พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกคืนทรัพย์ที่ยืมใช้ - ยืมโคแล้วไม่คืน ไม่ถือเป็นการละเมิด
ยืมโคไปใช้ อายุความเรียกโคคืนหรือใช้ราคามีกำหนด 10 ปี ตาม มาตรา164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 148/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องค่าอุปการะและค่าปลงศพกรณีบุตรนอกสมรส & การขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมของมารดาผู้ตาย
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1535 บุตรชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นที่มีหน้าที่จำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาผู้ตายไม่ใช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของโจทก์โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดไร้อุปการะ
ค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นนั้น เฉพาะแต่บุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1649 เท่านั้นที่มีหน้าที่จัดการศพ โจทก์ไม่ใช่ทายาทของผู้ตาย เพราะไม่ได้เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการปลงศพเช่นเดียวกัน (อ้างฎีกาที่477/2514)
เมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง แต่มารดาผู้ตายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ถึงแม้จะบรรยายมาในคำร้องว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสีย มีความประสงค์ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมโดยถือเอาคำฟ้องและหลักฐานต่าง ๆ ของโจทก์เป็นของผู้ร้องก็ตาม เมื่อฟังว่าผู้ร้องเป็นมารดาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ซึ่งย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยผู้ทำละเมิดทำให้บุตรของตนตายได้โดยตรงอยู่แล้ว ดังนี้ คำร้องของผู้ร้องจึงแปลได้ว่าเป็นการร้องขอเพื่อยังให้ได้รับความรับรอง คุ้มครอง หรือบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 57(1) นั่นเองโดยอาศัยคำฟ้องของโจทก์เป็นของผู้ร้องหาใช่เป็นการร้องสอดเข้ามาตามมาตรา 57(2) ไม่ ดังนั้น แม้ฟ้องเดิมโจทก์จะไม่มีอำนาจฟ้อง ผู้ร้องก็เข้ามาในคดีได้ (ข้อนี้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2521)
จำเลยถือสิทธิครอบครองใช้แพที่เกิดเหตุซึ่งเดิมใช้สำหรับผู้โดยสารเรือเล็กที่รับส่งข้ามฟาก หรือไปมาในระยะใกล้เป็นครั้งคราวมาใช้สำหรับรับส่งคนโดยสาร-เรือด่วนของจำเลยเป็นประจำ วันเกิดเหตุผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น แพโป๊ะทานน้ำหนักไม่ได้เกิดแตกล่มจำเลยมีส่วนจะต้องรับผิดในความประมาทเลินเล่อที่มิได้ระมัดระวังป้องกัน ตรวจสภาพปรับปรุงซ่อมแซมท่าเทียบเรือให้แข็งแรงคงทนเหมาะสมกับกิจการของจำเลย จำเลยจึงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้
การที่บุตรตายลง ย่อมทำให้ผู้เป็นมารดาต้องขาดไร้อุปการะจากผู้ตายตามกฎหมาย ทั้งนี้โดยไม่ต้องพิจารณาถึงว่าผู้ตายจะได้อุปการะเลี้ยงดูมารดาหรือไม่
ค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอื่น จะต้องพิจารณาตามสมควรตามความจำเป็นและตามฐานะของผู้ตาย และบิดามารดา ทั้งต้องพิจารณาถึงประเพณีการทำศพตามลัทธินิยมประกอบด้วยและต้องไม่ใช่รายการที่ฟุ่มเฟือยเกินไป
ค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นนั้น เฉพาะแต่บุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1649 เท่านั้นที่มีหน้าที่จัดการศพ โจทก์ไม่ใช่ทายาทของผู้ตาย เพราะไม่ได้เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการปลงศพเช่นเดียวกัน (อ้างฎีกาที่477/2514)
เมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง แต่มารดาผู้ตายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ถึงแม้จะบรรยายมาในคำร้องว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสีย มีความประสงค์ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมโดยถือเอาคำฟ้องและหลักฐานต่าง ๆ ของโจทก์เป็นของผู้ร้องก็ตาม เมื่อฟังว่าผู้ร้องเป็นมารดาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ซึ่งย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยผู้ทำละเมิดทำให้บุตรของตนตายได้โดยตรงอยู่แล้ว ดังนี้ คำร้องของผู้ร้องจึงแปลได้ว่าเป็นการร้องขอเพื่อยังให้ได้รับความรับรอง คุ้มครอง หรือบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 57(1) นั่นเองโดยอาศัยคำฟ้องของโจทก์เป็นของผู้ร้องหาใช่เป็นการร้องสอดเข้ามาตามมาตรา 57(2) ไม่ ดังนั้น แม้ฟ้องเดิมโจทก์จะไม่มีอำนาจฟ้อง ผู้ร้องก็เข้ามาในคดีได้ (ข้อนี้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2521)
จำเลยถือสิทธิครอบครองใช้แพที่เกิดเหตุซึ่งเดิมใช้สำหรับผู้โดยสารเรือเล็กที่รับส่งข้ามฟาก หรือไปมาในระยะใกล้เป็นครั้งคราวมาใช้สำหรับรับส่งคนโดยสาร-เรือด่วนของจำเลยเป็นประจำ วันเกิดเหตุผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น แพโป๊ะทานน้ำหนักไม่ได้เกิดแตกล่มจำเลยมีส่วนจะต้องรับผิดในความประมาทเลินเล่อที่มิได้ระมัดระวังป้องกัน ตรวจสภาพปรับปรุงซ่อมแซมท่าเทียบเรือให้แข็งแรงคงทนเหมาะสมกับกิจการของจำเลย จำเลยจึงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้
การที่บุตรตายลง ย่อมทำให้ผู้เป็นมารดาต้องขาดไร้อุปการะจากผู้ตายตามกฎหมาย ทั้งนี้โดยไม่ต้องพิจารณาถึงว่าผู้ตายจะได้อุปการะเลี้ยงดูมารดาหรือไม่
ค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอื่น จะต้องพิจารณาตามสมควรตามความจำเป็นและตามฐานะของผู้ตาย และบิดามารดา ทั้งต้องพิจารณาถึงประเพณีการทำศพตามลัทธินิยมประกอบด้วยและต้องไม่ใช่รายการที่ฟุ่มเฟือยเกินไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันยังคงมีผล แม้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยผู้ค้ำประกันเดิมยังต้องรับผิดชอบหนี้
ผู้ร้องค้ำประกันลูกหนี้ตามคำพิพากษาชั้นทุเลาการบังคับคดีระหว่างลูกหนี้อุทธรณ์ซึ่งตามสัญญามีผลจนคดีถึงที่สุด โดยนำโฉนดมาวางประกัน ชั้นฎีกาถือหลักประกันเดิม ระหว่างฎีกาโจทก์จำเลยยอมความกันแบ่งชำระหนี้ 18 งวด มีผู้อื่นเข้าค้ำประกันอีกด้วย สัญญาข้อ 8 ยอมคืนโฉนดต่อเมื่อลูกหนี้ชำระหนี้งวดที่ 7 แล้ว เมื่อปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้ชำระเงินงวดที่ 7 และเนื่องจากโจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยฝ่ายเดียว จำเลยไม่มีสิทธิที่จะสละและไม่ได้สิทธิอะไรจากสัญญา กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 852 หนี้เดิมจึงยังคงมีอยู่ ดังนี้ ผู้ร้องในฐานะผู้ค้ำประกันจึงยังต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน เหตุที่โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยมีผู้ค้ำประกันตามสัญญาดังกล่าวอีก ไม่มีผลทำให้ความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันเปลี่ยนแปลงไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันยังคงมีผล แม้มีการทำสัญญายอมความและมีผู้ค้ำประกันรายใหม่ เพราะจำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้ตามเงื่อนไข
ผู้ร้องค้ำประกันลูกหนี้ตามคำพิพากษาชั้นทุเลาการบังคับคดีระหว่างลูกหนี้อุทธรณ์ซึ่งตามสัญญามีผลจนคดีถึงที่สุด โดยนำโฉนดมาวางประกัน ชั้นฎีกาถือหลักประกันเดิม ระหว่างฎีกาโจทก์จำเลยยอมความกันแบ่งชำระหนี้ 18 งวด มีผู้อื่นเข้าค้ำประกันอีกด้วย สัญญาข้อ 8 ยอมคืนโฉนดต่อเมื่อลูกหนี้ชำระหนี้งวดที่ 7 แล้ว เมื่อปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้ชำระเงินงวดที่ 7 และเนื่องจากโจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยฝ่ายเดียว จำเลยไม่มีสิทธิที่จะสละและไม่ได้สิทธิอะไรจากสัญญา กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 หนี้เดิมจึงยังคงมีอยู่ดังนี้ ผู้ร้องในฐานะผู้ค้ำประกันจึงยังต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน เหตุที่โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยมีผู้ค้ำประกันตามสัญญาดังกล่าวอีก ไม่มีผลทำให้ความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันเปลี่ยนแปลงไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 128/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การประเมินความเสียหายต่อร่างกาย, รถยนต์ และค่าทนทุกข์ทรมาน
