คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุจริต เสถียรกาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 252 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สถานะภริยาชอบด้วยกฎหมายและสิทธิในสินสมรสเมื่อขาดหลักฐานการขาดจากความเป็นสามีภริยา
โจทก์เป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดก ก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบตามข้อต่อสู้ว่าโจทก์ได้ขาดจากการเป็นสามีภริยากับเจ้ามรดกแล้ว เมื่อจำเลยไม่มีพยานหลักฐานว่าเจ้ามรดกขาดจากการเป็นสามีภริยากับโจทก์ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2478 อันเป็นวันที่ใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง บรรพ 5 และเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง บรรพ 5 แล้ว ก็ไม่ปรากฏว่าโจทก์กับเจ้ามรดกทำหนังสือยินยอมหย่ากัน หรือศาลพิพากษาให้หย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1497, 1498 จึงต้องถือว่าโจทก์กับเจ้ามรดกยังคงเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายตลอดมา
ในการชี้สองสถาน ศาลมิได้กะประเด็นเรื่องภริยาร้างไว้ และจำเลยมิได้โต้แย้ง ถือได้ว่าจำเลยยินยอมดำเนินกระบวนพิจารณาเท่าที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นไว้เท่านั้น จำเลยฎีกาว่าโจทก์เป็นภริยาร้าง ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะภริยาชอบด้วยกฎหมายและสิทธิในสินสมรส: การพิสูจน์การขาดจากความเป็นสามีภริยา
โจทก์เป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบตามข้อต่อสู้ว่าโจทก์ได้ขาดจากการเป็นสามีภริยากับเจ้ามรดกแล้ว เมื่อจำเลยไม่มีพยานหลักฐานว่าเจ้ามรดกขาดจากการเป็นสามีภริยากับโจทก์ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2478 อันเป็นวันที่ใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง บรรพ 5 และเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง บรรพ 5 แล้ว ก็ไม่ปรากฏว่าโจทก์กับเจ้ามรดกทำหนังสือยินยอมหย่ากัน หรือศาลพิพากษาให้หย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1497,1498 จึงต้องถือว่าโจทก์กับเจ้ามรดกยังคงเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายตลอดมา
ในการชี้สองสถาน ศาลมิได้กะประเด็นเรื่องภริยาร้างไว้ และจำเลยมิได้โต้แย้งถือได้ว่าจำเลยยินยอมดำเนินกระบวนพิจารณาเท่าที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นไว้เท่านั้น จำเลยฎีกาว่าโจทก์เป็นภริยาร้างศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลิตภัณฑ์ชงดื่มและข้อยกเว้นภาษีการค้า: การประเมินลักษณะผลิตภัณฑ์และวัตถุประสงค์ในการผลิต
ใบชาและชาผงที่บริษัทโจทก์ผลิตแล้วขายให้แก่องค์การคลังสินค้า จัดทำผ่านกรรมวิธีมาแล้วหลายขั้นตอนจนสามารถชงดื่มได้ ถือได้ว่าใบชาและชาผงดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ชงดื่มตามบัญชี 1 หมวด 1(3) ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 43) พ.ศ. 2516 แม้ใบชาและชาผงของบริษัทโจทก์จะไม่เป็นที่นิยม เพราะไม่ได้ปรุงแต่รสกลิ่นและความสะอาดไม่ดีนัก ก็ไม่ทำให้ใบชาและชาผงนั้นไม่เป็นปลิตภัณฑ์ชงดื่มส่วนที่พ่อค้าซื้อใบชาและชาผงของบริษัท โจทก์ไปจากองค์การคลังสินค้าแล้วนำไปผ่านกรรมวิธีอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่ พ่อค้าประสงค์จะให้ใบชาและชาผงนั้นมีคุณภาพและรสดีเป็นที่นิยมของผู้บริโภคเท่านั้น
การขนส่งใบชาและชาผงจากโรงงานของบริษัทโจทก์ที่เชียงใหม่ ถึงองค์การ คลังสินค้าที่กรุงเทพใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน แต่ใบชาและชาผงที่บริษัทโจทก์ผลิตแล้วขายให้องค์การคลังสินค้าสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นแรมปี เห็นได้ว่าบริษัทโจทก์ประสงค์จะให้ใบชาและชาผงที่บริษัทโจทก์ผลิตโดยผ่านกรรมวิธีดังกล่าวนั้นมีสภาพคงอยู่ถาวรเพื่อมิให้เสียง่าย มิใช่จัดทำเพียงเพื่อรักษามิให้ใบชาและชาผงเสียเป็นการชั่วคราวระหว่างขนส่งใบชาและชาผง ที่บริษัทโจทก์ผลิตแล้วขายให้องค์การคลังสินค้าจึงไม่ได้รับการยกเว้นภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 78 ทวิ(2)(ด)แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2513 มาตรา 4 แต่ต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7 ของรายรับ ประเภทการค้า 1 การขายของชนิด 1(3) ตามบัญชีอัตราภาษีการค้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลิตภัณฑ์ชงดื่มกับการยกเว้นภาษี: การพิจารณาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และความประสงค์ของผู้ผลิต
