คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 309

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 42 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดถูกต้องตามระเบียบ แม้มีผู้ประมูลน้อยรายและขายเหมาแปลง ศาลยืนตามคำสั่งเดิม
ในวันขายทอดตลาด จำเลยได้มาฟังการขายทอดตลาดด้วยนอกจากนี้ยังมีผู้มาฟังการขายอีก 3 คน การที่โจทก์และ บ. เข้าประมูลราคาเพียง 2 คนก็ดี หรือการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยโดยวิธีขายเหมาทั้งสามแปลงก็ดีเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะพิจารณาดำเนินการตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา309 ซึ่งจำเลยก็มิได้คัดค้านประการใดการขายทอดตลาดทรัพย์ได้กระทำไปโดยถูกต้องตามระเบียบแล้วจะขอให้ขายใหม่ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: สิทธิผู้ซื้อทรัพย์ - การแจ้งวันขายทอดตลาด - อำนาจศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขายทอดตลาดในการบังคับคดีใหม่ผู้ซื้อทรัพย์คนหนึ่งใน 3 คนที่รวมกันซื้อ ฎีกาได้เพราะมีส่วนได้เสีย
ศาลไม่ได้แจ้งวันขายทอดตลาดให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาทราบไม่ใช่ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ถ้าไม่ได้อ้างในศาลชั้นต้น และมิได้ยกขึ้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยเองไม่ได้
การขายทอดตลาดทรัพย์ในการบังคับคดี จะขายรวมหรือแยกขายก็ได้ ตามมาตรา 309

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิคัดค้านการขายทอดตลาด: ผู้ร้องต้องมีส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่ถูกบังคับคดี จึงมีสิทธิคัดค้านได้
แม้ผู้ร้องจะได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยนาที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดมาก็ตาม คำร้องดังกล่าวก็ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้ยกเสียในชั้นที่สุด โดยวินิจฉัยไม่เชื่อว่าทรัพย์สินที่ถูกยึดเป็นของผู้ร้อง ดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในวิธีการบังคับคดีอันเกี่ยวด้วยทรัพย์สินที่ถูกยึดผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิคัดค้านการขายทอดตลาด: ผู้มีส่วนได้เสียต้องพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
แม้ผู้ร้องจะได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยนาที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดมาก็ตาม คำร้องดังกล่าวก็ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้ยกเสียในชั้นที่สุด โดยวินิจฉัยไม่เชื่อว่าทรัพย์สินที่ถูกยึดเป็นของผู้ร้อง ดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในวิธีการบังคับคดีอันเกี่ยวด้วยทรัพย์สินที่ถูกยึด ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิคัดค้านการขายทอดตลาด: ผู้ร้องต้องมีส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่ถูกบังคับคดี จึงมีสิทธิคัดค้าน
แม้ผู้ร้องจะได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยนาที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดมาก็ตาม. คำร้องดังกล่าวก็ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้ยกเสียในชั้นที่สุด. โดยวินิจฉัยไม่เชื่อว่าทรัพย์สินที่ถูกยึดเป็นของผู้ร้อง. ดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในวิธีการบังคับคดีอันเกี่ยวด้วยทรัพย์สินที่ถูกยึด. ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายนี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการยึดทรัพย์: การยึดทรัพย์ทั้งแปลงเพื่อชำระหนี้เป็นไปตามกฎหมาย หากจำเลยไม่คัดค้านหรือเพิกเฉย
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ 34,000 บาทเศษ และดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ในเงินต้น 30,000 บาท จำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาเลย เจ้าพนักงานจึงต้องยึดที่ทั้งแปลงราคาประมาณ 100,000 บาท แม้ต่อมาจำเลยจะได้ผ่อนชำระหนี้ไปถึง 35,000 บาท หากจำเลยเห็นว่า เจ้าพนักงานบังคับคดียึดสวนยางของจำเลยทั้งแปลงมากเกินความจำเป็น ก็ชอบที่จะร้องขอให้เจ้าพนักงานแบ่งยึดแต่พอควร หากจำเลยเห็นควรแบ่งขายให้พอดีกับหนี้สินที่ค้าง จำเลยก็น่าจะได้แถลงให้ศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ ในวันขาย จำเลยได้มองให้ทนายความมาระวังผลประโยชน์ของจำเลย ทนายความมิได้ทักท้วงในเรื่องนี้ แสดงว่าทนายจำเลยก็เห็นชอบด้วย จะยกเป็นเหตุคัดค้านเมื่อขายทอดตลาดสำเร็จแล้วย่อมไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการยึดทรัพย์สินเกินความจำเป็น ผู้ผิดพลาดต้องดำเนินการคัดค้านตั้งแต่แรก
