พบผลลัพธ์ทั้งหมด 42 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: ศาลมีอำนาจสั่งขายที่ดินแยกแปลงได้ หากการขายรวมแปลงทำให้เจ้าหนี้ได้รับความเสียหาย
โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยที่ 1 รวมพร้อมกัน 7 แปลง จำเลยที่ 1 ร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ขายที่ดินของจำเลยที่ 1 แยกทีละแปลง โดยอ้างว่าเจ้าพนักงานประเมินราคาที่ดินแปลงหนึ่งไว้ในราคาตารางวาละ 2,000 บาท ราคาที่ดินทั้งแปลงมีจำนวนถึง 1,160,000 บาท แต่หนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยมีเพียง 421,000 บาท หากขายที่ดินแปลงดังกล่าวแปลงเดียวก็เพียงพอที่จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว ดังนี้ หากความจริงเป็นดังที่จำเลยที่ 1 กล่าวอ้าง ก็มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลอาจพิจารณาอนุญาตให้ขายที่ดินของจำเลยที่ 1 ทีละแปลงดังที่จำเลยที่ 1 ร้องขอได้ศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนคำร้อง ของ จำเลยที่ 1 เสียก่อนที่จะพิจารณาสั่งคำร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2191/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: คำสั่งศาลที่ยังไม่เป็นที่สุดตามมาตรา 309 และการรวม/แยกทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาด
คำสั่งของศาลที่จะเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 จะต้องเป็นกรณีที่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีรวมหรือแยกทรัพย์สิน หรือขอให้ขายทรัพย์สินนั้นตามลำดับที่กำหนดไว้ หรือร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่สั่งให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินตามมาตรา 309(1) (2) และ (3) และเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยอมปฏิบัติตามคำร้องหรือคำคัดค้านเช่นว่านั้น ผู้ร้องได้ยื่นคำขอต่อศาลโดยทำเป็นคำร้องภายใน 2 วันนับแต่วันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิเสธเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งชี้ขาดในเรื่องนั้น คำสั่งชี้ขาดของศาลจึงจะเป็นที่สุด แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 972 รวมกับที่ดินแปลงอื่นรวม 10 โฉนด ในคราวเดียวกันต่อศาลชั้นต้นโดยตรงก่อนการขายทอดตลาดกรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 309 ดังกล่าวคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งคำร้องของโจทก์จึงยังไม่เป็นที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2191/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดและการรวมแปลงที่ดิน: ศาลต้องพิจารณาความสมเหตุสมผลเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่เจ้าหนี้และผู้มีส่วนได้เสีย
คำสั่งของศาลที่จะเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 309 จะต้องเป็นกรณีที่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีรวมหรือแยกทรัพย์สิน หรือขอให้ขายทรัพย์สินนั้นตามลำดับที่กำหนดไว้ หรือร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่สั่งให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินตามมาตรา 309(1)(2) และ (3) และเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยอมปฏิบัติตามคำร้องหรือคำคัดค้านเช่นว่านั้น ผู้ร้องได้ยื่นคำขอต่อศาลโดยทำเป็นคำร้องภายใน 2 วันนับแต่วันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิเสธเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งชี้ขาดเรื่องนั้น คำสั่งชี้ขาดของศาลจึงจะเป็นที่สุด แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 972 รวมกับที่ดินแปลงอื่นรวม 10 โฉนดในคราวเดียวกันต่อศาลชั้นต้นโดยตรงก่อนการขายทอดตลาดกรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 309ดังกล่าว คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งคำร้องของโจทก์จึงยังไม่เป็นที่สุด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2191/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมหรือแยกการขายทรัพย์สินบังคับคดีและการเพิกถอนการขายหากราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