ใบชาและชาผงที่บริษัทโจทก์ผลิตแล้วขายให้แก่องค์การคลังสินค้า จัดทำผ่านกรรมวิธีมาแล้วหลายขั้นตอนจนสามารถชงดื่มได้ ถือได้ว่าใบชาและชาผงดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ชงดื่มตามบัญชี 1 หมวด 1 (3) ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลกฎหมายรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 21) พ.ศ.2509 แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 43) พ.ศ.2516 แม้ใบชาและชาผงของบริษัทโจทก์จะไม่เป็นที่นิยม เพราะไม่ได้ปรุงแต่งรสกลิ่นและความสะอาดไม่ดีนัก ก็ไม่ทำให้ใบชาและชาผงนั้นไม่เป็นผลิตภัณฑ์ชงดื่ม ส่วนที่พ่อค้าซื้อใบชาและชาผงของบริษัทโจทก์ไปจากองค์การคลังสินค้าแล้วนำไปผ่านกรรมวิธีอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่พ่อค้าประสงค์จะให้ใบชาและชาผงนั้นมีคุณภาพและรสดีเป็นที่นิยมของผู้บริโภคเท่านั้น
การขนส่งใบชาและชาผงจากโรงานของบริษัทโจทก์ที่เชียงใหม่ ถึงองค์การคลังสินค้าที่กรุงเทพใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน แต่ใบชาและชาผงที่บริษัทโจทก์ผลิตแล้วขายให้องค์การคลังสินค้าสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นแรมปี เห็นได้ว่าบริษัทโจทก์ประสงค์จะให้ใบชาและชาผงที่บริษัทโจทก์ผลิตโดยผ่านกรรมวิธีดังกล่าวนั้น มีสภาพคงอยู่ถาวรเพื่อมิให้เสียง่าย มิใช่จัดทำเพียงเพื่อรักษามิให้ใบชาและชาผงเสียเป็นการชั่วคราวระหว่างขนส่งใบชาและชาผง ที่บริษัทโจทก์ผลิตแล้วขายให้องค์การคลังสินค้าจึงไม่ได้รับการยกเว้นภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากรมาตรา 78 ทวิ (2) (ด) แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2513 มาตรา 4 แต่ต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7 ของรายรับ ประเภทการค้า 1 การขายของชนิด 1 (3) ตามบัญชีอัตราการค้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนและวัตถุมีคมเพื่อกระทำผิด ศาลมีอำนาจริบได้
ปืนของกลางไม่มีทะเบียน 3 กระบอก กระสุนปืน 5 นัด ผู้ใดมีไว้เป็นความผิด กับเหล็กแหลมตัดเป็นรูปเรือใบ 23 อัน เห็นได้ว่าเพื่อกระทำผิด ศาลริบได้โดยไม่มีฝ่ายใดฎีกา เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาเกินคำขอในสัญญาซื้อขายที่ไม่จดทะเบียน: ศาลจำกัดขอบเขตการบังคับคดีตามที่โจทก์ขอ
ฟ้องว่าจำเลยขายที่ดินมือเปล่าและเรือน ส่งมอบแก่โจทก์และรับชำระราคาแล้ว จำเลยเช่าโจทก์ต่อไป จำเลยไม่ชำระค่าเช่า ขอให้ขับไล่ส่งคืนที่ดินและชำระค่าเช่าที่ค้าง ได้ความว่าสัญญาซื้อขายไม่จดทะเบียนเป็นโมฆะ โจทก์ยังไม่ได้ครอบครองที่ดินและเรือนก็พิพากษายกฟ้องเท่านั้นจะให้จำเลยคืนค่าที่ดินนอกเหนือคำฟ้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกทรัพย์คืนไม่ใช่ละเมิด: อายุความตามมาตรา 1336 ไม่ใช่กฎหมายละเมิด
เงินสดของสหกรณ์ขาดบัญชี ฟ้องให้ผู้จัดการส่งเงินคืนไม่ใช่อายุความตามลักษณะละเมิด แต่เป็นการฟ้องติดตามเอาทรัพย์คืนตาม มาตรา 1336 ไม่ใช่เรียกค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้และภาษีการค้าจากการส่งสินค้าออกต่างประเทศ ให้ใช้ราคาตลาดในประเทศเท่านั้น ไม่รวมค่าระวางและค่าประกันภัย
ในกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ ประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ตรี วรรคแรก บัญญัติให้ถือเฉพาะราคาสินค้าตามราคาตลาดในวันที่ส่งไป เป็นรายได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ มิได้บัญญัติให้บวกหรือรวมค่าระวางและค่าประกันภัยเข้ากับราคาสินค้าตามราคาตลาดในวันที่ส่งไปเป็นรายได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่งสินค้าออกไปต่างประเทศและไม่มีบทบัญญัติในมาตราอื่นของประมวลรัษฎากรบัญัติเช่นนั้น ดังนั้น ในการคำนวณรายได้ของบริษัท โจทก์ที่ส่งหมากฝรั่งไปขายให้แก่บริษัท ว. ในประเทศมาเลเซียและฮ่องกง เพื่อเก็บภาษีเงินได้จากบริษัทโจทก์ จึงต้องคำนวณจากราคาตลาดของหมากฝรั่งที่โจทก์จำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น จะบวกค่าระวางและค่าประกันภัยเข้าด้วยไม่ได้
