คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สวัสดิ์ สุขศรีวงษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 108 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์เอกสารตามคำท้าคดี: ศาลต้องไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนชี้ขาดตามคำท้า
โจทก์จำเลยท้ากันว่า ถ้าในพินัยกรรมที่ ด. ทำไว้มีข้อความว่า ด. ได้ขายที่พิพาทให้จำเลยหมดทั้งแปลง โจทก์ยอมแพ้ แต่ถ้าไม่มีข้อความดังกล่าว จำเลยยอมแพ้ จำเลยได้ส่งเอกสารต่อศาล 1 ฉบับ โจทก์ตรวจดูแล้วแถลงว่าไม่ใช่พินัยกรรมที่คู่ความตกลงท้ากัน พินัยกรรมตามที่ท้ากันมีอีกต่างหาก จำเลยแถลงยืนยันว่าเป็นเอกสารตามที่ตกลงท้า ดังนี้ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอกสารที่จำเลยส่งเอกสารจึงยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่ ศาลต้องไต่สวนให้ได้ความจริงว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่คู่ความตกลงท้ากันหรือไม่เสียก่อน แล้วจึงจะชี้ขาดคดีไปตามคำท้าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: การไม่ปฏิบัติตามสัญญาทำให้สิทธิเรียกร้องสิ้นสุด และอำนาจทนายความในการดำเนินคดี
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยโจทก์จะต้องชำระเงินให้จำเลยภายในวันที่กำหนดแล้วจำเลยจึงจะโอนที่พิพาทให้โจทก์ ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว เมื่อโจทก์ไม่ชำระเงินในวันดังกล่าว โจทก์จึงเป็นฝ่ายไม่ปฏิบัติตาม สัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่มีสิทธิขอให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้อีกต่อไป
ผู้ซึ่งจดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความมีอำนาจแต่งฟ้อง ฟ้องอุทธรณ์ ฟ้องฎีกาให้แก่บุคคลอื่นได้ ตามพระราชบัญญัติ ทนายความพ.ศ.2508 มาตรา 36 จึงมีอำนาจเรียงคำฟ้องอุทธรณ์ให้แก่จำเลยได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบแต่งทนาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คณะบุคคลไม่สามารถเป็นคู่ความในคดีได้ ต้องเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียน
ผู้ที่จะเป็นคู่ความในคดีได้นั้นจะต้องเป็นบุคคลดังบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1 (11) และคำว่าบุคคลนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้แก่บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล แต่คณะบุคคลกรุงเทพฯ กรีฑา จำเลยที่ 1 เป็นเพียงคณะบุคคลหรือกลุ่มบุคคล มิใช่บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ดังนั้น โจทก์จึงไม่อาจฟ้องจำเลยที่ 1 ให้รับผิดชำระหนี้ภาษีการค้าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คู่ความต้องเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล คณะบุคคลไม่สามารถเป็นคู่ความได้
ผู้ที่จะเป็นคู่ความในคดีได้จะต้องเป็นบุคคลซึ่งได้แก่บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สำหรับคณะบุคคลเป็นเพียงกลุ่มบุคคล ไม่ใช่บุคคลธรรมดาและไม่ใช่นิติบุคคล จึงไม่อาจเป็นคู่ความในคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 374/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดในพื้นที่ป่าโครงการของรัฐ จำเลยมีความผิดฐานสนับสนุนการกระทำผิดตามกฎหมายป่าไม้
