พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะที่ปล้นมา ไม่ถือว่าเป็นการใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี
ขณะจำเลยมาทำการปล้นทรัพย์ จำเลยไม่มียานพาหนะ เมื่อจำเลยปล้นเงินและรถยนต์สามล้อของผู้เสียหายได้แล้ว จำเลยก็ขับรถยนต์คันที่ปล้นได้หลบหนีไป ดังนี้ เป็นการเอาทรัพย์ที่ปล้นได้หลบหนีไปตามสภาพของทรัพย์นั้นเอง ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการปล้นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมอันเป็นเหตุให้โทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานประกอบเหตุผลแห่งรูปคดีและการกระทำหลังเกิดเหตุเป็นเหตุให้เชื่อได้ว่าจำเลยมีความผิด
หลังเกิดเหตุจำเลยหายไปจากบ้านจนตำรวจต้องสืบสวนติดตามตัวอยู่หลายวันจึงจับตัวได้ เป็นการส่อพิรุธศาลฟังประกอบการวินิจฉัยลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางโทษประหารชีวิตและลดโทษจากรับสารภาพ: ข้อจำกัดในการเพิ่มโทษตามมาตรา 340 ตรี
การกระทำของจำเลยทั้งสองต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคท้าย มาตรา 340 ตรี ซึ่งมาตรา 340 ตรีเป็นเรื่องที่จะต้องวางโทษจำเลยหนักกว่าที่บัญญัติไว้กึ่งหนึ่งหาใช่เป็นเรื่องการเพิ่มโทษไม่ สำหรับคดีนี้จำเลยทั้งสองได้รับโทษถึงประหารชีวิตตามมาตรา 340 วรรคท้าย แล้วจึงไม่อาจวางโทษให้หนักขึ้นกว่านี้อีกกึ่งหนึ่งได้กรณีไม่อาจนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 มาปรับแก่คดีนี้ได้ เมื่อจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพอันเป็นเหตุบรรเทาโทษก็ต้องลดโทษให้จำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงในสัญญาเช่าที่กำหนดเงื่อนไขการเลิกสัญญาโดยไม่ต้องบอกกล่าว ย่อมใช้บังคับได้และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
สัญญาเช่าห้องมีว่า ถ้าผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่า 1 เดือน ถือว่า สัญญาสิ้นสุดโดยไม่ต้องบอกกล่าวเลิกสัญญาดังนี้ เป็นการยกเว้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ใช้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงโฉนดที่ดินเฉพาะเมื่อมีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์ต่อทรัพย์สินนั้นเท่านั้น แม้เจ้าของเดิมมีหนี้อื่นก็ไม่อาจใช้สิทธิยึดหน่วงได้
ผู้จำนองชำระหนี้ครบถ้วนตามสัญญาจำนองแล้วผู้รับจำนองจะยึดโฉนดไว้ไม่จดทะเบียนรับไถ่และคืนโฉนดแก่ผู้จำนองไม่ได้การที่ผู้รับจำนองเป็นเจ้าหนี้เจ้าของร่วมคนอื่นในหนี้รายอื่น ไม่ทำให้มีสิทธิ ยึดหน่วงโฉนดไว้ได้ผู้จำนองฟ้องบังคับให้จดทะเบียนไถ่จำนองและ เรียกโฉนดคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายงานกระบวนพิจารณา: การไม่ลงลายมือชื่อไม่ทำให้รายงานเสียความน่าเชื่อถือ หากศาลบันทึกเหตุผลไว้
การที่โจทก์ไม่ยอมลงลายมือชื่อ เพื่อแสดงการรับรู้รายงานกระบวนพิจารณาของศาล ไม่ทำให้รายงานกระบวนพิจารณานั้นเสียไปเพราะศาลได้จดแจ้งเหตุที่ไม่มีลายมือชื่อโจทก์ไว้ในรายงานกระบวนพิจารณานั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 50(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีเงินได้จากการจำหน่ายกำไรออกนอกประเทศ ต้องเป็นผู้จำหน่ายกำไรจริง และเป็นกำไรสุทธิหลังหักต้นทุน
กรมสรรพากรมีคำสั่งให้โจทก์เสียภาษี โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ดังนี้ นับว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่แล้วโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2683/2517)
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70ทวิ นั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร และเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงซึ่งหักต้นทุนออกแล้ว โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ม. ลูกค้าเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าและชำระเงินค่าสินค้าต่อบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โจทก์ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำการค้าในประเทศไทยดังนี้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร เงินที่ลูกค้าส่งไปให้แก่บริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินค่าซื้อสินค้า ไม่ใช่กำไร โจทก์จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยด้วย