สำหรับภาษีการค้า โจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าตามประเภทการค้า 1 (ก) (ง) แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้า เมื่อโจทก์ส่งสินค้าที่ตนประกอบการค้านั้นออกนอกราชอาณาจักรต้องถือว่าเป็นการขายสินค้า และถือว่ามูลค่าของสินค้าดังกล่าวเป็นรายรับตามมาตรา 79 ทวิ (2) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2508 มาตรา 12 อันเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับขณะเกิดมูลกรณีคดีนี้ และตามมาตรา 77 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมฯ (ฉบับที่ 19) ดังกล่าว คำว่า "มูลค่า" หมายความว่า ราคาตลาดของทรัพย์สิน ของบริการหรือของประโยชน์ใด ๆ และในกรณีที่ไม่มีราคาตลาดหมายความว่า ราคาอันผู้ประกอบการค้าพึงได้รับจากทรัพย์สินจากบริษัทหรือจากประโยชน์นั้น ๆ ฯลฯ ดังนั้น มูลค่าของหมากฝรั่งที่โจทก์ส่งไปขายให้แก่บริษัท ว. ในประเทศมาเลเซียและฮ่องกงอันจะถือเป็นรายรับในการคำนวณให้โจทก์เสียภาษีการค้า จึงต้องถือตามราคาตลาดของหมากฝรั่งที่โจทก์จำหน่ายในประเทศไทยโดยไม่บวกค่าระวางขนส่งและค่าประกันภัยเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณรายได้และภาษีจากการส่งสินค้าออกต่างประเทศ ให้ใช้ราคาตลาดในประเทศ ไม่รวมค่าระวางและประกันภัย
ในกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ ประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ตรี วรรคแรก บัญญัติให้ถือเฉพาะราคาสินค้าตาม ราคาตลาดในวันที่ส่งไป เป็นรายได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ มิได้บัญญัติให้บวกหรือรวมค่าระวางและค่าประกันภัยเข้ากับราคา สินค้าตามราคาตลาดในวันที่ส่งไปเป็นรายได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ส่งสินค้าออกไปต่างประเทศและไม่มีบทบัญญัติในมาตราอื่นของประมวลรัษฎากร บัญญัติเช่นนั้น ดังนั้น ในการคำนวณรายได้ของบริษัทโจทก์ที่ส่งหมากฝรั่งไปขายให้แก่บริษัทว. ในประเทศมาเลเซียและฮ่องกง เพื่อเก็บภาษีเงินได้จากบริษัทโจทก์จึงต้องคำนวณจากราคาตลาดของหมากฝรั่งที่โจทก์จำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น จะบอกค่าระวางและค่าประกันภัยเข้าด้วยไม่ได้
สำหรับภาษีการค้า โจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าตามประเภทการค้า 1(ก)(ง) แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้า เมื่อโจทก์ส่งสินค้าที่ตนประกอบการค้านั้นออกนอก ราชอาณาจักรต้องถือว่าเป็นการขายสินค้า และถือว่ามูลค่าของสินค้าดังกล่าว เป็นรายรับตามมาตรา 79 ทวิ(2) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2508 มาตรา 12 อันเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับ ขณะเกิดมูลกรณีคดีนี้ และตามมาตรา 77 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยมาตรา 6 แห่ง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมฯ (ฉบับที่ 19) ดังกล่าว คำว่า "มูลค่า" หมายความว่า ราคา ตลาดของทรัพย์สิน ของบริการหรือของประโยชน์ใด ๆ และในกรณีที่ไม่มี ราคาตลาดหมายความว่า ราคาอันผู้ประกอบการค้าพึงได้รับจากทรัพย์สินจากบริการหรือจากประโยชน์นั้น ๆ ฯลฯ ดังนั้น มูลค่าของหมากฝรั่งที่โจทก์ส่งไปขายให้แก่บริษัทว. ในประเทศมาเลเซียและฮ่องกงอันจะถือเป็นรายรับในการคำนวณให้โจทก์เสียภาษีการค้า จึงต้องถือตามราคาตลาดของหมากฝรั่งที่โจทก์จำหน่าย ในประเทศไทยโดยไม่บวกค่าระวางขนส่งและค่าประกันภัยเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ทางจำเป็นเมื่อแบ่งแยกที่ดิน: โจทก์มีสิทธิใช้ทางเดิมในที่ดินของจำเลยเพื่อออกสู่ทางสาธารณะ
ที่ดินของโจทก์แบ่งแยกจากโฉนดซึ่งมีทางออกสู่ทางสาธารณะได้ ถ้าไม่ออกทางนี้โจทก์ไม่มีทางออก โจทก์มีสิทธิใช้ทางนี้ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1350
of 26