พบผลลัพธ์ทั้งหมด 401 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายปุ๋ยที่ถูกยักยอก: สิทธิของโจทก์และการรับผิดของจำเลยที่ 3 ที่ซื้อโดยสุจริต
จำเลยซื้อปุ๋ยของโจทก์ที่ถูกยักยอกไปและขายต่อไปแล้ว จำเลยซื้อโดยสุจริต ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ โจทก์มีสิทธิติดตามเอาปุ๋ยคืนจากผู้ที่ยึดถือทรัพย์ของโจทก์ไว้เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับเอกสารในสำนวนไม่ใช่หลักฐานเด็ดขาดพิสูจน์เวลาการยื่นเอกสาร ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานตามดุลยพินิจ
การที่เจ้าหน้าที่นำเอกสารเข้ารวมสำนวน แล้วลงเลขอันดับของเอกสารไว้ ไม่อาจถือเป็นหลักได้ว่าเอกสารเรียงลำดับก่อนหลังกันถูกต้องตามนั้นเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจองเช่าที่ดินที่ไม่ผูกพันเจ้าของที่ดิน และการคืนเงินค่าก่อสร้างตามส่วนประโยชน์ที่ได้รับ
เจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้ไปขออนุญาตสร้างตึกแถวจำเลยที่ 1 รับจ้างคนอื่น ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน สร้างขึ้น จำเลยที่ 1 เอาตึกแถวไปให้โจทก์เช่าไม่ได้สัญญาจองเช่าตึกแถวระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ไม่ผูกพันเจ้าของที่ดิน จำเลยที่ 1 ต้องคืนเงินช่วยค่าก่อสร้างแก่โจทก์ตามส่วนนอกจากที่โจทก์ได้เข้าอยู่ในตึกแถวมาแล้ว
เอกสารสัญญาที่ตกลงว่าโจทก์ชำระค่าช่วยก่อสร้างแล้วจำเลยจะจัดการให้โจทก์ได้เช่าตึกแถวกับเจ้าของที่ดิน เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่ง ประมวลรัษฎากร มิได้กำหนดให้ปิดอากรแสตมป์อย่างจ้างทำของรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
เอกสารสัญญาที่ตกลงว่าโจทก์ชำระค่าช่วยก่อสร้างแล้วจำเลยจะจัดการให้โจทก์ได้เช่าตึกแถวกับเจ้าของที่ดิน เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่ง ประมวลรัษฎากร มิได้กำหนดให้ปิดอากรแสตมป์อย่างจ้างทำของรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อจำเลยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยกล่าวในฎีกาเพียงว่า 'จำเลยขอให้การกลับคำให้การในชั้นสอบสวน และในชั้นศาลทุกประการและทุกถ้อยกระทงความโดยจำเลยขอให้การว่ามิได้กระทำความผิดตามคำกล่าวหาของพนักงานสอบสวนและคำฟ้องของโจทก์' โดยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จำเลยประสงค์จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาแต่ประการใด ทั้งมิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้ไม่ถูกต้องในข้อใดอย่างไร ฎีกาเช่นนี้ไม่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรค 2 ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อไม่ระบุเหตุคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยกล่าวในฎีกาเพียงว่า "จำเลยขอให้การกลับคำให้การในชั้นสอบสวนและในชั้นศาลทุปกระการและทุกถ้อยกระทงความ โดยจำเลยขอให้การว่ามิได้กระทำความผิดตามคำกล่าวหาของพนักงานสอบสวนและคำฟ้องของโจทก์" โดยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จำเลยประสงค์จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาแต่ประการใด ทั้งมิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีไม่ถูกต้องในข้อใดอย่างไรฎีกาเช่นนี้ไม่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรค 2 ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งการครอบครองที่ดิน: การฟ้องคดีไม่ขาดอายุเมื่อเป็นการโต้แย้งสิทธิ ไม่ใช่การเรียกร้องคืน
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า โจทก์จำเลยมีที่ดินแนวเขตติดต่อกัน โจทก์ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ต่อนายอำเภอ จำเลยคัดค้านอ้างว่าโจทก์ขอทับที่ดินจำเลย จำเลยเข้าไปเก็บมะพร้าวในที่พิพาทถูกโจทก์ดำเนินคดีอาญาหาว่าบุกรุกที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าต้นมะพร้าวอยู่ในที่ดินของจำเลย พฤติการณ์ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นเพียงจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์เท่านั้น จำเลยยังมิได้เข้าไปแย่งการครอบครองที่พิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงชดเชยค่าเช่าที่ดิน แม้ไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ ก็ใช้บังคับได้หากมีเจตนาชัดเจน
ข้อเท็จจริงที่ศาลวินิจฉัยชี้ขาดถึงที่สุดแล้วในคดีก่อนซึ่งโจทก์จำเลยเป็นความกันนั้น ย่อมรับฟังยันโจทก์จำเลยในคดีหลังได้แม้ประเด็นทั้งสองคดีจะต่างกัน
จำเลยลงลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือข้อตกลงยอมให้เงินแก่โจทก์จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการชดเชยในการที่โจทก์ไม่ได้ทำประโยชน์ในที่ดินที่เช่าเต็มทั้งแปลงตามกำหนดเวลาที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว ข้อตกลงเช่นนี้มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดหนึ่งซึ่งกฎหมายมิได้บังคับให้ทำเป็นหนังสือ แม้ลายพิมพ์นิ้วมือนั้นไม่มีพยานรับรองไว้สองคนศาลก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
