คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประเสริฐ วราภรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 402 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075-2079/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงออกเพื่อเสนอบริการทางเพศในที่สาธารณะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี
หญิงมีป้ายหมายเลขติดที่อกเสื้อนั่งคอยในห้องกระจกบ้างนั่งในห้องโถงบ้าง ในโรงแรม เพื่อชายเลือกไปร่วมประเวณี เป็นการแสดงออกด้วยกิริยาในที่สาธารณสถาน เป็นการแนะนำตัวตาม พระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2503 มาตรา 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2040/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุหย่า: การแยกอยู่และทัณฑ์บนที่ไม่เกี่ยวกับความประพฤติ
สามีภริยาอยู่กินกันที่ร้านของภริยา สามีกลับไปอยู่บ้านของสามีไม่ไปอยู่ร่วมกับภริยาดังเดิม ภริยาไม่เป็นปฏิปักษ์อย่างร้ายแรง ส่วนภริยาทำทัณฑ์บนว่าจะอยู่ร่วมบ้านกับสามีนั้น ไม่ใช่ทัณฑ์บนในเรื่องความประพฤติจึงไม่เป็นเหตุหย่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากผู้เยาว์โดยใช้อุบายหลอกลวงและข่มขืนใจ แม้ผู้เสียหายไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ศาลพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
จำเลยชวนผู้เสียหายไปเที่ยวสวนลุมพินี ผู้เสียหายไม่ไป จำเลยจึงอ้างว่าจะพาผู้เสียหายไปส่งโรงเรียน แล้วจำเลยก็เรียกรถแท็กซี่มา ผู้เสียหายคิดว่าจำเลยจะพาไปส่งโรงเรียนจริง ๆ จึงยอมขึ้นรถแท็กซี่ไปกับจำเลย ขณะอยู่บนรถแท็กซี่ เมื่อผู้เสียหายรู้ว่ารถแท็กซี่ไม่ไปส่งโรงเรียน ผู้เสียหายได้ต่อว่าจำเลย ตอนจำเลยพาผู้เสียหายไปที่บ้านแห่งหนึ่ง ผู้เสียหายก็ขอร้องให้จำเลยพากลับบ้าน จำเลยว่ารอให้พี่ชายกลับมาก่อนไม่มีค่ารถแท็กซี่ แสดงว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหายโดยผู้เสียหายไม่เต็มใจไปกับจำเลย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 318

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากผู้เยาว์โดยใช้อุบายหลอกลวงและความยินยอมที่ไม่แท้จริง
จำเลยชวนผู้เสียหายไปเที่ยวสวนลุมพินี ผู้เสียหายไม่ไป จำเลยจึงอ้างว่าจะพาผู้เสียหายไปส่งโรงเรียน แล้วจำเลยก็เรียกรถแท็กซี่มา ผู้เสียหายคิดว่าจำเลยจะพาไปส่งโรงเรียนจริง ๆ จึงยอมขึ้นรถแท็กซี่ไปกับจำเลย ขณะอยู่บนรถแท็กซี่ เมื่อผู้เสียหายรู้ว่าแท็กซี่ไม่ไปส่งโรงเรียน ผู้เสียหายได้ต่อว่าจำเลย ตอนจำเลยพาผู้เสียหายไปที่บ้านแห่งหนึ่ง ผู้เสียหายก็ขอร้องให้จำเลยพากลับบ้าน จำเลยว่ารอให้พี่ชายกลับมาก่อนไม่มีค่ารถแท็กซี่ แสดงว่า จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายโดยผู้เสียหายไม่เต็มใจไปกับจำเลย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1894/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นโทษอาวุธปืนฉบับแก้ไข: การมอบอาวุธปืนตามกฎหมาย ไม่ทำให้ความผิดเดิมสิ้นสุด
พระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 5 บัญญัติยกเว้นโทษให้แก่ผู้มีอาวุธปืนฯ สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามและได้นำอาวุธปืนฯ ไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ หาได้บัญญัติว่าการมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไม่เป็นความผิดไม่ เช่นนี้จำเลยซึ่งถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่ามีคำความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามจะอ้างว่าจำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง และขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวจำเลยไปไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1894/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นโทษทางอาญาจาก พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) ไม่ครอบคลุมการมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการสงคราม
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 5 บัญญัติยกเว้นโทษให้แก่ผู้มีอาวุธปืนฯ สำหรับใช้เฉพาะแต่ในทางสงครามและได้นำอาวุธปืนฯ ไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ หาได้บัญญัติว่าการมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไม่เป็นความผิดไม่ เช่นนี้จำเลยซึ่งถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่ามีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม จะอ้างว่าจำเลยไม่เคยค้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรค 2 และขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวจำเลยไปไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1773/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เรือนปลูกในที่ดินผู้อื่น: ไม่เป็นส่วนควบ เจ้าหนี้ยึดบังคับคดีได้
เรือนปลูกในที่ดินของผู้อื่น โดยเจ้าของที่ดินยินยอมให้ปลูกอยู่อาศัย ไม่เป็นส่วนควบของที่ดิน ผู้ซื้อที่ดินไม่เป็นเจ้าของเรือน เจ้าหนี้ของเจ้าของเรือนยึดเรือนบังคับคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1756/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คผู้ถือ: ผู้โอนเช็คไม่มีสิทธิเรียกร้องเมื่อเช็คไม่มีเงิน
เช็คผู้ถือนั้นผู้ถือเป็นผู้ทรง ผู้ที่รับเช็คผู้ถือจากผู้สั่งจ่ายแล้วโอนต่อไปโดยไม่ได้สลักหลังเช็คนั้น ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อผู้ทรงคนสุดท้ายนำไปเข้าบัญชีเพราะไม่มีเงินจ่ายตามเช็ค ผู้โอนไม่ใช่ผู้เสียหายร้องทุกข์ในความผิดฐานออกเช็คไม่มีเงินไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1580/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความดำเนินคดีอาญาจากเครื่องหมายการค้าคล้ายคลึง ไม่ถือเป็นการละเมิดหากไม่มีเจตนา
ตัวแทนเครื่องหมายการค้าแจ้งต่อตำรวจจนโจทก์ถูกจับดำเนินคดีอาญา เป็นการใช้สิทธิ ซึ่งยังฟังไม่ได้ว่าตัวแทนเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ เพราะเครื่องหมายคล้ายคลึงกัน แม้ศาลยกฟ้องคดีอาญา ก็ไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 กรณีเช็ค
ศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยสั่งระงับการจ่ายเงินตามเช็คโดยมิได้มีเจตนาทุจริตโจทก์ฎีกาว่าจำเลย ได้อายัดการจ่ายเงินตามเช็คโดยเจตนาทุจริต เป็นการฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
of 41