คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
โสพิทย์ คังคะเกตุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 401 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ยืมเงินที่ไม่ลงวันที่ ไม่เป็นโมฆะ หากมีหลักฐานชัดเจนการกู้ยืมและลายมือชื่อผู้กู้
แม้ในสัญญากู้ยืมเงินจะไม่ได้ลงวันที่ที่กู้ยืมไว้ แต่ก็มีข้อความชัดเจนว่าผู้กู้ได้กู้เงินไปและได้ลงลายมือชื่อผู้กู้เป็นสำคัญไว้แล้ว จึงเป็นหลักฐานการกู้ยืมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ผู้ให้กู้ใช้ฟ้องร้องบังคับคดีได้ ไม่มีกฎหมายบังคับเรื่องแบบการทำสัญญากู้เงินไว้แต่อย่างใด สัญญากู้เงินนี้ไม่เป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งสินค้าเสียหาย: จำเลยต้องรับผิดชอบความเสียหายเต็มจำนวน แม้มีข้อจำกัดความรับผิดในใบรับสินค้า
โจทก์บรรยายฟ้องว่า สินค้าเครื่องไม้แกะสลักที่จ้างจำเลยขนส่งมี 75รายการ รายละเอียดตามบัญชีท้ายฟ้องราคารวม 166,731 บาท เมื่อรถพลิกคว่ำเพราะความประมาทเลินเล่อของคนขับ จำเลยคืนสินค้าให้โจทก์ตามบัญชีท้ายฟ้อง รวมราคา 63,420 บาท สินค้าเสียหายเป็นราคารวมทั้งสิ้น 103,311บาท บัญชีท้ายฟ้องได้ระบุจำนวน ชนิด ขนาดของสินค้าไว้ชัดเจน ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว ไม่จำต้องกล่าวถึงว่าราคาสินค้าเครื่องไม้แกะสลักแต่ละรายการนั้นเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียดซึ่งจะต้องนำสืบกันในชั้นพิจารณา
จำเลยได้รับขนสินค้าของโจทก์ ถึงแม้จำเลยผู้ตกลงรับขนสินค้าได้มอบหมายให้ พ.บรรทุกสินค้าของโจทก์โดยรถยนต์ของพ. เอง ก็เป็นเรื่องรับจ้างขนส่งช่วงอีกทอดหนึ่ง จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 617
กรณีที่ใบรับสินค้าของจำเลยมีข้อความจำกัดความรับผิดว่าจะชดใช้ค่าเสียหายไม่เกิน 500 บาทนั้น เมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์ได้ตกลงด้วยชัดแจ้งข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 625

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้รับขนส่งต่อความเสียหายของสินค้า และข้อจำกัดความรับผิดที่เป็นโมฆะ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า สินค้าเครื่องไม้แกะสลักที่จ้างจำเลยขนส่งมี 74 รายการ รายละเอียดตามบัญชีท้ายฟ้องราคารวม 166,731 บาท เมื่อรถพลิกคว่ำเพราะความประมาทเลินเล่อของคนขับ จำเลยคืนสินค้าให้โจทก์ตามบัญชีท้ายฟ้อง รวมราคา 63,420 บาท สินค้าเสียหายเป็นราคารวมทั้งสิ้น 103,311 บาท บัญชีท้ายฟ้องได้ระบุจำนวน ชนิด ขนาดของสินค้าไว้ชัดเจน ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วไม่จำต้องกล่าวถึงว่าราคาสินค้าเครื่องไม่แกะสลักแต่ละรายการนั้นเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียดซึ่งต้องนำสืบกันในชั้นพิจารณา
จำเลยได้รับขนสินค้าของโจทก์ถึงแม้จำเลยผู้ตกลงรับขนส่งสินค้าไม้มอบหมาย ให้ พ.บรรทุกสินค้าของโจทก์โดยรถยนต์ของ พ.เอง ก็เป็นเรื่องรับจ้างขนส่งอีกทอดหนึ่ง จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายในความเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 617
กรณีที่ใบรับสินค้าของจำเลยมีข้อความจำกัดความรับผิดว่าจะชดใช้ค่าเสียหายไม่เกิน 500 บาทนั้น เมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์ได้ตกลงด้วยชัดแจ้ง ข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ยื่นระบุพยานตามกำหนด ทำให้ศาลไม่รับให้สืบพยาน โจทก์จึงไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้
นัดสืบพยานจำเลยก่อนในวันที่ 24 ธันวาคม โจทก์ต้องยื่นระบุพยานอย่างช้าวันที่ 20 โจทก์ยื่นระบุพยานวันที่ 23 โดยมิได้แสดงเหตุสมควรอันใดศาลไม่รับและไม่ให้โจทก์นำสืบพยาน ศาลสืบพยานจำเลยแล้ว พิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมจากการเล่นแชร์และการยึดเรือนเพื่อชำระหนี้