โจทก์ถูกรถจำเลยชน รอยแผลเป็นซึ่งไม่ทำให้โจทก์เสียบุคลิกและโจทก์ต้องทนทุกข์ทรมาน เป็นความเสียหายอันมิใช่ตัวเงินซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกัน โจทก์เรียกได้ตาม มาตรา 446 รถยนต์ราคา 70,000 บาท ถูกชนแล้วขายซากรถไป 10,000 บาท เรียกค่าเสียหายที่ขาดเงินไป 60,000 บาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการฟ้องแย้งขอให้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ได้รับยกให้จากมารดา แม้ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยตรง
โจทก์ลงชื่อในโฉนดถือกรรมสิทธิ์แทนมารดาจำเลย มารดาจำเลยยกที่ดินให้จำเลยครอบครอง โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยฟ้องแย้งให้โจทก์จดทะเบียนโอนที่พิพาทแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาหลีกเลี่ยงการเข้ารับราชการทหาร: การไม่มีเจตนาไม่ถือเป็นความผิดตาม พรบ.รับราชการทหาร
จำเลยถูกตรวจคัดเลือกให้เป็นทหารกองประจำการ นายอำเภอมีหมายนัดให้จำเลยไปรายงานตัวเข้ารับราชการทหาร จำเลยรับหมายนัดแล้วไม่ไปรายงานตัวตามเวลานัด โดยมิได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงขัดขืน เพราะจำเลยเกิดเจ็บป่วยท้องเดินมีอาการอ่อนเพลีย นั้น จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร มาตรา 45
บุคคลใดหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนด้วยประการใด ๆ เพื่อจะไม่ให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 45 นั้น ไม่มีข้อความตอนใดจะตีความได้ว่าแม้ขาดเจตนาก็มีความผิด
บุคคลใดหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนด้วยประการใด ๆ เพื่อจะไม่ให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 45 นั้น ไม่มีข้อความตอนใดจะตีความได้ว่าแม้ขาดเจตนาก็มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาหลีกเลี่ยงการเข้ารับราชการทหาร: การไม่มีเจตนาทำให้ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร
จำเลยถูกตรวจคัดเลือกให้เป็นทหารกองประจำการ นายอำเภอมีหมายนัดให้จำเลยไปรายงานตัวเข้ารับราชการทหาร จำเลยรับหมายนัดแล้วไม่ไปรายงานตัวตามเวลานัด โดยมิได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงขัดขืน เพราะจำเลยเกิดเจ็บป่วยท้องเดินมีอาการอ่อนเพลียนั้น จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร มาตรา 45
บุคคลใดหลีกเลี่ยงขัดขืนด้วยประการใดๆ เพื่อจะไม่ให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 45 นั้น ไม่มีข้อความตอนใดจะตีความได้ว่าแม้ขาดเจตนาก็มีความผิด
บุคคลใดหลีกเลี่ยงขัดขืนด้วยประการใดๆ เพื่อจะไม่ให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 45 นั้น ไม่มีข้อความตอนใดจะตีความได้ว่าแม้ขาดเจตนาก็มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลที่ให้งดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีได้ ถือเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
จำเลยให้การว่าโจทก์รับโอนเช็คโดยไม่สุจริต ไม่บรรยายว่าไม่สุจริตอย่างไร ไม่เป็นข้อต่อสู้ที่ควรต้องสืบพยานตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24,177,276 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานเป็นการชี้ขาดเบื้องต้นตาม มาตรา24 โดยวินิจฉัยข้อกฎหมาย ไม่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยข้อเท็จจริงในคดี ไม่ใช่คำสั่งระหว่างพิจารณาคู่ความอุทธรณ์ได้โดยไม่ต้องโต้แย้งไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของบิดามารดาต่อละเมิดของบุตรผู้เยาว์ที่หลบหนีออกจากบ้านและขับรถประมาท
เด็กหนีจากบ้านไปตั้งแต่อายุ 12 ปี แม้ถูกล่ามโซ่ไว้ก็ยังหนีจนอายุ 18 ปี ไปรับจ้างขับรถยนต์บิดามารดาใช้ความระวังดูแลอย่างดีแล้ว นอกเหนืออำนาจของบิดามารดาจะระวังได้ บิดามารดาไม่ต้องรับผิดในละเมิดที่บุตรขับรถชนผู้อื่นโดยประมาท