คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
โสพิทย์ คังคะเกตุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 401 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2681/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการฆ่าผู้อื่น: การถือปืนขณะที่พวกกระทำผิดและพูดเพื่อปกป้องตนเอง ถือเป็นความผิดฐานร่วมกันฆ่า
จำเลยกับพวกเดินมาด้วยกันและเข้าไปพูดกับผู้ตาย แล้วพวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย 1 นัด ส่วนจำเลยยืนถือปืนอยู่ด้วยเมื่อพวกของจำเลยยิงผู้ตายแล้ว จำเลยกับพวกเดินหนีไปด้วยกัน ก่อนจะหนี จำเลยพูดดัง ๆ 2 ครั้งว่า คนอื่นไม่เกี่ยว ดังนี้พฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2624/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าครอบครองที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นละเมิด เจ้าของที่ดินมีสิทธิขับไล่
การที่จำเลยอาศัยอยู่ในบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของโจทก์นั้นเท่ากับจำเลยเข้าอยู่ในที่ดินของโจทก์ด้วย เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยอยู่ต่อไป จำเลยยังคงอยู่ต่อมาจึงเป็นละเมิด โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากที่ดินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2595/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมถูกห้ามโต้แย้งกรรมสิทธิ์เดิมที่ศาลตัดสินแล้ว แม้จะซื้อร่วมกัน
คดีก่อน จำเลยที่ 1 ในฐานะเจ้าของรวมได้ให้การโต้แย้งเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของในที่พิพาทแทนจำเลยที่ 2 เจ้าของรวมอีกผู้หนึ่ง ศาลได้พิพากษาถึงที่สุดแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์มาแล้ว จำเลยทั้งสองจึงไม่อาจให้การและฟ้องแย้งเกี่ยวกับที่ดินพิพาทอ้างว่าเป็นของตนในคดีนี้ได้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2583/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จกระทบสิทธิรับมรดกของภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์จดทะเบียนสมรสกับจำเลย ต่อมาจำเลยแจ้งแก่ น. เจ้าพนักงานซึ่งมีหน้าที่จดทะเบียนสมรสว่า จำเลยไม่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อนเลยอันเป็นเท็จ เพราะจำเลยกับโจทก์ยังเป็นสามีภริยากันโดยชอยด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานได้จดทะเบียนสมรสให้จำเลยกับนางสาว ส. เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยกระทบกระเทือนถึงฐานะบุคคลของโจทก์ซึ่งเป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิรับมรดกอยู่ก่อนแต่คนดียว โจทก์จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียและได้รับความเสียหายในกรณีที่เกิดขึ้นโดยตรงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) มีอำนาจฟ้องคดีฐานแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2583/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จเกี่ยวกับสถานภาพสมรสกระทบสิทธิภริยาเดิมในการรับมรดก โจทก์มีสิทธิฟ้องอาญา
สามีจดทะเบียนสมรสกับหญิงอื่นโดยที่ยังไม่ขาดจากภริยาเดิมที่ได้จดทะเบียนสมรสไว้ แต่อ้างกับเจ้าหน้าที่จดทะเบียนว่าไม่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อน ภริยาเดิมเป็นผู้เสียหายฟ้องสามีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา137 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2547/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองวัตถุระเบิดหลังหมดกำหนดเวลาตามคำสั่ง คปป. ไม่ได้รับการยกเว้นโทษ
จำเลยมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองภายหลังที่สิ้นกำหนดเวลานำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามที่กำหนดไว้ในคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 นั้น ไม่อยู่ในข่ายจะได้รับการพิจารณายกเว้นโทษตามคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ-ค่าปรับ-ค่าเสียหาย: ผู้รับเหมาผิดสัญญา จำเลยมีสิทธิเรียกค่าปรับและค่าเสียหายได้