ผู้ร้องกับจำเลยที่ 1 เป็นสามีภริยากัน จำเลยที่ 1 เป็นนายวงแชร์เพื่อนำเงินไปต่อเติมเรือนสินบริคณห์ที่จำเลยที่ 1 อยู่กินร่วมกับผู้ร้องถือได้ว่าหนี้อันเกี่ยวกับเล่นแชร์ที่โจทก์เล่นกับจำเลยที่ 1 เป็นหนี้ร่วมซึ่งเกี่ยวข้องกับสินบริคณห์ ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482 โจทก์นำยึดเรือนเพื่อชำระหนี้เต็มจำนวนได้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอกันส่วน
โจทก์นำสืบพยานว่า จำเลยที่ 1 ต่อเติมเรือนพิพาทโดยไม่ได้ซักค้านพยานผู้ร้องซึ่งนำสืบก่อนไว้ แต่ผู้ร้องมิได้คัดค้านเมื่อโจทก์นำสืบว่าเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคสองฉะนั้นศาลรับฟังข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธอันตรายถึงอวัยวะสำคัญ ศาลฎีกาพิพากษาตามศาลชั้นต้น
จำเลยใช้มีดปลายแหลมมีความยาวทั้งด้ามและใบมีด 10 นิ้ว เฉพาะใบมีดยาว 6 นิ้ว แทงผู้เสียหายขณะอยู่ประจันหน้ากัน ถูกที่หน้าอก บาดแผลกว้าง 1.7 เซนติเมตร ทะลุปอด กะบังลม ตับ และถูกเยื่อหุ้มกะเพาะด้านนอก ซึ่งล้วนแต่เป็นอวัยวะส่วนสำคัญ มีเลือดออกในช่องปอดและช่องท้องเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่รักษาโดยการผ่าตัดทันท่วงทีอาจตายได้ ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย มิใช่เพียงเจตนาทำร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยมีดอันตรายถึงชีวิต ศาลฎีกายืนตามศาลชั้นต้น
จำเลยใช้มีดปลายแหลมมีความยาวทั้งด้านและใบมีด 10 นิ้ว เฉพาะใบมีดยาว 6 นิ้ว แทงผู้เสียหายขณะอยู่ประจันหน้ากัน ถูกที่หน้าอก บาดแผลกว้าง 1.7 เซนติเมตร ทะลุปอด กะบังลม ตับ และถูกเยื่อหุ้มกระเพาะด้านนอกซึ่งล้วนแต่เป็นอวัยวะส่วนสำคัญมีเลือดออกในช่องปอดและช่องท้องเป็นจำนวนมากถ้าไม่รักษาโดยการผ่าตัดทันท่วงทีอาจตายได้ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายมิใช่เพียงเจตนาทำร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์จ้างงานอิสระไม่เข้าข่ายลักทรัพย์นายจ้าง
แม้จำเลยจะพักนอนบนเรือนของผู้เสียหายระหว่างที่รับจ้างขุดมันสำปะหลังให้แก่ผู้เสียหายก็ตาม แต่ค่าจ้างที่ผู้เสียหายตกลงจ่ายให้แก่จำเลยคิดตามน้ำหนักมันสำปะหลังที่จำเลยขุดได้ ซึ่งจะได้มากน้อยเท่าใดแล้วแต่ความสมัครใจและความสามารถของจำเลย ผู้เสียหายหาได้กำหนดกฎเกณฑ์สั่งการขุดให้จำเลยขุดให้ได้จำนวนมันสำปะหลังแน่นอนอย่างใดไม่ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยไม่ใช่อยู่ในฐานะนายจ้างและลูกจ้างกันเมื่อจำเลยลักเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไป จึงมีความผิดฐานลักทรัพย์บุคคลธรรมดา หาใช่ความผิดฐานลักทรัพย์ นายจ้างตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(11) ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์ทางสัญญาจ้าง: การพิจารณาฐานลักทรัพย์นายจ้างเมื่อค่าจ้างคิดตามผลงาน
แม้จำเลยพักนอนบนเรือนของผู้เสียหายระหว่างรับจ้างขุดมันสำปะหลังให้แก่ผู้เสียหาย แต่ค่าจ้างคิดตามน้ำหนักมันที่ขุดได้ จะขุดมันได้มากน้อยเท่าใดแล้วแต่ความสมัครใจ และความสามารถของจำเลย ผู้เสียหายหาได้กำหนดกฎเกณฑ์สั่งการและคุมให้จำเลยขุดให้ได้จำนวนมันแน่นอนแต่อย่างใดไม่ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยไม่ใช่อยู่ในฐานะนายจ้างและลูกจ้างกัน เมื่อจำเลยลักทรัพย์ของผู้เสียหายไป จึงเอาผิดจำเลยฐานลักทรัพย์นายจ้างตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (11) ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจโดยปริยายและการผูกพันตามสัญญา: กรณีตัวแทนกระทำการเกินขอบเขต
ห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์มี ช. เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ พ. บุตรของ ช. เป็นหุ้นส่วนและเป็นพนักงานของห้างโจทก์พ. คิดเงินที่จำเลยซื้อของไปจากห้างโจทก์แล้วค้างชำระและ พ. กับจำเลยได้ตกลงเรื่องจำนวนเงินที่เป็นหนี้กันทันทีโดยยินยอมให้จำเลยผ่อนชำระหนี้ได้ด้วย ซึ่งวันนั้นเอง พ. กับจำเลยได้ทำสัญญายอมให้จำเลยผ่อนชำระหนี้เป็นงวดๆ พฤติการณ์ดังนี้ส่อแสดงให้เห็นว่า ช. ได้มอบอำนาจให้ พ. กระทำการของห้างโจทก์แทน ช.ได้ในระหว่าง ช. ไม่อยู่ห้างโจทก์จึงต้องผูกพันตามสัญญานั้น
of 41