คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ขจร หะวานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อบังคับสมาคมต้องจดทะเบียน มิฉะนั้นไม่มีผลบังคับใช้ สมาชิกมีสิทธิฟ้องเพิกถอนการเลือกตั้งที่ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับ
บรรดาสมาคมนอกจากจะต้องมีข้อบังคับและต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1275 แล้ว การแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อบังคับใหม่นั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1283 วรรคสอง ยังบังคับให้ส่งสำเนาข้อบังคับที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมใหม่สามฉบับไปจดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้ลงมติ ฉะนั้น แม้ข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขใหม่นั้นจะได้รับความยินยอมจากสมาชิกสามัญเกินกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดและได้รับอนุมัติจากท่านศาสดาสมเด็จสังฆราชถูกต้องตามข้อบังคับของสมาคม แต่เมื่อข้อบังคับดังกล่าวยังมิได้จดทะเบียนตามที่กฎหมายบังคับไว้ จึงยังไม่สมบูรณ์ ไม่มีผลใช้บังคับแก่สมาคม
เมื่อจำเลยจัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมที่ได้จดทะเบียนไว้ โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยให้เพิกถอนการเลือกตั้งกรรมการที่ฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมได้แม้จะมิได้คัดค้านไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าไปในบ้านโดยมีเหตุอันควรและการไม่มีเจตนาบุกรุก แม้ผู้เสียหายไล่ให้ออก
จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายโดยบุตรีผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาโดยพฤตินัยของจำเลยนัดให้ไปพบ ถือได้ว่าเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันควร และแม้เมื่อผู้เสียหายได้ไล่จำเลยให้ออกไป แต่จำเลยไม่ยอมออก ทั้งนี้ เพื่อขอร้องภรรยาจำเลยให้กลับไปอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาดังเดิม ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหสถาน: เหตุอันควรและความเจตนาเพื่อคืนดีกับภรรยาโดยพฤตินัย
จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายโดยบุตรีผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาโดยพฤตินัยของจำเลยนัดให้ไปพบ ถือได้ว่าเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันควร และแม้เมื่อผู้เสียหายได้ไล่จำเลยให้ออกไป แต่จำเลยไม่ยอมออกทั้งนี้ เพื่อขอร้องภรรยาจำเลยให้กลับไปอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาดังเดิมดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานเอกสารการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าต่างประเทศ และการไม่เป็นฟ้องซ้ำในความผิดเครื่องหมายการค้า
คดีเดิมเป็นเรื่องเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศและเหตุเกิดระหว่าง พ.ศ.2513 คดีนี้เป็นเรื่องเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในต่างประเทศ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ต้นฉบับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในสมุดทะเบียนส่วนกลางของต่างประเทศเจ้าหน้าที่ของประเทศนั้นรับรองสำเนา สถานทูตไทยส่งสำเนานั้นมา ฟังสำเนานั้นเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุตรบุญธรรมมีสิทธิมรดกก่อนพี่น้องร่วมบิดามารดา สัญญาแบ่งมรดกก่อนเจ้ามรดกเสียชีวิตเป็นโมฆะ
เจ้ามรดกได้จดทะเบียนรับจำเลยที่ 2 เป็นบุตรบุญธรรมจำเลยที่ 2 จึงมีฐานะอย่างเดียวกับบุตรชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1586,1627 เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรมโดยมิได้ทำพินัยกรรมมรดกจึงตกได้แก่จำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว โจทก์ที่1 ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดากับเจ้ามรดกหามีสิทธิได้รับมรดกไม่
ก่อนเจ้ามรดกถึงแก่กรรม โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาแบ่งทรัพย์มรดกกัน แม้สัญญาดังกล่าวจะกระทำเพื่อระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นในภายหน้าเข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ก็เป็นสัญญาที่ให้จำเลยที่2 ผู้มีสิทธิได้รับมรดกของเจ้ามรดกแต่ผู้เดียวจำหน่ายจ่ายโอนสิทธิในการรับมรดกในทรัพย์มรดกบางส่วนให้แก่โจทก์เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619ไม่มีผลใช้บังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับบุตรบุญธรรมและสิทธิในมรดก สัญญาประนีประนอมยอมความก่อนเจ้ามรดกถึงแก่กรรมเป็นโมฆะ
