คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ขจร หะวานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1453/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมชิงทรัพย์: ศาลฎีกาพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับจำเลยที่ 2 ในการชิงทรัพย์
จำเลยที่ 1 ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำเลยที่ 2 นั่งซ้อนท้ายขับชลอตามรถจักรยานที่ผู้เสียหายขี่ จำเลยที่ 2 กระชากแขนผู้เสียหายล้มลงแล้วลงจากรถบีบคอกระชากสร้อยคอของผู้เสียหายกลับไปขึ้นรถที่จำเลยที่ 1 จอดติดเครื่องรออยู่บริเวณที่เกิดเหตุออกรถหนีย้อนกลับ ทางเดิมไปทันที จำเลยแบ่งหน้าที่กันทำเป็นตัวการชิงทรัพย์ทั้ง 2 คน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมฐานยักยอกและลักทรัพย์ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
ฟ้องโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงและการกระทำของจำเลยว่าจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างของโจทก์ร่วมกระทำความผิดฐานยักยอกแล้วโจทก์ยังได้บรรยายฟ้องกล่าวอ้างอีกว่า ในการกระทำอันเดียวกันนั้นเป็นการลักทรัพย์ คำฟ้องของโจทก์จึงขัดแย้งกันอยู่ในตัวเองเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) จะรับไว้พิจารณาเอาโทษจำเลยมิได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่30/2494)
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์โดยระบุวันที่จำเลยได้รับเช็คและเงินสดไว้ แต่มิได้บรรยายว่า จำเลยได้เบียดบังยักยอกเอาเงินสดไปในวัน เดือน ปี และเวลาใดจะตีความเอาว่าโจทก์หมายเอาในระหว่างวันเวลาที่จำเลยได้รับเช็คและเงินสดนั้นเป็นวันที่จำเลยกระทำผิดก็ไม่ได้ เพราะไม่มีข้อความตอนใดจะให้เข้าใจได้ดังนั้นฟ้องของโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 117/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมฐานยักยอกและลักทรัพย์ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
ฟ้องโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงและการกระทำของจำเลยว่า จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างของโจทก์ร่วมกระทำความผิดฐานยักยอก แล้วโจทก์ยังได้บรรยายฟ้องกล่าวอ้างอีกว่า ในการกระทำอันเดียวกันนั้นเป็นการลักทรัพย์ คำฟ้องของโจทก์จึงขัดแย้งกันอยู่ในตัวเองเป็นฟ้องที่ถูกต้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (4) จะรับไว้พิจารณาเอาโทษจำเลยมิได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 30/2494)
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์โดยระบุวันที่จำเลยได้รับเช็ค และเงินสดไว้ แต่มิได้บรรยายว่า จำเลยได้เบียดบังยักยอกเอาเงินสดไปในวัน เดือน ปี และเวลาใดจะตีเอาว่าโจทก์หมายเอาในระหว่างวันเวลาที่จำเลยได้รับเช็ค และเงินสดนั้นเป็นวันที่จำเลยกระทำผิดก็ไม่ได้ เพราะไม่มีข้อความตอนใดจะให้เข้าใจได้ดังนั้น ฟ้องของโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 117/2592)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย หากปิดแสตมป์แต่ไม่ขีดฆ่า ทำให้ใช้เป็นหลักฐานในศาลไม่ได้
สัญญากู้ที่โจทก์ส่งศาลปิดอากรแสตมป์แล้ว แต่ไม่ขีดฆ่าอากรแสดตมป์นั้น ถือว่าสัญญากู้ไม่ปิดแสตมป็บริบูรณ์ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 103 ข้อ 1 และไม่อาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ตามมาตรา 118 ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ไม่สมบูรณ์หากปิดแสตมป์แต่ไม่ขีดฆ่า ทำให้ใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้
สัญญากู้ที่โจทก์ส่งศาลปิดอากรแสตมป์แล้ว แต่ไม่ขีดฆ่าอากรแสตมป์นั้น ถือว่าสัญญากู้ไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 103 ข้อ 1 และไม่อาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ตามมาตรา 118 ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจโจทก์ร่วม & การขอเพิ่มโทษในชั้นฎีกา: ต้องอุทธรณ์ก่อนจึงฎีกาได้
