พบผลลัพธ์ทั้งหมด 402 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2976/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโฆษณาตามความเป็นจริงจากการประชุมเปิดเผย ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยโฆษณาข้อความในหนังสือพิมพ์ซึ่งจำเลยเป็นบรรณาธิการมีใจความว่าเทศบาลเมืองราชบุรีจะขายที่ดิน (ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงพยาบาลราชบุรี) ให้แก่โรงพยาบาลราชบุรี ถ้าทางโรงพยาบาลไม่ซื้อและไม่คืนที่ดินและอาคารให้เทศบาล เทศบาลดังกล่าวจะฟ้องขับไล่โรงพยาบาล และยึดที่ดินพร้อมด้วยอาคารมาดำเนินการเอง ซึ่งข้อความที่บันทึกไว้ในรายงานการประชุมสภาเทศบาลนั้น ตรงกับข้อความที่จำเลยโฆษณา จำเลยมิได้โฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยเป็นการโฆษณาข้อความเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในการประชุมโดยสุจริต และด้วยความเป็นธรรม จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2976/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโฆษณาตามความเป็นจริงจากการประชุมเปิดเผย ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท
จำเลยโฆษณาข้อความในหนังสือพิมพ์ซึ่งจำเลยเป็นบรรณาธิการมีใจความว่าเทศบาลเมืองราชบุรีจะขายที่ดิน (ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงพยาบาล ราชบุรี) ให้แก่โรงพยาบาลราชบุรี ถ้าทางโรงพยาบาลไม่ซื้อและ ไม่คืนที่ดินและอาคารให้เทศบาล เทศบาลดังกล่าวจะฟ้องขับไล่ โรงพยาบาล และยึดที่ดินพร้อมด้วยอาคารมาดำเนินการเอง ซึ่งข้อความที่บันทึกไว้ในรายงานการประชุมสภาเทศบาลนั้น ตรงกับข้อความที่จำเลยโฆษณา จำเลยมิได้โฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยเป็นการโฆษณาข้อความเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในการประชุมโดยสุจริต และด้วยความเป็นธรรม จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2970/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อต้องมีพยานลงลายมือชื่อ การโอนหุ้นโมฆะส่งผลถึงมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นและกรรมการ
การโอนหุ้นบริษัทจำกัดชนิดระบุชื่อต้องมีพยานลงลายมือชื่อในหนังสือโอนหุ้น มิฉะนั้นเป็นโมฆะ แม้จะทำต่อหน้าพยานรู้เห็นหลายคนก็ตาม การจดลงในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น และโจทก์มาฟ้องให้โอนหุ้นคืน ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ผู้ที่รับโอนหุ้นต่อไปโดยสุจริตเสียค่าตอบแทนก็ไม่เป็นเจ้าของหุ้น การประชุมใหญ่ก็นับเป็นจำนวนผู้ถือหุ้นไม่ได้ ไม่ครบองค์ประชุมหนึ่งในสี่ของจำนวนผู้ถือหุ้นมติของที่ประชุมไม่มีผล กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งก็ไม่ใช่กรรมการของบริษัทโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2964/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องเลือกตั้งใหม่ต้องแสดงข้อเท็จจริงชัดเจน หากไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯมาตรา 79 ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172วรรคสอง และมาตรา 1(3) คำร้องที่ผู้ร้องขอให้มีการ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ด้วย
ผู้ร้องกล่าวในคำร้องแต่เพียงว่า ก.เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งในเขตอำเภอด่านขุนทดและอำเภอปักธงชัย ทำบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้งใหม่โดยไม่ชอบ เป็นเหตุให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งไม่ได้ ในเขตอำเภอด่านขุนทดประมาณ 6,164 คน และในเขตอำเภอปักธงชัยประมาณ 8,630 คน ข.เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนในเขตอำเภอปากช่องและอำเภอสีคิ้วฝ่าฝืนกฎหมาย อนุญาตให้ผู้เลือกตั้งซึ่งบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุเกินกว่า 60 วัน ลงคะแนนเลือกตั้ง และ ค.