พบผลลัพธ์ทั้งหมด 402 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีความผิดพ.ร.บ.จราจรทางบก: ผู้เสียหายโดยตรง
โจทก์มิใช่ผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ โดยตรง โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) สำหรับความผิดนี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีกรรมสิทธิ์ต้องชัดเจน หากยื่นคำให้การอ้างกรรมสิทธิ์เป็นของผู้อื่น ศาลถือว่าไม่ได้ต่อสู้กรรมสิทธิ์ของตนเอง
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าซึ่งมีค่าเช่าในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสองพันบาทจำเลยต่อสู้คดีว่าที่พิพาทเป็นของภริยาจำเลยมิได้ต่อสู้ว่าอสังหาริมทรัพย์ที่พิพาทนั้นเป็นของจำเลยจำเลยอุทธรณ์ข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำคู่ความที่ขาดลายมือชื่อผู้เรียง ศาลมีอำนาจสั่งแก้ไขก่อนชี้ขาดคดีได้
คดีอาญาจำเลยยื่นอุทธรณ์ อุทธรณ์จำเลยเป็นคำคู่ความ การยื่นคำคู่ความประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่มีบัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 67 วรรคสอง บัญญัติว่า "ในการยื่นหรือสั่งคำคู่ความหรือเอกสารอื่นใดอันจะต้องทำตามแบบพิมพ์ที่จัดไว้ เจ้าพนักงานคู่ความหรือบุคคลผู้เกี่ยวข้องจะต้องใช้กระดาษแบบพิมพ์นั้น ฯลฯ" จำเลยอุทธรณ์โดยใช้กระดาษแบบพิมพ์ที่กระทรวงยุติธรรมจัดไว้ และมีรายการครบถ้วนตามมาตรา 67. คงขาดลายมือชื่อผู้เรียง ในช่องผู้เรียงในกระดาษแบบพิมพ์ท้ายอุทธรณ์ ถือว่ายังไม่บริบูรณ์ เมื่อศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้แล้วศาลอุทธรณ์ชอบที่จะสั่งให้ศาลชั้นต้นแก้ไขให้บริบูรณ์เสียก่อนชี้ขาดตัดสินคดี จะยกอุทธรณ์จำเลยยังไม่ชอบ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นอุทธรณ์มาในฉบับเดียวกันศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง เพราะเหตุไม่มีลายมือชื่อผู้เรียงในท้ายอุทธรณ์ จำเลยที่ 1 ฎีกาขึ้นมาคนเดียว เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์ชอบที่จะสั่งให้แก้ไขให้บริบูรณ์ ก็พิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 2 ด้วยได้เพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นอุทธรณ์มาในฉบับเดียวกันศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง เพราะเหตุไม่มีลายมือชื่อผู้เรียงในท้ายอุทธรณ์ จำเลยที่ 1 ฎีกาขึ้นมาคนเดียว เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์ชอบที่จะสั่งให้แก้ไขให้บริบูรณ์ ก็พิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 2 ด้วยได้เพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลวินิจฉัยนอกประเด็นหน้าที่นำสืบที่ศาลกำหนดไว้ไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แม้โจทก์มิได้โต้แย้ง
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานและกำหนดประเด็นหน้าที่นำสืบ โดยมิได้กำหนดประเด็นค่าเสียหายไว้ ซึ่งเป็นการกำหนดประเด็นหน้าที่นำสืบขาดตกบกพร่อง เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ของตนโดยการคัดค้านหรือโต้แย้ง เมื่อโจทก์มิได้โต้แย้งทักท้วงประเด็นและหน้าที่นำสืบก็ต้องเป็นไปตามที่ศาลกำหนด
การที่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นเรื่องค่าเสียหายไว้แต่กลับพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีเกี่ยวกับค่าเสียหายให้ จึงเป็นการวินิจฉัยคดีนอกประเด็นที่กำหนดไว้ไม่ชอบด้วยมาตรา 183 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และแม้ปัญหาข้อนี้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นอ้างอิงในฎีกาและมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้
การที่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นเรื่องค่าเสียหายไว้แต่กลับพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีเกี่ยวกับค่าเสียหายให้ จึงเป็นการวินิจฉัยคดีนอกประเด็นที่กำหนดไว้ไม่ชอบด้วยมาตรา 183 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และแม้ปัญหาข้อนี้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นอ้างอิงในฎีกาและมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดประเด็นหน้าที่นำสืบไม่ถูกต้อง ศาลวินิจฉัยนอกประเด็น เสียค่าเสียหายไม่ได้
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานและกำหนดประเด็นหน้าที่นำสืบ โดยมิได้กำหนดประเด็นค่าเสียหายไว้ซึ่งเป็นการกำหนดประเด็นหน้าที่นำสืบขาดตกบกพร่องเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ของตนโดยการคัดค้านหรือโต้แย้ง เมื่อโจทก์มิได้โต้แย้งทักท้วงประเด็นและหน้าที่นำสืบก็ต้องเป็นไปตามที่ศาลกำหนด
