พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าพาหนะจ่ายให้ลูกจ้างออกนอกสถานที่ถือเป็นค่าจ้าง แต่ค่าเช่าบ้านไม่ถือเป็นค่าจ้างหากไม่ได้จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน
ค่าพาหนะเหมาจ่ายเดือนละ 1,500 บาท โดยลูกจ้างต้องออกทำงานนอกสถานที่ ถือเป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน แต่ค่าเช่าบ้านไม่ใช่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน ตามสภาพไม่ถือเป็นค่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะลูกจ้าง-นายจ้าง และสิทธิค่าชดเชย กรณีผู้บริหารพ้นตำแหน่งด้วยความเห็นชอบของ ครม.
โจทก์เป็นผู้อำนวยการมีอำนาจกระทำการแทนองค์การจำเลยฐานะระหว่างโจทก์จำเลย โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน โจทก์พ้นตำแหน่งด้วยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ถือเป็นการเลิกจ้างมีสิทธิได้ค่าชดเชย เงินที่โจทก์ได้รับจากกองทุนสงเคราะห์พนักงานตามข้อบังคับของจำเลยที่ให้ถือเป็นเงินชดเชย ก็ไม่ใช่เงินชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจำเลยยังต้องจ่ายแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม: การฟ้องต่อศาลแรงงานโดยไม่ต้องร้องเรียนก่อน และข้อยกเว้นตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรับโจทก์เข้าทำงานต่อไป หรือมิฉะนั้นให้จ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหาย ข้ออ้างประการแรกที่ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยฝ่าฝืนระเบียบเป็นการกล่าวหาว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นธรรมตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 49 ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติให้โจทก์ต้องร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการอย่างใดก่อนที่จะดำเนินการในศาลแรงงาน จึงฟ้องต่อศาลแรงงานกลางได้โดยไม่ต้องร้องเรียนหรือปฏิบัติการอย่างใดก่อน ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 8 วรรคท้าย
ส่วนข้ออ้างประการที่สองว่า จำเลยกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยกกล่าวอ้างว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างซึ่งโจทก์เกี่ยวข้องด้วยมีผลใช้บังคับ เป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ มาตรา 123 ซึ่งมาตรา 124 บัญญัติไว้ให้ผู้ต้องหาต้องยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ หากประสงค์จะเรียกร้องสิ่งใด ต้องยื่นภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีการฝ่าฝืน เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลแรงงานกลางขอให้รับโจทก์เข้าทำงานต่อไปหรือจ่ายค่าชดเชยหรือค่าเสียหายโดยมิได้ร้องเรียนตามมาตรา 124 ก่อน จึงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 8 วรรคท้าย
ส่วนข้ออ้างประการที่สองว่า จำเลยกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยกกล่าวอ้างว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างซึ่งโจทก์เกี่ยวข้องด้วยมีผลใช้บังคับ เป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ มาตรา 123 ซึ่งมาตรา 124 บัญญัติไว้ให้ผู้ต้องหาต้องยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ หากประสงค์จะเรียกร้องสิ่งใด ต้องยื่นภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีการฝ่าฝืน เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลแรงงานกลางขอให้รับโจทก์เข้าทำงานต่อไปหรือจ่ายค่าชดเชยหรือค่าเสียหายโดยมิได้ร้องเรียนตามมาตรา 124 ก่อน จึงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 8 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมและการปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายแรงงานก่อนฟ้องคดี
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรับโจทก์เข้าทำงานต่อไปหรือมิฉะนั้นให้จ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหาย ข้ออ้างประการแรกที่ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยฝ่าฝืนระเบียบเป็นการกล่าวหาว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นธรรมตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 49 ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติให้โจทก์ต้องร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการอย่างใดก่อนที่จะดำเนินการในศาลแรงงาน จึงฟ้องต่อศาลแรงงานกลางได้โดยไม่ต้องร้องเรียนหรือปฏิบัติการอย่างใดก่อน ไม่ต้องห้ามตามมาตรา8 วรรคท้าย