คำสั่งของศาลที่จะเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 จะต้องเป็นกรณีที่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีรวมหรือแยกทรัพย์สิน หรือขอให้ขายทรัพย์สินนั้นตามลำดับที่กำหนดไว้ หรือร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่สั่งให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินตามมาตรา 309(1)(2) และ (3) และเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยอมปฏิบัติตามคำร้องหรือคำคัดค้านเช่นว่านั้น ผู้ร้องได้ยื่นคำขอต่อศาลโดยทำเป็นคำร้องภายใน 2 วันนับแต่วันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิเสธเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งชี้ขาดในเรื่องนั้น คำสั่งชี้ขาดของศาลจึงจะเป็นที่สุดแต่คดีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 972 รวมกับที่ดินแปลงอื่นรวม10 โฉนด ในคราวเดียวกันต่อศาลชั้นต้นโดยตรงก่อนการขายทอดตลาดกรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 309 คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งคำร้อง ของ โจทก์จึงยังไม่เป็นที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2191/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลชี้ขาดการรวม/แยกทรัพย์สินบังคับคดีต้องเป็นไปตามขั้นตอน ม.309 หากไม่เป็นไปตามขั้นตอน คำสั่งนั้นยังไม่ถึงที่สุด
คำสั่งของศาลที่จะเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 จะต้อง เป็นกรณีที่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีรวมหรือแยกทรัพย์สิน หรือขอให้ขายทรัพย์สินนั้นตาม ลำดับที่กำหนดไว้ หรือร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่สั่งให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินตาม มาตรา309(1)(2) และ (3) และเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยอมปฏิบัติตามคำร้องหรือคำคัดค้านเช่นว่านั้น ผู้ร้องได้ ยื่นคำขอต่อ ศาลโดยทำเป็นคำร้องภายใน 2 วันนับแต่วันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิเสธเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งชี้ขาดในเรื่องนั้น คำสั่งชี้ขาดของศาลจึงจะเป็นที่สุด แต่ ข้อเท็จจริงในคดีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ขายที่ดินโฉนด เลขที่ 972 รวมกับที่ดินแปลงอื่นรวม10 โฉนด ในคราวเดียวกันต่อ ศาลชั้นต้นโดยตรงก่อนการขายทอดตลาดกรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตาม ที่ระบุไว้ในมาตรา 309 ดังกล่าวคำสั่งศาลชั้นต้น ที่สั่งคำร้อง ของ โจทก์จึงยังไม่เป็นที่สุด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3492/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดทรัพย์สิน: การรวมแปลงขาย, การสมยอมประมูล, และการชำระเงินค่าซื้อ
แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 บัญญัติเป็นหลักบังคับไว้ว่า ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่มีหลายสิ่งด้วยกัน ให้แยกขายทีละสิ่งต่อเนื่องกันไป แต่ก็ให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะจัดขายอสังหาริมทรัพย์สองสิ่งหรือกว่านั้นขึ้นไป รวมขายไปด้วยกันได้ ในเมื่อเป็นที่คาดหมายได้ว่าเงินรายได้ในการขายจะเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนั้น
เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยสองแปลงรวมไปด้วยกัน หากจำเลยเห็นว่าควรแยกขายทีละแปลง จำเลยก็ชอบที่จะร้องคัดค้านไว้ตามมาตรา 309 วรรคท้าย จำเลยจะยกความข้อนี้เป็นเหตุคัดค้านเมื่อการขายทอดตลาดสำเร็จบริบูรณ์แล้วหาได้ไม่
การขายทอดตลาดครั้งก่อนผู้สู้ราคาสูงสุดไม่วางเงินค่าซื้อตามเงื่อนไข การขายทอดตลาด จึงประกาศขายใหม่ การขายทอดตลาดครั้งหลังแม้จะได้ราคาต่ำกว่าการขายครั้งก่อนก็ตาม ศาลก็อนุญาตให้ขายแก่ผู้สู้ราคาสูงสุดในครั้งหลังได้ และถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับความเสียหาย เพราะราคาส่วนที่ต่ำหรือขาดไปนี้ผู้สู้ราคาสูงสุดในการขายครั้งก่อนยังต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา516
