คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ขจร หะวานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ยืมเงินทดรอง และผู้บังคับบัญชาต่อการทุจริตของลูกน้อง
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ผู้ยืมเงินทดรองจากโจทก์ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับขององค์การโจทก์ การที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ยืมเงินทดรองแล้วมอบฉันทะให้จำเลยที่ 1 รับแทน แล้วจำเลยที่ 1 ทุจริตยักยอกไปโดยไม่ได้ติดตามควบคุมให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับให้มีการหักล้างเงินยืมภายใน 7 วัน หรือ 30 วัน นับแต่วันจ่ายเงินของแต่ละประเภทตามระเบียบข้อบังคับนั้น ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ได้ปฏิบัติราชการโดยประมาทเลินเล่อต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
การที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ได้ลงชื่อในใบยืมเงินทดรองของโจทก์ไปโดยตำแหน่งหน้าที่ในฐานะพนักงานของโจทก์ในขอบเขตแห่งหน้าที่ของตนตามระเบียบแบบแผนของโจทก์ที่วางไว้เพื่อใช้ดำเนินงานของโจทก์โดยมอบฉันทะให้จำเลยที่ 1 ส่งเงินไปยังหน่วยงานที่ยืมนั้น แม้จะมีข้อบังคับให้ผู้ยืมต้องส่งเงินเหลือจ่ายคืนพร้อมใบสำคัญคู่จ่ายเพื่อหักล้างบัญชีก็เป็นเรื่องกำหนดความรับผิดชอบของผู้ยืมไว้เป็นการเฉพาะเป็นหลักปฏิบัติงานในหน่วยงานของโจทก์ จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 มิได้อยู่ในฐานะของผู้ยืมตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบการค้าข้าวส่งออก: โจทก์เป็นนายหน้าหรือผู้ขายเอง การประเมินภาษีค่านายหน้า
ห้างโจทก์มีวัตถุประสงค์จำหนายข้าวสาร และเป็นนายหน้าและตัวแทนต่างในกิจการทุกประเภท ในการติดต่อขายข้าวให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศ ทางห้างโจทก์เสนอราคาขายข้าวโดยบวกค่าระวางบรรทุก ค่าประกันภัยและค่านายหน้ารวมเข้าไปด้วย แต่โจทก์ไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ส่งข้าวออกไปขายต่างประเทศ และไม่ได้ขออนุญาตต่อทางราชการได้ความว่าโรงสีเป็นผู้ขออนุญาตส่งข้าวไปขายต่างประเทศ เป็นผู้ขออนุญาตนำเงินตราต่างประเทศเท่าราคาข้าวที่ขายเข้ามาในประเทศ ทั้งเป็นผู้ปฏิบัติตามพิธีการส่งออกของกรมศุลกากร เสียภาษีศุลกากร ค่าพรีเมี่ยม และภาษีการค้าข้าว กระสอบบรรจุข้าวส่งไปขายต่างประเทศก็มีตราของผู้ซื้อประทับอยู่ แสดงว่าโรงสีรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ซื้อตัวจริงในต่างประเทศโจทก์อ้างว่าโรงสีขายข้าวให้โจทก์ แต่การซื้อขายไม่มีการวางมัดจำหรือทำสัญญาซื้อขายข้าวกัน โจทก์ไม่มีโกดังเก็บข้าวเอง เมื่อโรงสีส่งมอบข้าวแล้วโจทก์ยังไม่ชำระเงินค่าข้าวประกอบกับเลตเตอร์ออฟเครดิตที่ผู้ซื้อในต่างประเทศส่งมาชำระค่าข้าวนั้นโจทก์จะรับเอาทั้งหมดไม่ได้ คงรับได้เฉพาะส่วนที่เป็นผลประโยชน์ของโจทก์เองเท่านั้น พฤติการณ์เหล่านี้แสดงว่าโจทก์เพียงแต่ทำการเป็นนายหน้าหรือตัวแทน หรือรับจัดธุรกิจจัดการให้โรงสีและผู้ซื้อในต่างประเทศของโจทก์ก็เข้าลักษณะเป็นการประกอบการค้าประเภทนายหน้าตามประมวลรัษฎากรหาใช่โจทก์เป็นผู้ขายข้าวส่งต่างประเทศเองไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1388/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบการค้าข้าวส่งออก: นายหน้า vs. ผู้ขาย การประเมินภาษีค่านายหน้า
ห้างโจทก์มีวัตถุประสงค์จำหน่ายข้าวสารและเป็นนายหน้าและตัวแทนค้าต่างในกิจการทุกประเภทในการติดต่อขายข้าวให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศทางห้างโจทก์เสนอราคาขายข้าวโดยบวกค่าระวางบรรทุก ค่าประกันและค่านายหน้ารวมเข้าไปด้วย แต่โจทก์ไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ส่งข้าวออกไปขายต่างประเทศ และไม่ได้ขออนุญาตต่อทางราชการได้ความว่าโรงสีเป็นผู้ขออนุญาตส่งข้าวไปขายต่างประเทศเป็นผู้ขออนุญาตนำเงินตราต่างประเทศเท่าราคาข้าวที่ขายเข้ามาในประเทศ ทั้งเป็นผู้ปฏิบัติตามพิธีการส่งออกของกรมศุลกากร เสียภาษีศุลกากร ค่าพรีเมี่ยม และภาษีการค้าข้าว กระสอบบรรจุข้าวส่งไปขายต่างประเทศก็มีตราของผู้ซื้อประทับอยู่ แสดงว่าโรงสีรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ซื้อตัวจริงในต่างประเทศโจทก์อ้างว่าโรงสีขายข้าวให้โจทก์ แต่การซื้อขายไม่มีการวางมัดจำหรือทำสัญญาซื้อขายข้าวกันโจทก์ไม่มีโกดังเก็บข้าวเองเมื่อโรงสีส่งมอบข้าวแล้วโจทก์ยังไม่ชำระเงินค่าข้าวประกอบกับเลตเตอร์ออฟเครดิตที่ผู้ซื้อในต่างประเทศส่งมาชำระค่าข้าวนั้นโจทก์จะรับเอาทั้งหมดไม่ได้คงรับได้เฉพาะส่วนที่เป็นผลประโยชน์ของโจทก์เองเท่านั้นพฤติการณ์เหล่านี้แสดงว่าโจทก์เพียงแต่ทำการเป็นนายหน้าหรือตัวแทน หรือรับจัดธุรกิจจัดการให้โรงสีและผู้ซื้อในต่างประเทศได้ซื้อขายกันแม้บางเดือนมีการขาดทุนเพราะคำนวณค่าใช้จ่ายผิดพลาดบ้างการกระทำของโจทก์ก็เข้าลักษณะเป็นการประกอบการค้าประเภทนายหน้าตามประมวลรัษฎากรหาใช่โจทก์เป็นผู้ขายข้าวส่งต่างประเทศเองไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1388/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831-833/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บอกเลิกสัญญาเช่าไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ
บอกเลิกการเช่าตาม มาตรา 566 ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาในคดีเช่าทรัพย์สิน: อุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้าม
คดีฟ้องเรียกค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์อันมีทุนทรัพย์ไม่เกินสองหมื่นบาท และขอให้ขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในขณะยื่นคำฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละสองพันบาท จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วให้ยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ดังนี้ เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 3 และต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 7 ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยยิงผู้ลักแตงเกินกว่าเหตุป้องกันสิทธิ ย่อมมีเจตนาพยายามฆ่า
ผู้เสียหายกับพวกเข้าไปลักแตงในไร่ของจำเลยในเวลากลางคืน จำเลยใช้อาวุธปืน .22 ยิงผู้เสียหายขณะผู้เสียหายกับพวกวิ่งหนี ถูกที่หลังกระสุนฝังใน การที่จำเลยยิงผู้เสียหายโดยเหตุที่ผู้เสียหายลักแตง 2-3 ใบราคาเล็กน้อย กระสุนถูกที่สำคัญตรงหน้าอก ย่อมเล็งเห็นได้ว่ามีเจตนาจะฆ่า จึงเป็นการกระทำที่เกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายเพื่อป้องกันสิทธิของตนเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดคดีอาญาเนื่องจากกฎหมายที่ใช้บังคับถูกยกเลิกภายหลังการกระทำผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2511 มาตรา 75 ต่อมาเมื่อคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2511 อันเป็นบทบัญญัติการกระทำอันเป็นความผิดได้ถูกยกเลิกโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน กรณีจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(5) สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับคดีอาญาเนื่องจากกฎหมายที่ใช้ลงโทษถูกยกเลิกภายหลังการกระทำผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2511 มาตรา 75 ต่อมาเมื่อคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2511 อันเป็นบทบัญญัติการกระทำอันเป็นความผิดได้ถูกยกเลิกโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินกรณีจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (5) สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการท้าสาบานในคดีแพ่ง: การไม่กล้าสาบานถือเป็นการยอมแพ้ตามที่ตกลงกัน
คู่ความตกลงกันให้ถือเอาข้อแพ้ชนะจากการที่จำเลยกับพวกอีก 2 คน กล้าสาบานและดื่มน้ำสาบานหรือไม่ ถึงวันนัด ว. พวกของจำเลยคนหนึ่งใน 2 คน ไม่ยอมสาบานและดื่มน้ำสาบาน โดยแถลงต่อศาลว่าไม่กล้าสาบานและดื่มน้ำสาบานเพราะบุตรห้ามเกรงว่าคำสาบานจะติดถึงลูกหลานแม้จะอ้างเหตุดังกล่าวก็เป็นที่แน่นอนว่าไม่กล้าสาบานและดื่มน้ำสาบาน คดีต้องเป็นไปตามที่คู่ความได้ท้ากันทุกประการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการท้าสาบานในคดีแพ่ง: การไม่ยอมสาบานถือเป็นการยอมแพ้ตามข้อตกลง
คู่ความตกลงกันให้ถือเอาข้อแพ้ชนะจากการที่จำเลยกับพวกอีก 2 คนกล้าสาบานและดื่มน้ำสาบานหรือไม่ ถึงวันนัด ว.พวกของจำเลยคนหนึ่งใน 2 คนไม่ยอมสาบานและดื่มน้ำสาบาน โดยแถลงต่อศาลว่าไม่กล้าสาบานและดื่มน้ำสาบาน เพราะบุตรห้ามเกรงว่าคำสาบานจะติดถึงลูกหลาน แม้จะอ้างเหตุดังกล่าวก็เป็นที่แน่นอนว่าไม่กลัวสาบานและดื่มน้ำสาบาน คดีต้องเป็นไปตามที่คู่ความได้ท้ากันทุกประการ
of 205