คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ขจร หะวานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำแจ้งความเพื่อเก็บหลักฐาน เกินอายุความ ไม่ถือเป็นคำร้องทุกข์
แจ้งความต่อตำรวจว่า ผู้แจ้งเกรงจะขาดอายุความ จึงมาแจ้งไว้ เป็นหลักฐาน จะทวงถามเองก่อน หากไม่ชำระเงินจะมามอบคดีให้ตำรวจดำเนินจนถึงที่สุด ดังนี้ แสดงว่าผู้แจ้งยังไม่ประสงค์ให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีไม่เป็นร้องทุกข์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ถือประทานบัตรต่อการขนแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้มิได้รู้เห็นโดยตรง
ศาลพิพากษาริบแร่ดีบุกของกลาง ผู้ร้องเป็นผู้ถือประทานบัตรเป็นเจ้าของแร่ ลูกจ้างของผู้ร้องขนแร่โดยไม่มีใบอนุญาตขนแร่ ซึ่งผู้จัดการของผู้ร้องใช้ให้ทำ เท่ากับผู้ร้องยอมรับรู้ในกิจการที่ผู้จัดการดำเนินการเกี่ยวกับเหมืองแร่ ผู้ร้องอ้างว่ามิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยไม่ได้ ศาลไม่คืนแร่แก่ผู้ร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2551/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมเบิกความเท็จ – ความเท็จต้องเป็นข้อสำคัญในคดี
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานแจ้งความเท็จหรือเบิกความเท็จโดยบรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยแจ้งแก่พนักงานสอบสวนอย่างหนึ่ง แล้วมาเบิกความต่อศาลอีกอย่างหนึ่ง อันเป็นการแตกต่างและขัดกัน ซึ่งเป็นความเท็จ แต่มิได้บรรยายว่าอย่างไหนเป็นความเท็จ อย่างไหนเป็นความจริงหรือความจริงเป็นอย่างไร ยากที่จำเลยจะต่อสู้คดีได้ถูกต้อง จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเบิกความว่า จำเลยไม่เคยให้การชั้นสอบสวนและลายพิมพ์นิ้วมือท้ายคำให้การชั้นสอบสวนนั้นไม่ใช่ลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย ดังนี้ แม้จะฟังว่าจำเลยให้การไว้แก่พนักงานสอบสวนและลายพิมพ์นิ้วมือท้ายคำให้การชั้นสอบสวนเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยจริงก็ตาม เมื่อข้อสำคัญในคดีมีอยู่ว่าจำเลยจำคนร้ายที่เห็นนั้นได้หรือไม่ ข้อความที่จำเลยเบิกความดังกล่าวก็ไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2453/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จ/ฟ้องเท็จต่อศาล: ไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, 175
โจทก์ถูกควบคุมตัวในข้อหาจ้างผู้อื่นฆ่าสามีจำเลย โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ปล่อยชั่วคราว การที่จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลโดยอ้างเหตุว่าไม่ควรให้ปล่อยชั่วคราวนั้น ไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 เพราะศาลไม่ใช่เจ้าพนักงานตามความในกฎหมายมาตราดังกล่าวและไม่เป็นความผิดฐานฟ้องเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 เพราะจำเลยมิได้ฟ้องหาว่าโจทก์กระทำความผิดอาญาประการใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2453/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จและการฟ้องเท็จต่อศาล: ศาลไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา มาตรา 172 และการฟ้องหาความผิดอาญา
โจทก์ถูกควบคุมตัวในข้อหาจ้างผู้อื่นฆ่าสามีจำเลย โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ปล่อยชั่วคราว การที่จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลโดยอ้างเหตุว่าไม่ควรให้ปล่อยชั่วคราวนั้น ไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 เพราะศาลไม่ใช่เจ้าพนักงานตามความในกฎหมายมาตราดังกล่าวและไม่เป็นความผิดฐานฟ้องเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 เพราะจำเลยมิได้ฟ้องหาว่าโจทก์กระทำความผิดอาญาประการใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีซ้ำเมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณา: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
โจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คต่อศาลอาญา คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์เพราะโจทก์เป็นฝ่ายอุทธรณ์ ฉะนั้น การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยในข้อหาเดียวกันต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการอีก จึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำคดีเช็ค: การฟ้องคดีเดิมที่ยังไม่ถึงที่สุดต่อศาลอื่น เป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คต่อศาลอาญา คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์เพราะโจทก์เป็นฝ่ายอุทธรณ์ฉะนั้น การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยในข้อหาเดียวกันต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการอีก จึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173วรรคสอง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2420/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจดุลพินิจศาลในการอนุญาตถอนฟ้อง: การพิจารณาจากเหตุผลและความเหมาะสม
โจทก์ถอนฟ้องเมื่อนัดสืบพยานโจทก์แล้ว จำเลยคัดค้าน ศาลก็อนุญาตให้ถอนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2409/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ การกระทำเกินกว่ากรณีจำเป็นนำไปสู่ความตาย
ผู้ตายจะยิงจำเลย จำเลยจึงเอามีดปัดปืนลั่นแล้วฟันผู้ตายที่หน้าอก เมื่อผู้ตายถูกฟันแล้วยืนเซ่ออยู่มีอาการสาหัสมาก จำเลยรู้ว่าปืนของผู้ตายบรรจุกระสุนได้ทีละนัด หากจะยิงก็ต้องบรรจุกระสุนใหม่ จำเลยกลับฟันซ้ำอีกถูกคอผู้ตายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ลึกถึงกระดูกถูกจุดศูนย์กลางประสาทต้นคอขาด ถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยเกินสมควรแก่เหตุและเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็นตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2409/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุและการเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็นในคดีทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
ผู้ตายจะยิงจำเลย จำเลยจึงเอามีดปัดปืนจนปืนลั่นแล้วฟันผู้ตายถูกที่หน้าอกเมื่อผู้ตายถูกฟันแล้วยืนเซ่ออยู่มีอาการสาหัสมาก จำเลยรู้ว่าปืนของผู้ตายบรรจุกระสุนได้ทีละนัด หากจะยิงก็ต้องบรรจุกระสุนใหม่ จำเลยกลับฟันซ้ำอีกถูกคอผู้ตายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ลึกถึงกระดูกถึงจุดศูนย์กลางประสาทต้นคอขาดถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยเกินสมควรแก่เหตุและเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็นตามกฎหมาย
of 205