จำเลยไปแจ้งความต่อร้อยตำรวจโท อ. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรและเวรสอบสวนว่าสุนัขของ ม. กัดหลานของจำเลย อ. มิได้สั่งให้ตำรวจลงบันทึกแจ้งความตามที่จำเลยมาแจ้ง โดยอ้างว่าอาจเป็นสุนัขกลางตลาดก็ได้ จะไปสืบหาเจ้าของสุนัขเสียก่อน จำเลยยืนยันว่าเป็นสุนัขของ ม. แต่อ. ไม่ยอมรับแจ้งความในทันที อ. และจำเลยจึงโต้เถียงกันในเรื่องไม่ลงบันทึกประจำวัน จำเลยได้กล่าวต่อ อ. ว่า ทำอย่างนี้ไม่ยุติธรรม ดังนี้ มีความหมายว่า อ. ปฏิบัติหน้าที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งเป็นการดูถูกเหยียดหยามต่อ อ. เป็นถ้อยคำดูหมิ่น อ. จำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 ไม่ใช่เป็นการต่อว่าที่แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ป้องกันส่วนได้เสียของจำเลยตามคลองธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน: ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยกับพวกอีก 1 คนชิงทรัพย์ พวกของจำเลยถือปืนยิงจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรค2 ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14ไม่ ผิด มาตรา340 ตรี ประกาศคณะปฏิวัติ ข้อ 15

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 347/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: ถ้อยคำ 'ไม่ยุติธรรม' ถือเป็นการดูหมิ่น
จำเลยไปแจ้งความต่อร้อยตำรวจโท อ. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรและเวรสอบสวนว่าสุนัขของม.กัดหลานของจำเลยอ. มิได้สั่งให้ตำรวจลงบันทึกแจ้งความตามที่จำเลยมาแจ้ง โดยอ้างว่าอาจเป็นสุนัขกลางตลาดก็ได้ จะไปสืบหาเจ้าของสุนัขเสียก่อน จำเลยยืนยันว่าเป็นสุนัขของ ม. แต่ อ. ไม่ยอมรับแจ้งความในทันที อ. และจำเลยจึงโต้เถียงกันในเรื่องไม่ลงบันทึกประจำวัน จำเลยได้กล่าวต่อ อ.ว่าทำอย่างนี้ก็ไม่ยุติธรรมดังนี้มีความหมายว่าอ. ปฏิบัติหน้าที่ไม่ยุติธรรมซึ่งเป็นการดูถูกเหยียดหยามต่ออ.เป็นถ้อยคำดูหมิ่นอ. จำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 ไม่ใช่เป็นการต่อว่าที่แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรมป้องกันส่วนได้เสียของจำเลยตามคลองธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 347/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: ถ้อยคำวิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ถือเป็นความผิดฐานดูหมิ่นได้
จำเลยไปแจ้งความต่อร้อยตำรวจโท อ. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรและเวรสอบสวนว่าสุนัขของ ม. กัดหลานของจำเลย อ. มิได้สั่งให้ตำรวจลงบันทึกแจ้งความตามที่จำเลยมาแจ้ง โดยอ้างว่าอาจเป็นสุนัขกลางตลาดก็ได้ จะไปสืบหาเจ้าของสุนัขเสียก่อน จำเลยยืนยันว่าเป็นสุนัขของ ม. แต่ อ. ไม่ยอมรับแจ้งความในทันที อ. และจำเลยจึงโต้เถียงกันในเรื่องไม่ลงบันทึกประจำวัน จำเลยได้กล่าวต่อ อ. ว่า ทำอย่างนี้ก็ไม่ยุติธรรม ดังนี้ มีความหมายว่า อ. ปฏิบัติหน้าที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งเป็นการดูถูกเหยียดหยามต่อ อ. เป็นถ้อยคำดูหมิ่น อ. จำเลยมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 ไม่ใช่ว่าเป็นการต่อว่าที่แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ป้องกันส่วนได้เสียของจำเลยตามคลองธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเห็นผู้เชี่ยวชาญที่ศาลตั้ง – รับฟังได้แม้ไม่เบิกความ
ผู้เชี่ยวชาญที่ศาลตั้งทำความเห็นเป็นหนังสือ แม้ไม่ได้มาเบิกความต่อศาล ก็อาจรับฟังความเห็นนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายเด็ก: บาดเจ็บ ฟันหัก เข้าข่ายอันตรายแก่กาย
ชกต่อยเตะเด็กมีบาดแผลบวม ฟันหัก 1 ซี่ ฟันโยก 3 ซี่รักษา ไม่เกิน 20 วัน เป็นอันตรายแก่กายตาม มาตรา 295
of 11