เมื่อปรากฏว่างานของโจทก์มีสิ่งที่บกพร่องจำเลยบอกกล่าวให้โจทก์แก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้คืนดีหรือทำการให้เป็นไปตามสัญญาภายในเวลาอันสมควรซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้นแล้วโจทก์ไม่ดำเนินการแก้ไขจนล่วงเลยกำหนดนั้นแล้ว จำเลยจึงจ้างบุคคลภายนอกทำการแก้ไขสิ่งบกพร่องดังกล่าวได้ โดยโจทก์จะต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 594
โจทก์ปลูกบ้านยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จำเลยยังไม่ได้รับมอบบ้านนั้นจากโจทก์ยังไม่ถือว่าโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่จำเลยแล้วจำเลยมีสิทธิเรียกเอาเบี้ยปรับในกรณีไม่ชำระหนี้ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้จากโจทก์ได้ตามสัญญา
โจทก์จำเลยตกลงกันว่าหากโจทก์ก่อสร้างไม่เสร็จภายในเวลาที่กำหนดยอมให้จำเลยปรับเป็นรายวันจำเลยจึงมีสิทธิที่จะปรับโจทก์ได้ตั้งแต่วันหมดอายุสัญญาจนถึงวันที่งานก่อสร้างแล้วเสร็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาก่อสร้าง: ผิดสัญญา, ค่าปรับ, การซ่อมแซมโดยจำเลย, การชำระหนี้
เมื่อปรากฏว่างานของโจทก์มีสิ่งที่บกพร่อง จำเลยบอกกล่าวให้โจทก์แก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้คืนดี หรือทำการให้เป็นไปตามสัญญาภายในเวลาอันสมควรซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้นแล้ว โจทก์ไม่ดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามสัญญาจนคลาดกำหนดนั้นไป จำเลยจึงจ้างบุคคลภายนอกทำการแก้ไขสิ่งยกพร่องดังกล่าวได้ โดยโจทก์จะต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตร 594
โจทก์ปลูกบ้านยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จำเลยยังไม่ได้รับมอบบานนั้นจากโจทก์ยังไม่ถือว่าโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยมีสิทธเรียกเอาเบี้ยปรับในกรณีไม่ชำระหนี้ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้จากโจทก์ได้ตามสัญญา
โจทก์จำเลยตกลงกันว่า หากโจทก์ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดยอมให้จำเลยปรับเป็นรายวัน จำเลยจึงมีสิทธิที่จะปรับโจทก์ได้ตั้งแต่วันหมดอายุสัญญาจนถึงวันที่งานก่อสร้างแล้วเสร็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2449/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือผู้กระทำผิดหลบหนี: เจตนาไม่ใช่เพื่อหลบหนี ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 บัญญัติถึงการกระทำ เพื่อช่วยเหลือมิให้ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษโดยมิให้ถูกจับกุม เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยถีบรถจักรยานให้ บ.ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดนั่งซ้อนท้ายพาออกจากที่เกิดเหตุไปในขณะที่ยังไม่มีผู้มีอำนาจจับกุมคนใดจะจับกุม บ. และยังได้ความอีกว่า จำเลยถีบรถจักรยาน พา บ.นั่งซ้อนท้ายไปบ้าน จึงส่อให้เห็นเจตนาว่าไม่ใช่เพื่อหลบหนีหรือเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมอีกด้วย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2449/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือผู้กระทำผิดหลบหนี – เจตนาไม่ใช่เพื่อหลบหนี ไม่เป็นความผิด ม.189
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 บัญญัติถึงการกระทำเพื่อช่วยเหลือมิได้ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษโดยมิให้ถูกจับกุมเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยถีบรถจักรยานให้ บ. ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดนั่งซ้อนท้ายพาออกจากที่เกิดเหตุไปในขณะที่ยังไม่มีผู้มีอำนาจจับกุมคนใดจะจับกุม บ. และยังได้ความอีกว่า จำเลยถีบรถจักรยานพา บ. นั่งซ้อนท้ายไปบ้าน จึงส่อให้เห็นเจตนาว่าไม่ใช่เพื่อหลบหนีหรือเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมอีกด้วย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าว
of 41