เงื่อนไขในการขายทอดตลาดกำหนดไว้ว่า ผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดต้องชำระเงินค่าซื้อในวันขายทอดตลาดร้อยละ 25 ของราคา จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาคดีนี้ 118,700 บาท โจทก์เป็นผู้ซื้อที่ดินที่ขายทอดตลาดได้ในราคา 240,000 บาท โจทก์ขอหักหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาดังกล่าว ได้ชำระค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาดร้อยละ 5 ของจำนวนเงินที่ขายเป็นเงิน 12,050 บาทส่วนเงินที่เหลือจำนวน 110,250 บาท โจทก์ได้ชำระภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันขายทอดตลาดซึ่งอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะขยายกำหนดเวลาให้ได้ ทั้งเป็นไปตามเงื่อนไขการประกาศขายทอดตลาด ดังนี้ การซื้อทรัพย์ของโจทก์จึงเป็นไปโดยชอบ
เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยสองแปลงรวมไปด้วยกัน หากจำเลยเห็นว่าควรแยกขายทีละแปลง จำเลยก็ชอบที่จะร้องคัดค้านไว้ตามมาตรา 309 วรรคท้าย จำเลยจะยกความข้อนี้เป็นเหตุคัดค้านเมื่อการขายทอดตลาดสำเร็จบริบูรณ์แล้วหาได้ไม่
การขายทอดตลาดครั้งก่อนผู้สู้ราคาสูงสุดไม่วางเงินค่าซื้อตามเงื่อนไข การขายทอดตลาด จึงประกาศขายใหม่ การขายทอดตลาดครั้งหลังแม้จะได้ราคาต่ำกว่าการขายครั้งก่อนก็ตาม ศาลก็อนุญาตให้ขายแก่ผู้สู้ราคาสูงสุดในครั้งหลังได้ และถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับความเสียหาย เพราะราคาส่วนที่ต่ำหรือขาดไปนี้ผู้สู้ราคาสูงสุดในการขายครั้งก่อนยังต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา516
เงื่อนไขในการขายทอดตลาดกำหนดไว้ว่า ผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดต้องชำระเงินค่าซื้อในวันขายทอดตลาดร้อยละ 25 ของราคา จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาคดีนี้ 118,700 บาท โจทก์เป็นผู้ซื้อที่ดินที่ขายทอดตลาดได้ในราคา 240,000 บาท โจทก์ขอหักหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาดังกล่าว ได้ชำระค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาดร้อยละ 5 ของจำนวนเงินที่ขายเป็นเงิน 12,050 บาทส่วนเงินที่เหลือจำนวน 110,250 บาท โจทก์ได้ชำระภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันขายทอดตลาดซึ่งอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะขยายกำหนดเวลาให้ได้ ทั้งเป็นไปตามเงื่อนไขการประกาศขายทอดตลาด ดังนี้ การซื้อทรัพย์ของโจทก์จึงเป็นไปโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3492/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดรวมทรัพย์สินหลายแปลง เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจรวมขายได้หากคาดว่าจะได้ราคาเพิ่มขึ้น การชำระเงินตามเงื่อนไขเป็นไปโดยชอบ
แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 บัญญัติเป็นหลักบังคับไว้ว่า ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่มีหลายสิ่งด้วยกัน ให้แยกขายทีละสิ่งต่อเนื่องกันไป แต่ก็ให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะจัดขายอสังหาริมทรัพย์สองสิ่งหรือกว่านั้นขึ้นไป รวมขายไปด้วยกันได้ ในเมื่อเป็นที่คาดหมายได้ว่าเงินรายได้ในการขายจะเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนั้น
เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยสองแปลงรวมไปด้วยกัน หากจำเลยเห็นว่าควรแยกขายทีละแปลง จำเลยก็ชอบที่จะร้องคัดค้านไว้ตามมาตรา 309 วรรคท้าย จำเลยจะยกความข้อนี้เป็นเหตุคัดค้านเมื่อการขายทอดตลาดสำเร็จบริบูรณ์แล้วหาได้ไม่
การขายทอดตลาดครั้งก่อนผู้สู้ราคาสูงสุดไม่วางเงินค่าซื้อตามเงื่อนไข การขายทอดตลาด จึงประกาศขายใหม่ การขายทอดตลาดครั้งหลังแม้จะได้ราคาต่ำกว่าการขายครั้งก่อนก็ตาม ศาลก็อนุญาตให้ขายแก่ผู้สู้ราคาสูงสุดในครั้งหลังได้ และถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับความเสียหาย เพราะราคาส่วนที่ต่ำหรือขาดไปนี้ผู้สู้ราคาสูงสุดในการขายครั้งก่อนยังต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 516