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ 34,000 บาทเศษ และดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีในเงินต้น 30,000 บาท จำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาเลย เจ้าพนักงานจึงต้องยึดที่ทั้งแปลงราคาประมาณ 100,000 บาท แม้ต่อมาจำเลยจะได้ผ่อนชำระหนี้ไปถึง 35,000 บาท หากจำเลยเห็นว่า เจ้าพนักงานบังคับคดียึดสวนยางของจำเลยทั้งแปลงมากเกินความจำเป็น ก็ชอบที่จะร้องขอให้เจ้าพนักงานแบ่งยึดแต่พอควร หากจำเลยเห็นควรแบ่งขายให้พอดีกับหนี้สินที่ค้าง จำเลยก็น่าจะได้แถลงให้ศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ ในวันขายจำเลยได้มอบให้ทนายความมาระวังผลประโยชน์ของจำเลย ทนายความมิได้ทักท้วงในเรื่องนี้ แสดงว่าทนายจำเลยก็เห็นชอบด้วย จะยกเป็นเหตุคัดค้านเมื่อขายทอดตลาดสำเร็จแล้วย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำนองเหนือทรัพย์สินทั้งหมด แม้กรรมสิทธิ์บางส่วนจะเปลี่ยนมือจากการครอบครองปรปักษ์ ผู้รับจำนองยังบังคับได้
จำเลยที่ 1,2 จำนองที่ดินแปลงหนึ่งแก่โจทก์ เมื่อจำนองแล้ว จำเลยที่ 3 ได้กรรมสิทธิ์ส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงนั้นไปด้วยการครอบครองปรปักษ์ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน ดังนี้โจทก์มีสิทธิบังคับจำนองที่ดินแปลงนั้นได้ แม้ส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงนั้นตกเป็นของจำเลยที่ 3 แล้วและจำเลยที่ 3 ไม่ได้เป็นลูกหนี้โจทก์ก็ตาม ทั้งนี้เพราะสิทธิจำนองเป็นสิทธิครอบเหนือทรัพย์ทั้งหมด
เมื่อจำเลยที่ 3 ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนจะยกขึ้นต่อสู้ผู้รับจำนองซึ่งได้สิทธิโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำนองเหนือทรัพย์ทั้งหมด แม้ผู้ครอบครองปรปักษ์ยังมิได้จดทะเบียน โจทก์มีสิทธิบังคับจำนองได้
จำเลยที่ 1,2 จำนองที่ดินแปลงหนึ่งแก่โจทก์ เมื่อจำนองแล้วจำเลยที่ 3 ได้กรรมสิทธิ์ส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงนั้นไปด้วยการครอบครองปรปักษ์ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน ดังนี้ โจทก์มีสิทธิบังคับจำนองที่ดินแปลงนั้นได้ แม้ส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงนั้นตกเป็นของจำเลยที่ 3 แล้ว และจำเลยที่ 3 ไม่ได้เป็นลูกหนี้โจทก์ก็ตาม ทั้งนี้เพราะสิทธิจำนองเป็นสิทธิครอบเหนือทรัพย์ทั้งหมด
เมื่อจำเลยที่ 3 ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครอง แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน จะยกขึ้นต่อสู้ผู้รับจำนองซึ่งได้สิทธิโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดที่ส่อเจตนาทุจริตและฝ่าฝืนหลักวิธีพิจารณาความแพ่ง จำเลยมีสิทธิขอให้ขายใหม่ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 บัญญัติเป็นหลักข้อบังคับไว้ว่าในการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่มีหลายสิ่งด้วยกัน ให้แยกขายทีละสิ่งต่อเนื่องกันไป แต่ให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะจัดขายอสังหาริมทรัพย์สองสื่งหรือกว่านั้นขึ้นไปรวมขายไปด้วยกันในเมื่อเป็นที่คาดหมายได้ว่าเงินรายได้ในการขายจะเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนั้น
ที่ดินของจำเลยอยู่ติดกันแยกออกเป็นสองโฉนด เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายรวมขายไปคราวเดียวกันโดยบันทึกว่าเนื่องจากบ้าน 1 หลังปลูกคร่อมที่ดินทั้ง 2 โฉนดเพื่อให้ได้ราคาดีขึ้น ผู้ซื้อขอให้ขายรวมกันทั้งหมด จึงได้ตกลงขายรวมกันไปในคราวเดียว เช่นนี้ การที่ผู้ซื้อมีน้อยคนแล้รวมขายทรัพย์ไปในคราวเดียวโดยตามใจผู้ซื้อซึ่งอ้างว่าจะได้ราคาดีขึ้นนั้น นอกจากจะฝ่าฝืนหลักของการขายทอดตลาดทรัพย์แล้ว ยังถือเอาความต้องการของผู้ซื้อเป็นประมาณ โดยมิได้ใช้สามัญสำนึกว่า ผู้ซื้อย่อมประสงค์ซื้อของให้ได้ในราคาถูกที่สุดเป็นธรรมดามาประกอบการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยบ้าง จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จะพึงคาดหมายได้ว่าการขายทรัพย์ของจำเลยรวมกันจะเพิ่มรายได้มากขึ้น
แม้การที่จำเลยไม่ได้มาระวังผลประโยชน์ของตนในวันขายทอดตลาดทรัพย์ ย่อมไม่ทำให้การขายนั้นเสียไปก็ดี แต่ถ้ามีพฤติการณ์ทั่ว ๆ ไปแสดงว่าการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่โจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อได้นั้นโน้มน้าวไปในทางรวบรัดกดราคา จำเลยก็มีสิทธิร้องขอดให้ขายใหม่ได้
of 5