เจ้ามรดกได้จดทะเบียนรับจำเลยที่ 2 เป็นบุตรบุญธรรม จำเลยที่ 2 จึงมีฐานะอย่างเดียวกับบุตรชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1586, 1627 เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรมโดยมิได้ทำพินัยกรรม มรดกจึงตกได้แก่จำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดากับเจ้ามรดกหามีสิทธิได้รับมรดกไม่
ก่อนเจ้ามรดกถึงแก่กรรม โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาแบ่งทรัพย์มรดกกัน แม้สัญญาดังกล่าวจะกระทำเพื่อระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นในภายหน้าเข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ก็เป็นสัญญาที่ให้จำเลยที่ 2 ผู้มีสิทธิได้รับมรดกของเจ้ามรดกแต่ผู้เดียวจำหน่ายจ่ายโอนสิทธิในการรับมรดกในทรัพย์มรดกบางส่วนให้แก่โจทก์ เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619 ไม่มีผลใช้บังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ที่ดินติดต่อเพื่อปลูกสร้าง/ซ่อมแซม – การใช้ที่ดินเพื่อทำนั่งร้าน
ตามมาตรา 1351 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งบัญญัติให้สิทธิเจ้าของที่ดินใช้ที่ดินติดต่อเพียงที่จำเป็นในการปลูกสร้าง หรือซ่อมแซมรั้วกำแพง หรือโรงเรียนตรงหรือใกล้แนวเขตของตนนั้น เป็นบทจำกัดสิทธิของเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินด้านติดต่อเมื่อโจทก์เจ้าของที่ดินได้บอกกล่าวล่วงหน้า ตามสมควรแล้ว โจทก์ก็ชอบทีจะใช้ที่ดินด้านที่ติดต่อนั้นได้เท่าที่จำเป็น เพื่อทำนั่งร้านฉาบปูนและทาสีผนังอาคารของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ที่ดินติดต่อเพื่อปลูกสร้าง/ซ่อมแซมอาคาร แม้เจ้าของที่ดินไม่ยินยอม หากได้แจ้งล่วงหน้า
ตามมาตรา 1351 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งบัญญัติให้สิทธิเจ้าของที่ดินใช้ที่ดินติดต่อเพียงที่จำเป็นในการปลูกสร้าง หรือซ่อมแซมรั้ว กำแพง หรือโรงเรือนตรงหรือใกล้แนวเขตของตนนั้น เป็นบทจำกัดสิทธิของเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินด้านติดต่อ เมื่อโจทก์เจ้าของที่ดินได้บอกกล่าวล่วงหน้าตามสมควรแล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะใช้ที่ดินด้านที่ติดต่อนั้นได้เท่าที่จำเป็น เพื่อทำนั่งร้านฉาบปูนและทาสีผนังอาคารของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องช่วงสิทธิจากสัญญาเช่าและการรับผิดในความเสียหายจากประมาทเลินเล่อ
โจทก์ทำสัญญาใช้สถานีบริการขายน้ำมันของบริษัท อ. ในสัญญาดังกล่าวระบุไว้ว่าในกรณีทรัพย์สินของบริษัท ฯ ได้รับความเสียหายเนื่องจากความจงใจหรือประมาทเลินเล่อของโจทก์ลูกจ้างของโจทก์หรือบุคคลอื่น โจทก์ต้องรับผิดชอบออกค่าซ่อมแซมหรือชดใช้ราคาทรัพย์สินนั้นตามสัญญาข้อนี้เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นแก่สถานีบริการดังกล่าว บริษัทฯ ได้จัดการซ่อมและโจทก์ได้ออกเงินค่าซ่อมให้แก่บริษัท ฯ ไปแล้ว โจทก์ย่อมเข้าสู่ฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยผู้ซึ่งจะต้องรับผิดในความเสียหายนั้นให้ชำระเงินที่จ่ายไปแล้วนั้นได้
ทุนทรัพย์ที่จะถือเป็นหลักว่าฎีกาในข้อเท็จจริงได้หรือไม่นั่นต้องถือตามทุนทรัพย์ที่พิพาทกันมาในศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องช่วง การชดใช้ค่าเสียหายจากความประมาทเลินเล่อ และการคำนวณค่าเสียหายจากการหยุดประกอบการ
โจทก์ทำสัญญาใช้สถานีบริการขายน้ำมันของบริษัทอ. ในสัญญาดังกล่าวระบุไว้ว่าในกรณีทรัพย์สินของบริษัทฯ ได้รับความเสียหายเนื่องจากความจงใจหรือประมาทเลินเล่อของโจทก์ลูกจ้างของโจทก์หรือบุคคลอื่น โจทก์ต้องรับผิดชอบออกค่าซ่อมแซมหรือชดใช้ราคาทรัพย์สินนั้น ตามสัญญาข้อนี้เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นแก่สถานีบริการดังกล่าวบริษัทฯ ได้จัดการซ่อมและโจทก์ได้ออกเงินค่าซ่อมให้แก่บริษัทฯ ไปแล้ว โจทก์ย่อมเข้าสู่ฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยผู้ซึ่งจะต้องรับผิดในความเสียหายนั้นให้ชำระเงินที่จ่ายไปแล้วนั้นได้
ทุนทรัพย์ที่จะถือเป็นหลักว่าฎีกาในข้อเท็จจริงได้หรือไม่นั้นต้องถือตามทุนทรัพย์ที่พิพาทกันมาในศาลชั้นต้น
of 205