กรรมการเลือกตั้งเขตอำเภอด่านขุนทดบอกและจูงใจผู้เลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเลขหมายประจำตัว 10 และ 11 ผู้ร้องมิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้แจ้งชัดว่าเจ้าพนักงานคนใดเป็นผู้ กระทำการเช่นว่านั้นและได้กระทำการนั้นในหน่วยเลือกตั้งใด การที่ผู้ร้องกล่าวในคำร้องว่ามีการกระทำใน เขตอำเภอด่านขุนทดอำเภอปักธงชัย อำเภอปากช่องและอำเภอสีคิ้ว นั้น มิได้หมายความว่ามีการกระทำในทุกหน่วยเลือกตั้งใน แต่ละอำเภอผู้ร้องมิได้บรรยาย ว่าได้มีการบอกและจูงใจผู้ใด ให้ลงคะแนนเลือกตั้งผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 10 และ 11 ส่วนคำร้องข้อ ง. นั้น ผู้ร้องกล่าวแต่เพียงว่า นายประสารใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเกิน 350,000 บาท มิได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงโดยแจ้งชัดว่านายประสารใช้จ่ายใน กิจการอย่างใด พอที่จะให้ผู้คัดค้านเข้าใจได้ว่าค่าใช้จ่าย นั้นเป็นค่าใช้จ่ายในกิจการใด และเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หรือไม่ ดังนี้ เห็นว่า คำร้องของผู้ร้องทุกข้อไม่ แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็น หลักแห่งข้อหานั้น จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
ผู้ร้องกล่าวในคำร้องแต่เพียงว่า ก.เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งในเขตอำเภอด่านขุนทดและอำเภอปักธงชัย ทำบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้งใหม่โดยไม่ชอบ เป็นเหตุให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งไม่ได้ ในเขตอำเภอด่านขุนทดประมาณ 6,164 คน และในเขตอำเภอปักธงชัยประมาณ 8,630 คน ข.เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนในเขตอำเภอปากช่องและอำเภอสีคิ้วฝ่าฝืนกฎหมาย อนุญาตให้ผู้เลือกตั้งซึ่งบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุเกินกว่า 60 วัน ลงคะแนนเลือกตั้ง และ ค.กรรมการเลือกตั้งเขตอำเภอด่านขุนทดบอกและจูงใจผู้เลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเลขหมายประจำตัว 10 และ 11 ผู้ร้องมิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้แจ้งชัดว่าเจ้าพนักงานคนใดเป็นผู้ กระทำการเช่นว่านั้นและได้กระทำการนั้นในหน่วยเลือกตั้งใด การที่ผู้ร้องกล่าวในคำร้องว่ามีการกระทำใน เขตอำเภอด่านขุนทดอำเภอปักธงชัย อำเภอปากช่องและอำเภอสีคิ้ว นั้น มิได้หมายความว่ามีการกระทำในทุกหน่วยเลือกตั้งใน แต่ละอำเภอผู้ร้องมิได้บรรยาย ว่าได้มีการบอกและจูงใจผู้ใด ให้ลงคะแนนเลือกตั้งผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 10 และ 11 ส่วนคำร้องข้อ ง. นั้น ผู้ร้องกล่าวแต่เพียงว่า นายประสารใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเกิน 350,000 บาท มิได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงโดยแจ้งชัดว่านายประสารใช้จ่ายใน กิจการอย่างใด พอที่จะให้ผู้คัดค้านเข้าใจได้ว่าค่าใช้จ่าย นั้นเป็นค่าใช้จ่ายในกิจการใด และเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หรือไม่ ดังนี้ เห็นว่า คำร้องของผู้ร้องทุกข้อไม่ แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็น หลักแห่งข้อหานั้น จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2964/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องเลือกตั้งใหม่เคลือบคลุม ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากขาดรายละเอียดข้อเท็จจริงที่ชัดเจน
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯ มาตรา 79 ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง และมาตรา 1 (3) คำร้องที่ผู้ร้องขอให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ด้วย
ผู้ร้องกล่าวในคำร้องแต่เพียงว่า ก. เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งในเขตอำเภอด่านขุนทดและอำเภอปักธงชัย ทำบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้งใหม่โดยไม่ชอบ เป็นเหตุให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งไม่ได้ ในเขตอำเภอด่านขุนทดประมาณ 6,164 คน และในเขตอำเภอปักธงชัยประมาณ 8,630 คน ข. เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนในเขตอำเภอปากช่องและอำเภอสีคิ้วฝ่าฝืนกฎหมายอนุญาตให้ผู้เลือกตั้งซึ่งบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุเกินกว่า 60 วัน ลงคะแนนเลือกตั้ง และ ค.