ส่วนข้ออ้างประการที่สองว่า จำเลยกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยกล่าวอ้างว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างซึ่งโจทก์เกี่ยวข้องด้วยมีผลใช้บังคับเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 123 ซึ่งมาตรา 124 บัญญัติไว้ให้ผู้ต้องหาต้องยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ หากประสงค์จะเรียกร้องสิ่งใด ต้องยื่นภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีการฝ่าฝืน เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลแรงงานกลางขอให้รับโจทก์เข้าทำงานต่อไปหรือจ่ายค่าชดเชยหรือค่าเสียหายโดยมิได้ร้องเรียนตามมาตรา 124 ก่อน จึงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 8 วรรคท้าย
ส่วนข้ออ้างประการที่สองว่า จำเลยกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยกล่าวอ้างว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างซึ่งโจทก์เกี่ยวข้องด้วยมีผลใช้บังคับเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 123 ซึ่งมาตรา 124 บัญญัติไว้ให้ผู้ต้องหาต้องยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ หากประสงค์จะเรียกร้องสิ่งใด ต้องยื่นภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีการฝ่าฝืน เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลแรงงานกลางขอให้รับโจทก์เข้าทำงานต่อไปหรือจ่ายค่าชดเชยหรือค่าเสียหายโดยมิได้ร้องเรียนตามมาตรา 124 ก่อน จึงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 8 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมขายฝากเป็นโมฆะเมื่อมีเจตนาลวงเพื่อนำไปจำนอง โจทก์มีสิทธิเรียกคืนที่ดิน
โจทก์ประสงค์จะจำนองที่พิพาทแต่ถ้าโจทก์จำนองด้วยตนเองจะไม่ได้เงินมากตามจำนวนที่ต้องการ จึงได้ตกลงทำเป็นจดทะเบียนขายฝากที่พิพาทไว้กับจำเลยก่อน แล้วให้จำเลยนำที่ดินไปจำนองบริษัท ท. ซึ่งผู้จัดการเป็นญาติกับจำเลยเอาเงินมาให้โจทก์ ดังนี้ นิติกรรมขายฝากดังกล่าวเป็นเพียงเจตนาลวงเพื่อให้จำเลยนำที่พิพาทไปจำนองเท่านั้นจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118คือไม่มีสัญญาขายฝากต่อกัน ที่พิพาทยังเป็นของโจทก์อยู่ โจทก์มีอำนาจเรียกที่พิพาทคืนจากจำเลยฐานลาภมิควรได้ จำเลยมีหน้าที่คืนที่พิพาทและโอนใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามเดิม เงินที่โจทก์ได้มาไม่ใช่เงินของจำเลยอันโจทก์จะพึงคืนให้แก่จำเลย แต่เป็นเงินซึ่งโจทก์จะต้องชำระคืนให้แก่ผู้รับจำนองซึ่งเป็นเจ้าหนี้โดยตรงส่วนจะเป็นจำนวนเท่าใดนั้นย่อมเป็นไปตามมูลหนี้ที่ปรากฏอยู่ในสัญญาจำนอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าชดเชยเมื่อเลิกจ้าง: นายจ้างต้องจ่ายทันทีเมื่อเลิกจ้าง หากไม่จ่ายถือผิดนัดและต้องเสียดอกเบี้ย
ค่าชดเชยต้องจ่ายเมื่อเลิกจ้าง เมื่อไม่จ่ายถือว่าผิดนัดนับแต่วันที่เลิกจ้าง โดยไม่ต้องทวงถาม ต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันเลิกจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเตือนของพนักงานตรวจแรงงานไม่ถือเป็นคำสั่งหรือคำวินิจฉัย ไม่ทำให้เกิดข้อโต้แย้งสิทธิ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำเตือนของพนักงานตรวจแรงงานให้นายจ้างจ่ายเงินค่าชดเชยแก่ลูกจ้าง ไม่ใช่คำสั่งหรือคำวินิจฉัยให้นายจ้างปฏิบัติตามไม่เป็นการโต้แย้งสิทธินายจ้างที่จะมาฟ้องต่อศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88-92/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างเนื่องจากเกษียณอายุถือเป็นการเลิกจ้างตามกฎหมาย แม้มีเงินบำนาญแล้วลูกจ้างก็ยังมีสิทธิได้รับค่าชดเชย
การออกจากงานเพราะครบเกษียณอายุ 60 ปีตามพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 ไม่ใช่กำหนดระยะเวลาจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน และไม่ใช่ออกเพราะทำผิด จึงเป็นการ เลิกจ้าง นายจ้างต้องจ่ายเงินชดเชยแม้เงินบำนาญที่นายจ้างจ่ายแก่ลูกจ้างจะสูงกว่าค่าชดเชย ก็เป็นเงินคนละประเภท ลูกจ้างยังมีสิทธิได้รับค่าชดเชยอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างโดยมิชอบ และสิทธิลูกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย แม้ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า
การไม่ให้ลูกจ้างทำงานโดยลูกจ้างไม่ได้ทำผิด ถือเป็นการเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน 16 เมษายน 2515 ข้อ 45 ฉบับที่ 6 31 กรกฎาคม 2521 มีผลตั้งแต่วันเลิกจ้าง จะนำ ประมวลกฎหมาายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 582 มาใช้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลาหยุดงานโดยไม่แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ถึงขั้นร้ายแรงที่นายจ้างจะเลิกจ้างโดยไม่ต้องเตือนและไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
การหยุดงานโดยมิได้ขอลาเป็นลายลักษณ์อักษรนั้นมิใช่ฝ่าฝืนข้อบังคับ เป็นกรณีร้ายแรงซึ่งจะเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องเตือนก่อน