การฟ้องบังคับตามข้อตกลงดังกล่าวอยู่ภายใต้อายุความ 10ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
ข้อเท็จจริงที่ไม่ได้เป็นประเด็นว่ากล่าวกันมาแต่ศาลชั้นต้นจะยกขึ้นฎีกาไม่ได้
จำเลยลงลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือข้อตกลงยอมให้เงินแก่โจทก์จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการชดเชยในการที่โจทก์ไม่ได้ทำประโยชน์ในที่ดินที่เช่าเต็มทั้งแปลงตามกำหนดเวลาที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว ข้อตกลงเช่นนี้มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดหนึ่งซึ่งกฎหมายมิได้บังคับให้ทำเป็นหนังสือ แม้ลายพิมพ์นิ้วมือนั้นไม่มีพยานรับรองไว้สองคนศาลก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
การฟ้องบังคับตามข้อตกลงดังกล่าวอยู่ภายใต้อายุความ 10ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
ข้อเท็จจริงที่ไม่ได้เป็นประเด็นว่ากล่าวกันมาแต่ศาลชั้นต้นจะยกขึ้นฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงชดเชยค่าเช่าที่ดิน แม้ไม่มีพยานรับรอง ก็ใช้บังคับได้ และอายุความ 10 ปี
ข้อเท็จจริงที่ศาลวินิจฉัยชี้ขาดถึงที่สุดแล้วในคดีก่อนซึ่งโจทก์จำเลยเป็นความกันนั้น ย่อมรับฟังยันโจทก์จำเลยในคดีหลังได้ แม้ประเด็นทั้งสองคดีจะต่างกัน
จำเลยลงลายพิพม์นิ้วมือในหนังสือข้อตกลงยอมให้เงินแก่โจทก์จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการชดเชยในการที่โจทก์ไม่ได้ทำประโยชน์ในที่ดินที่เช่าเต็มทั้งแปลงตามกำหนดเวลาที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว ข้อตกลงเช่นนี้มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดหนึ่งซึ่งกฎหมายมิได้บังคับให้ทำเป็นหนังสือ แม้ลายพิมพ์นิ้วมือนั้นไม่มีพยานรับรองไว้สองคน ศาลก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
การฟ้องบังคับตามข้อตกลงดังกล่าวอยู่ภายใต้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
ข้อเท็จจริงที่ไม่ได้เป็นประเด็นว่ากล่าวกันมาแต่ศาลชั้นต้นจะยกขึ้นฎีกาไม่ได้
จำเลยลงลายพิพม์นิ้วมือในหนังสือข้อตกลงยอมให้เงินแก่โจทก์จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการชดเชยในการที่โจทก์ไม่ได้ทำประโยชน์ในที่ดินที่เช่าเต็มทั้งแปลงตามกำหนดเวลาที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว ข้อตกลงเช่นนี้มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดหนึ่งซึ่งกฎหมายมิได้บังคับให้ทำเป็นหนังสือ แม้ลายพิมพ์นิ้วมือนั้นไม่มีพยานรับรองไว้สองคน ศาลก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
การฟ้องบังคับตามข้อตกลงดังกล่าวอยู่ภายใต้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
ข้อเท็จจริงที่ไม่ได้เป็นประเด็นว่ากล่าวกันมาแต่ศาลชั้นต้นจะยกขึ้นฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริตและการเพิกถอนนิติกรรมเมื่อเจ้าของเดิมไม่เข้ามาในคดี
จำเลยเช่าที่ดินแล้วโจทก์ฟ้องขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ซื้อที่ดินจากเจ้าของเดิมที่ให้จำเลยเช่าโดยรู้อยู่แล้วว่าเจ้าของที่ดินรับมัดจำจะขายที่ดินแก่จำเลยก่อนแล้ว แต่จำเลยไม่ได้ฟ้องแย้งขอเพิกถอนการขาย และเจ้าของเดิมก็มิได้เข้ามาในคดี ดังนี้ ศาลไม่ต้องพิจารณาข้อต่อสู้นี้ และจำเลยต้องออกจากที่ดินที่เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องระงับเมื่อมีการฟ้องคดีอาญาเดียวกัน และศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แม้ฟ้องก่อน
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงไว้ก่อนในข้อหาบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ คดีอยู่ระหว่างนัดไต่สวนมูลฟ้อง อัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 3 (อัยการจังหวัดนครราชสีมา) ฟ้องจำเลยในมูลกรณีเดียวกันต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 3 (ศาลจังหวัดนครราชสีมา) ในข้อหาพยายามลักทรัพย์ คดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนั้นศาลได้มีคำพิพากษาก่อนว่าจำเลยมิได้กระทำความผิด คดีถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ เห็นว่า การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้านอันเป็นเคหะสถานและฆ่าสุกรของโจทก์นั้น เป็นการกระทำที่ประสงค์ต่อผลในการลักสุกรหรือฆ่าสุกร การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท เมื่อปรากฏว่าจำเลยถูกฟ้องเกี่ยวกับการกระทำครั้งเดียวกันนี้ในข้อหาพยายามลักทรัพย์ และศาลได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว แม้โจทก์จะได้ยื่นฟ้องคดีไว้ก่อนคดีดังกล่าวก็ตาม แต่คดีที่อัยการฟ้องนั้นศาลได้มีคำพิพากษาก่อน สิทธิจของโจทก์ที่ได้ฟ้องไว้แล้วย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4)