กรรมการเลือกตั้งเขตอำเภอด่านขุนทดบอกและจูงใจผู้เลือกตั้งให้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเลขหมายประจำตัว 10 และ 11 ผู้ร้องมิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้แจ้งชัดว่าเจ้าพนักงานคนใดเป็นผู้กระทำการเช่นว่านั้นและได้กระทำการนั้นในหน่วยเลือกตังใด การที่ผู้ร้องกล่าวในคำร้องว่ามีการกระทำในเขตอำเภอด่านขุนทด อำเภอปักธงชัย อำเภอปากช่องและอำเภอสีคิ้วนั้น มิได้หมายความว่ามีการกระทำในทุกหน่วยเลือกตั้งในแต่ละอำเภอนั้น และผู้ร้องมิได้บรรยายว่าได้มีการบอกและจูงใจผู้ใดให้ลงคะแนนเลือกตั้งผู้รับสมัครเลือกตั้ง หมายเลข 10 และ 11 ส่วนคำร้องข้อ ง. นั้น ผู้ร้องกล่าวแต่เพียงว่า นายประสารใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเกิน 350,000 บาท มิได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงโดยแจ้งชัดว่า นายประสารใช้จ่ายในกิจการอย่างใด พอที่จะให้ผู้คัดค้านเข้าใจว่าค่าใช้จ่ายนั้นเป็นค่าใช้จ่ายในกิจการใด และเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่ ดังนี้ เห็นว่า คำร้องของผู้ร้องทุกข้อไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหานั้น จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
ผู้ร้องกล่าวในคำร้องแต่เพียงว่า ก. เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งในเขตอำเภอด่านขุนทดและอำเภอปักธงชัย ทำบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้งใหม่โดยไม่ชอบ เป็นเหตุให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งไม่ได้ ในเขตอำเภอด่านขุนทดประมาณ 6,164 คน และในเขตอำเภอปักธงชัยประมาณ 8,630 คน ข. เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนในเขตอำเภอปากช่องและอำเภอสีคิ้วฝ่าฝืนกฎหมายอนุญาตให้ผู้เลือกตั้งซึ่งบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุเกินกว่า 60 วัน ลงคะแนนเลือกตั้ง และ ค.กรรมการเลือกตั้งเขตอำเภอด่านขุนทดบอกและจูงใจผู้เลือกตั้งให้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเลขหมายประจำตัว 10 และ 11 ผู้ร้องมิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้แจ้งชัดว่าเจ้าพนักงานคนใดเป็นผู้กระทำการเช่นว่านั้นและได้กระทำการนั้นในหน่วยเลือกตังใด การที่ผู้ร้องกล่าวในคำร้องว่ามีการกระทำในเขตอำเภอด่านขุนทด อำเภอปักธงชัย อำเภอปากช่องและอำเภอสีคิ้วนั้น มิได้หมายความว่ามีการกระทำในทุกหน่วยเลือกตั้งในแต่ละอำเภอนั้น และผู้ร้องมิได้บรรยายว่าได้มีการบอกและจูงใจผู้ใดให้ลงคะแนนเลือกตั้งผู้รับสมัครเลือกตั้ง หมายเลข 10 และ 11 ส่วนคำร้องข้อ ง. นั้น ผู้ร้องกล่าวแต่เพียงว่า นายประสารใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเกิน 350,000 บาท มิได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงโดยแจ้งชัดว่า นายประสารใช้จ่ายในกิจการอย่างใด พอที่จะให้ผู้คัดค้านเข้าใจว่าค่าใช้จ่ายนั้นเป็นค่าใช้จ่ายในกิจการใด และเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่ ดังนี้ เห็นว่า คำร้องของผู้ร้องทุกข้อไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหานั้น จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2947/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้แก้ฟ้อง ทำให้จำเลยเสียสิทธิในการอุทธรณ์คัดค้าน
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาไม่ปรากฏว่าหลังจากคำสั่งนั้นจำเลยโต้แย้งไว้ จำเลยอุทธรณ์ข้อนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2943/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้โดยตัวแทนโดยปริยายและการไม่ขาดอายุความ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 การรับสภาพหนี้จะต้องกระทำโดยลูกหนี้ก็จริง แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระหนี้ก็ได้ ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง
น้องชายลูกหนี้ได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ แม้เจ้าหนี้จะมิได้นำสืบว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้ก็ตาม แต่การที่น้องชายชำระหนี้แทนพี่ชาย และเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้ของลูกหนี้จากน้องชายของลูกหนี้หลายครั้งติดต่อกันมา ถือได้ว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้โดยปริยาย
น้องชายลูกหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2518 เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2519 หนี้รายนี้จึงไม่ขาดอายุความ
