คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ขจร หะวานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3190/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิด: การฟ้องเรียกค่าเสียหายหลังนิติสัมพันธ์สิ้นสุดนานกว่า 10 ปี ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำนิติกรรมให้โจทก์โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ รู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของรัฐบาลแล้วยังขืนทำการโอนให้โจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ถูกผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ฟ้องขับไล่ ศาลฎีกาพิพากษาขับไล่โจทก์ออกจากที่พิพาท ทำให้โจทก์เสียหาย ดังนี้ เป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องถึงการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายอันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ จึงต้องนำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความเรื่องละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 มาใช้บังคับ เมื่อคดีฟังข้อเท็จจริงได้ว่า นับแต่วันที่โจทก์ทำนิติกรรมซื้อที่ดินพิพาทจนถึงวันที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลเป็นเวลาห่างกันถึง 21 ปี และโจทก์เพิ่งยื่นฟ้องคดีนี้ภายหลังจากที่โจทก์ได้ฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อนแล้วถึง 2 ปีเศษ คดีโจทก์จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3174/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิร้องขัดทรัพย์โดยไม่สุจริตเพื่อประวิงคดีและขัดขวางการขายทอดตลาด
คดีได้มีการประกาศขายทอดตลาดแล้ว และเลื่อนการขายทอดตลาดเรื่อยมาโดยเฉพาะผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นบุตรจำเลยได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกศาลสั่งจำหน่ายคดี ครั้งที่ 2 ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา คดีถึงที่สุด ศาลกำหนดให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 7 วัน มีการประกาศขายทอดตลาดอีก แต่ก่อนวันนัดซึ่งล่วงเลยเวลาที่ศาลให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาเสียเกือ บ 3 เดือน ผู้ร้องขัดทรัพย์กลับมายื่นร้องขัดทรัพย์ใหม่เป็นครั้งที่ 3 พฤติการณ์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องมีเจตนาที่จะประวิงคดีมิให้ศาลขายทอดตลาดของจำเลยที่ถูกยึดเท่านั้น เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ต้องยกคำร้องขัดทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3174/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิร้องขัดทรัพย์โดยไม่สุจริตเพื่อประวิงคดี ทำให้ศาลยกคำร้องขัดทรัพย์
คดีได้มีการประกาศขายทอดตลาดแล้ว และเลื่อนการขายทอดตลาดเรื่อยมาโดยเฉพาะผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นบุตรจำเลยได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกศาลสั่งจำหน่ายคดี ครั้งที่ 2 ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา คดีถึงที่สุด ศาลกำหนดให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 7 วัน มีการประกาศขายทอดตลาดอีก แต่ก่อนวันนัดซึ่งล่วงเลยเวลาที่ศาลให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาเสียเกือบ 3 เดือนผู้ร้องขัดทรัพย์กลับมายื่นฟ้องขัดทรัพย์ใหม่เป็นครั้งที่ 3 พฤติการณ์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องมีเจตนาที่จะประวิงคดีมิให้ศาลขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ถูกยึดเท่านั้น เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ต้องยกคำร้องขัดทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3041/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานเอกสารจากสำนวนสอบสวนใช้สนับสนุนคำพยานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
สำนวนการสอบสวนเป็นพยานเอกสารที่คู่ความมีสิทธิอ้างอิงเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของตนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 จึงรับฟังประกอบคำพยานโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3041/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานเอกสารจากการสอบสวน: ใช้ประกอบคำพยานได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 90
สำนวนการสอบสวนเป็นพยานเอกสารที่คู่ความมีสิทธิอ้างอิงเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของตน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 จึงรับฟังประกอบคำพยานโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3025/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องสัญญาจ้าง: ข้อตกลงในสัญญาเหนือมาตรา 601
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าจ้างที่โจทก์จะต้องจ้างผู้อื่นทำการซ่อมแซมแก้ไขความชำรุดบกพร่องของสิ่งก่อสร้าง ตามที่โจทก์กับจำเลยได้ทำสัญญากันไว้ เป็นเรื่องฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาจ้างธรรมดาซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความสิบปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 หาใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่องอันมีอายุความหนึ่งปีตามมาตรา 601 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3025/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องค่าเสียหายจากการซ่อมแซมงานก่อสร้าง: สัญญาเฉพาะ vs. กฎหมายทั่วไป
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระค่าจ้างที่โจทก์จะต้องจ้างผู้อื่นทำการซ่อมแซมแก้ไขความชำรุดบกพร่องของสิ่งก่อสร้าง ตามที่โจทก์กับจำเลยได้ทำสัญญาไว้ เป็นเรื่องฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาจ้างธรรมดาซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความสิบปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 หาใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายเพื่อการที่ทำชำรุดบกพร่องอันมีอายุความหนึ่งมีตามมาตรา 601 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2924/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารประมาทเลินเล่อจ่ายเช็คปลอม ผู้รับฝากต้องใช้ความระมัดระวังตรวจสอบลายมือชื่อ
ธนาคารจำเลยเป็นผู้รับฝากเงินเป็นอาชีพโดยหวังผลประโยชน์ในบำเหน็จค่าฝาก หรือจากการเอาเงินฝากของผู้ฝากไปแสวงหาประโยชน์ได้ มีหน้าที่ตามกฎหมายจะต้องใช้ความระมัดระวังและความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษตรวจสอบลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายว่าเหมือนลายมือชื่อที่ให้ตัวอย่างไว้กับจำเลยหรือไม่ หากเห็นว่าลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คพิพาทไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ไว้ จำเลยก็ชอบที่จะปฏิเสธการจ่ายเงิน ฉะนั้นการที่จำเลยได้จ่ายหรือหักบัญชีเงินฝากของโจทก์ให้บุคคลอื่นไปจึงถือได้ว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลยจำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2924/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารต้องตรวจสอบลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเช็คอย่างระมัดระวัง หากพบความแตกต่างมีสิทธิปฏิเสธการจ่ายเงิน และต้องรับผิดต่อความเสียหายหากจ่ายเงินผิดพลาด
ธนาคารจำเลยเป็นผู้รับฝากเงินเป็นอาชีพโดยหวังผลประโยชน์ในบำเหน็จค่าฝาก หรือจากการเอาเงินฝากของผู้ฝากไปแสวงหาประโยชน์ มีหน้าที่ตามกฎหมายจะต้องใช้ความระมัดระวังและความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษตรวจสอบลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายว่าเหมือนลายมือที่ให้ตัวอย่างไว้กับจำเลยหรือไม่ หากเห็นว่าลายมือชื่อสั่งจ่ายใบเช็คพิพาทไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ไว้ จำเลยก็ชอบที่จะปฏิเสธการจ่ายเงิน ฉะนั้น การที่จำเลยได้จ่ายหรือหักบัญชีเงินฝากของโจทก์ให้บุคคลอื่นไปจึงถือได้ว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2921/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้จากการไถ่ถอนจำนองและการคิดดอกเบี้ย ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์เรื่องดอกเบี้ยตามสัญญา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจำเลยเป็นฝ่ายฎีกา โจทก์มิได้ฎีกาแต่กล่าวมาในคำแก้ฎีกาว่าโจทก์มีสิทธิได้ดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปี ศาลฎีกาจะพิพากษาเพิ่มดอกเบี้ยให้โจทก์หาได้ไม่ เพราะไม่มีคำขอและคำฟ้องฎีกา
of 205