การที่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นเรื่องค่าเสียหายไว้ แต่กลับพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีเกี่ยวกับค่าเสียหายให้ จึงเป็นการวินิจฉัยคดีนอกประเด็นที่กำหนดไว้ไม่ชอบด้วยมาตรา 183 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และแม้ปัญหาข้อนี้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นอ้างอิงในฎีกาและมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้
การที่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นเรื่องค่าเสียหายไว้ แต่กลับพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีเกี่ยวกับค่าเสียหายให้ จึงเป็นการวินิจฉัยคดีนอกประเด็นที่กำหนดไว้ไม่ชอบด้วยมาตรา 183 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และแม้ปัญหาข้อนี้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นอ้างอิงในฎีกาและมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาและการร้องทุกข์: การที่ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อหน่วยงานที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ทำให้พนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้อง
รองเลขาธิการ ก.ต.ป. (คณะกรรมการตรวจและติดตามผลการปฏิบัติราชการ) ไม่มีอำนาจหน้าที่อย่างเช่นพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและมิได้เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ซึ่งจะรับคำร้องทุกข์ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การที่ผู้เสียหายร้องเรียนไปยังรองเลขาธิการ ก.ต.ป. ในคดีความผิดต่อส่วนตัว จึงมิใช่เป็นการร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาพนักงานอัยการจึงไม่มีอำนาจฟ้องและเมื่อพนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้อง คำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมของผู้เสียหายย่อมตกไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเหตุไม่มีอำนาจฟ้องที่มิได้ยกขึ้นต่อสู้ในชั้นศาลต้นและอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่า จำเลยไม่ได้รับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองจากโจทก์เท่านั้น ฉะนั้นที่จำเลยฎีกาว่า ทนายโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองแทนโจทก์โดยไม่ได้รับมอบอำนาจเป็นหนังสือจากโจทก์ เท่ากับไม่ได้บอกกล่าว จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ปัญหานี้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ ไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยปัญหานี้มา ก็ถือเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกาที่ไม่เคยยกขึ้นในชั้นศาลล่าง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่า จำเลยไม่ได้รับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองจากโจทก์เท่านั้น ฉะนั้นที่จำเลยฎีกาว่า ทนายโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองแทนโจทก์โดยไม่ได้รับมอบอำนาจเป็นหนังสือจากโจทก์ เท่ากับไม่ได้บอกกล่าว จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้นปัญหานี้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ ไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยปัญหานี้มา ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์และการขาดนัดยื่นคำให้การ ผู้ร้องต้องยื่นคำขอให้โจทก์ขาดนัดตามกำหนดเวลา มิเช่นนั้นศาลมีอำนาจจำหน่ายคดี
ผู้ร้องขัดทรัพย์ต้องมีคำขอต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้โจทก์ยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลงเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัด ถ้าผู้ร้องไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นออกเสียจากสารบบความ ผู้ร้องจะอ้างว่ามิได้มีเจตนาทิ้งคำร้อง เพราะผู้ร้องได้รับหมายนัดสืบพยาน ผู้ร้องจึงเข้าใจว่า โจทก์ยื่นคำให้การแล้วนั้นไม่ได้ เพราะการที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำให้การต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์และการจำหน่ายคดีออกจากสารบบความเมื่อโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การ ผู้ร้องต้องดำเนินการภายในกำหนดเวลา
ผู้ร้องขัดทรัพย์ต้องมีคำขอต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้โจทก์ยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัด ถ้าผู้ร้องไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นออกเสียจากสารบบความผู้ร้องจะอ้างว่ามิได้มีเจตนาทิ้งคำร้อง เพราะผู้ร้องได้รับหมายนัดสืบพยานผู้ร้อง จึงเข้าใจว่าโจทก์ยื่นคำให้การแล้วนั้นไม่ได้ เพราะการที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำให้การและให้นัดสืบพยานผู้ร้องไป หามีผลลบล้างให้ผู้ร้องไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 198 ไม่