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70ทวิ นั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร และเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงซึ่งหักต้นทุนออกแล้ว โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ม. ลูกค้าเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าและชำระเงินค่าสินค้าต่อบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โจทก์ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำการค้าในประเทศไทยดังนี้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร เงินที่ลูกค้าส่งไปให้แก่บริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินค่าซื้อสินค้า ไม่ใช่กำไร โจทก์จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีเงินได้จากการจำหน่ายกำไรออกนอกประเทศ ต้องเป็นผู้จำหน่ายกำไรจริง และเป็นกำไรสุทธิที่หักต้นทุนแล้ว
กรมสรรพากรมีคำสั่งให้โจทก์เสียภาษี โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ ดังนี้ นับว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่แล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2683/2517)
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ทวิ นั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร และเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงซึ่งหักต้นทุนออกแล้ว โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ม. ลูกค้าเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าและชำระเงินค่าสินค้าต่อบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โจทก์ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำการค้าในประเทศไทย ดังนี้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร เงินที่ลูกค้าส่งไปให้แก่บริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินค่าซื้อสินค้า ไม่ใช่กำไร โจทก์จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยด้วย
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ทวิ นั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร และเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงซึ่งหักต้นทุนออกแล้ว โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ม. ลูกค้าเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าและชำระเงินค่าสินค้าต่อบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โจทก์ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำการค้าในประเทศไทย ดังนี้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร เงินที่ลูกค้าส่งไปให้แก่บริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินค่าซื้อสินค้า ไม่ใช่กำไร โจทก์จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2700/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในการขอเฉลี่ยทรัพย์ แม้คดีไม่ถึงที่สุด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ได้บัญญัติถึงสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะยื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์ไว้แต่เพียงว่าจะต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและให้ยื่นคำขอก่อนสิ้นระยะเวลาสิบสี่วันนับแต่วันขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สิน หาได้กำหนดว่าจะต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเมื่อคดีถึงที่สุดไม่กรณีจึงไม่จำเป็นต้องรอให้คดีถึงที่สุดเสียก่อนเจ้าหนี้ก็มีสิทธิเพื่อที่จะยังให้ได้รับรองคุ้มครองและบังคับตามสิทธิของตนโดยบทบัญญัติของมาตราดังกล่าวได้
เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์แล้ว โจทก์มิได้โต้แย้งหรือคัดค้านคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในประเด็นที่ว่า จำเลยยังมีทรัพย์สินอื่นอีกหลายอย่างที่ผู้ร้องสามารถเอาชำระหนี้ได้คดีของโจทก์จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้ แม้โจทก์จะได้นำสืบถึงไว้ก็เป็นการนำสืบนอกประเด็น
เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์แล้ว โจทก์มิได้โต้แย้งหรือคัดค้านคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในประเด็นที่ว่า จำเลยยังมีทรัพย์สินอื่นอีกหลายอย่างที่ผู้ร้องสามารถเอาชำระหนี้ได้คดีของโจทก์จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้ แม้โจทก์จะได้นำสืบถึงไว้ก็เป็นการนำสืบนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2661/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในข้อผิดสัญญาเดิมที่เคยมีคำพิพากษาแล้ว ย่อมเป็นข้อต้องห้ามตามกฎหมาย
ศาลยกคำร้องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยทำผิดสัญญายอมความที่มีคำพิพากษาไปแล้ว โจทก์ร้องอีกในข้อเดียวกัน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144