โจทก์ร่วมจะขอเพิ่มเติมฟ้องของพนักงานอัยการที่มีอยู่เดิมโดยขอเพิ่มเติมบทลงโทษให้หนักขึ้นหาได้ไม่
โจทก์ร่วมจะฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นอีก โดยที่โจทก์ร่วมมิได้อุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ไว้ในชั้นอุทธรณ์หาได้ไม่ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
โจทก์ร่วมอุทธรณ์ขอเพิ่มเติมฟ้อง (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289) และขอให้ลงโทษจำเลยตามบทมาตราที่ขอเพิ่มเติมฟ้องนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาต ให้โจทก์ร่วมเพิ่มเติมฟ้องแล้ว ก็เท่ากับว่าไม่มีคำขอของโจทก์ให้ลงโทษจำเลยตามบทมาตราดังกล่าว ฉะนั้น ศาลอุทธรณ์จะอาศัยเหตุที่โจทก์ร่วมขอเพิ่มเติมฟ้องดังกล่าวนั้น โดยถือว่าโจทก์ร่วมได้อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น แล้วพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยหาได้ไม่ เพราะขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 แม้ปัญหาดังกล่าวนี้จำเลยจะมิได้ฎีกา แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจโจทก์ร่วม, การเพิ่มเติมฟ้อง, และการขอลงโทษหนักขึ้นในชั้นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ร่วมจะขอเพิ่มเติมฟ้องของพนักงานอัยการที่มีอยู่เดิม โดยขอเพิ่มเติมบทลงโทษให้หนัดขึ้นหาได้ไม่
โจทก์ร่วมจะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นอีก โดยที่โจทก์ร่วมมิได้อุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ไว้ในชั้นอุทธรณ์หาได้ไม่ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
โจทก์ร่วมอุทธรณ์ขอเพิ่มเติมฟ้อง (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289) และขอให้ลงโทษจำเลยตามบทมาตราที่ขอเพิ่มเติมฟ้องนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้โจทก์ร่วมเพิ่มเติมฟ้องแล้ว ก็เท่ากับว่าไม่มีคำขอของโจทก์ให้ลงโทษจำเลยตามบทมาตราดังกล่าว ฉะนั้นศาลอุทธรณ์จะอาศัยเหตุที่โจทก์ร่วมขอเพิ่มเติมฟ้องดังกล่าวนั้น โดยถือว่าโจทก์ร่วมได้อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น แล้วพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยหาได้ไม่ เพราะขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 แม้ปัญหาดังกล่าวนี้จำเลยจะมิได้ฎีกา แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลาภมิควรได้จากการรับเงินค่าเสียหายคดีขับไล่ เมื่อกรรมสิทธิ์ในที่ดินเปลี่ยนมือ
จำเลยชนะคดีที่ฟ้องขับไล่ ส. ได้รับเงินที่ ส. กับผู้รับมรดกความของ ส. อันเป็นค่าเสียหายระหว่างคดีเดือนละ 100 บาท ไปรวม 8,700 บาทโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีอีกเรื่องหนึ่งว่าที่ดินเป็นของโจทก์โดยครอบครองปรปักษ์เงินที่จำเลยรับไปจากศาลเป็นเงินที่รับไปโดยมีมูลตามกฎหมายไม่ใช่ลาภมิควรได้ที่จะต้องคืนให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขออนุญาตอาวุธปืน: การดำเนินการตามกฎหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยนำอาวุธปืนและกระสุนปืนไปขอรับอนุญาตต่อนายทะเบียนเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แล้ว แต่จำเลยยังมิได้ไปขอรับใบอนุญาตจากนายทะเบียน การขอรับใบอนุญาต พระราชบัญญัติไม่ได้กำหนดเวลาเท่าใดไว้ จึงไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาว่าไม้สับเป็น 'ไม้แปรรูป' ตาม พรบ.ป่าไม้ แม้เป็นเศษไม้ขนาดเล็ก
ไม้เคี่ยมสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ เกิดจากการแปรรูปไม้ แม้จะเป็นเพียงเศษไม้ชิ้นเล็ก ๆ ใช้ใส่ในน้ำตาลกันบูด ก็ยังมีสภาพเป็นไม้ ถือได้ว่าเป็นไม้แปรรูปตามความหมายของพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ
of 205