เงื่อนไขในการขายทอดตลาดกำหนดไว้ว่า ผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดต้องชำระเงินค่าซื้อในวันขายทอดตลาดร้อยละ 25 ของราคา จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาคดีนี้ 118,700 บาท โจทก์เป็นผู้ซื้อที่ดินที่ขายทอดตลาดได้ในราคา 240,000 บาท โจทก์ขอหักหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาดังกล่าว ได้ชำระค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาดร้อยละ 5 ของจำนวนเงินที่ขายเป็นเงิน 12,050 บาทส่วนเงินที่เหลือจำนวน 110,250 บาท โจทก์ได้ชำระภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันขายทอดตลาดซึ่งอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะขยายกำหนดเวลาให้ได้ ทั้งเป็นไปตามเงื่อนไขการประกาศขายทอดตลาด ดังนี้ การซื้อทรัพย์ของโจทก์จึงเป็นไปโดยชอบ
เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยสองแปลงรวมไปด้วยกัน หากจำเลยเห็นว่าควรแยกขายทีละแปลง จำเลยก็ชอบที่จะร้องคัดค้านไว้ตามมาตรา 309 วรรคท้าย จำเลยจะยกความข้อนี้เป็นเหตุคัดค้านเมื่อการขายทอดตลาดสำเร็จบริบูรณ์แล้วหาได้ไม่
การขายทอดตลาดครั้งก่อนผู้สู้ราคาสูงสุดไม่วางเงินค่าซื้อตามเงื่อนไข การขายทอดตลาด จึงประกาศขายใหม่ การขายทอดตลาดครั้งหลังแม้จะได้ราคาต่ำกว่าการขายครั้งก่อนก็ตาม ศาลก็อนุญาตให้ขายแก่ผู้สู้ราคาสูงสุดในครั้งหลังได้ และถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับความเสียหาย เพราะราคาส่วนที่ต่ำหรือขาดไปนี้ผู้สู้ราคาสูงสุดในการขายครั้งก่อนยังต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 516
เงื่อนไขในการขายทอดตลาดกำหนดไว้ว่า ผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดต้องชำระเงินค่าซื้อในวันขายทอดตลาดร้อยละ 25 ของราคา จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาคดีนี้ 118,700 บาท โจทก์เป็นผู้ซื้อที่ดินที่ขายทอดตลาดได้ในราคา 240,000 บาท โจทก์ขอหักหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาดังกล่าว ได้ชำระค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาดร้อยละ 5 ของจำนวนเงินที่ขายเป็นเงิน 12,050 บาทส่วนเงินที่เหลือจำนวน 110,250 บาท โจทก์ได้ชำระภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันขายทอดตลาดซึ่งอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะขยายกำหนดเวลาให้ได้ ทั้งเป็นไปตามเงื่อนไขการประกาศขายทอดตลาด ดังนี้ การซื้อทรัพย์ของโจทก์จึงเป็นไปโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3791/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดรวมทรัพย์สิน: สถานีบริการน้ำมันและสิ่งปลูกสร้างอื่น เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจพิจารณาได้
ทรัพย์ที่ขายทอดตลาดเป็นสถานีบริการน้ำมัน มีบ้านบังกาโลว์4 หลัง ถ้าแยกขายผู้ซื้อก็จะต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างไปอาจทำให้ขายได้ราคาต่ำกว่าขายรวมกัน เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีอำนาจขายทรัพย์สินดังกล่าวรวมกันได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3791/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดรวมกันได้ หากแยกขายอาจได้ราคาต่ำกว่า และไม่มีหลักฐานสมคบกันกดราคา
ทรัพย์ที่ขายทอดตลาดเป็นสถานีบริการน้ำมัน มีบ้านบังกาโลว์4 หลัง ถ้าแยกขายผู้ซื้อก็จะต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างไปอาจทำให้ขายได้ราคาต่ำกว่าขายรวมกัน เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีอำนาจขายทรัพย์สินดังกล่าวรวมกันได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1555-1556/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้มิได้แยกรายการ หากขายได้ราคาสูงกว่าประเมินและไม่มีข้อโต้แย้งวิธีขาย
เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้แยกทรัพย์ออกขายเป็นรายการไปจำเลยมิได้ร้องขอเกี่ยวกับวิธีขาย และขายได้สูงกว่าราคาประเมิน เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจขายได้โดยชอบ