือก็มีผลผูกพันได้ หากมีการสละเจตนาครอบครอง
จำเลยขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่ผู้ร้อง และสละเจตนาครอบครองที่พิพาทให้ผู้ร้องแล้วตั้งแต่วันทำสัญญา ดังนี้การครอบครองของจำเลยย่อมสิ้นสุดลง ผู้ร้องเข้ายึดถือที่พิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตน จึงได้สิทธิครอบครองทันทีที่จำเลยสละเจตนาครอบครอง
การโอนโดยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377,1378 นั้น มีผลบังคับกันได้ ไม่ต้องมีแบบอยู่ในตัวการที่ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนหาทำให้การซื้อขายเป็นโมฆะไม่
of 17