น้องชายลูกหนี้ได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ แม้เจ้าหนี้จะมิได้นำสืบว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้ก็ตาม แต่การที่น้องชายชำระหนี้แทนพี่ชาย และเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้ของลูกหนี้จากน้องชายของลูกหนี้หลายครั้งติดต่อกันมา ถือได้ว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้โดยปริยาย
น้องชายลูกหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2518 เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2519 หนี้รายนี้จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2943/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้โดยตัวแทนโดยปริยาย และผลต่ออายุความของหนี้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 การรับสภาพหนี้จะต้องกระทำโดยลูกหนี้ก็จริง แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระหนี้ก็ได้ ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง
น้องชายลูกหนี้ได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ แม้เจ้าหนี้จะมิได้นำสืบว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้ก็ตาม แต่การที่น้องชายชำระหนี้แทนพี่ชาย และเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้ของลูกหนี้จากน้องชายของลูกหนี้หลายครั้งติดต่อกันมา ถือได้ว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้โดยปริยาย
น้องชายลูกหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่16 มิถุนายน 2518 เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2519 หนี้รายนี้จึงไม่ขาดอายุความ
น้องชายลูกหนี้ได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ แม้เจ้าหนี้จะมิได้นำสืบว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้ก็ตาม แต่การที่น้องชายชำระหนี้แทนพี่ชาย และเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้ของลูกหนี้จากน้องชายของลูกหนี้หลายครั้งติดต่อกันมา ถือได้ว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้โดยปริยาย
น้องชายลูกหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่16 มิถุนายน 2518 เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2519 หนี้รายนี้จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2933/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความบังคับจำนอง & การลบสิทธิเช่าในคดีล้มละลาย: ศาลสั่งให้ลบสิทธิเช่าเพื่อขายทอดตลาดได้
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ขายทอดตลาดที่ดินที่จำเลยจำนองโดยติดสิทธิที่จำเลยที่ 2 เช่าจำเลยที่ 1 ก่อน ถ้าได้เงินไม่พอใช้หนี้จำนองก็ให้ขายใหม่โดยปลอดสิทธิการเช่า ต่อมาจำเลยที่ 1 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดที่ดินราคาที่เสนอไม่พอใช้หนี้จำนอง จึงงดขาย คดีล้มละลายนี้โจทก์เองเป็นผู้ฟ้องจำเลย และโจทก์ขอรับชำระหนี้จำนองนำยึดที่ดินนี้ในคดีล้มละลายโดยศาลจำหน่ายคดีที่โจทก์ฟ้องบังคับจำนอง ดังนี้ การขอรับชำระหนี้จำนองในคดีล้มละลายจึงเท่ากับบังคับจำนองนั้นเอง ตรงกับข้อตกลงของโจทก์และจำเลยทั้งสอง จึงต้องขายทอดตลาดใหม่ตามยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2903/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องฐานกระทำผิดต่างจากที่ศาลพิจารณา การลงโทษฐานอื่นที่ไม่ตรงกับฟ้องเป็นโมฆะ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจทำแบบพิมพ์อันเป็นเครื่องมือสำหรับปลอมเหรียญกระษาปณ์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 246 ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยทำแบบพิมพ์อันเป็นเครื่องมือสำหรับปลอมเหรียญกระษาปณ์ได้ความเพียงว่าจำเลยมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมเงินตราไว้ในครอบครอง ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และข้อแตกต่างมิใช่เป็นเพียงรายละเอียดของการกระทำผิด แต่เป็นกรณีที่โจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำคนละฐานความผิดกับที่ศาลพิจารณาได้ความ แม้ว่าการมีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมเงินตราไว้ในครอบครองจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 246 ด้วย แต่ก็เป็นความผิดคนละฐานกับที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำ จึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 246 ไม่ได้