คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ขจร หะวานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแรงงาน: การใช้สิทธิเรียกร้องค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย หรือตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงาน
ฟ้องโจทก์ในชั้นแรกขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชย ค่าเสียหาย และเงินโบนัส พร้อมทั้งดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์แถลงไม่ติดใจเรียกค่าเสียหายและเงินโบนัสกับดอกเบี้ย คำขอท้ายฟ้องของโจทก์จึงเหลือเพียงข้อเดียวคือเรียกให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยเพราะเลิกจ้างโจทก์อันเป็นการอาศัยสิทธิตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน หาใช่เป็นการ ฟ้อง ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแรงงาน: การพิจารณาช่วงเวลาบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย
ฟ้องโจทก์ในชั้นแรกขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยค่าเสียหาย และเงินโบนัส พร้อมทั้งดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์แถลงไม่ติดใจเรียกค่าเสียหาย และเงินโบนัสกับดอกเบี้ย คำขอท้ายฟ้องของโจทก์จึงเหลือเพียงข้อเดียว คือเรียกให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยเพราะเลิกจ้างโจทก์อันเป็นการอาศัยสิทธิ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน หาใช่เป็นการ ฟ้อง ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานฯ ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม แม้มีการฝ่าฝืนข้อบังคับ แต่ไม่มีเจตนาทุจริต
แม้ตามข้อบังคับของนายจ้างจะกำหนดว่า ลูกจ้างจะเบิกเงินค่าทำ หมันได้ก็ต่อเมื่อภริยาของลูกจ้างได้รับการผ่าตัดทำหมัน แล้ว ก็ตามแต่ การ ที่ ก่อน ลูกจ้าง จะ เบิก เงิน ค่า ทำหมันภริยาของลูกจ้าง มีความตั้งใจ ที่จะทำหมันและได้จ่ายเงินค่าทำหมันไปแล้วเหตุที่ ยังไม่ทำหมันในทันที เนื่องจากเจ็บป่วย ต่อมาหลังจากคลอดบุตรแล้ว แพทย์ก็ได้ทำหมันให้โดยถือเอาหลักฐานการชำระค่าทำหมันเดิม ที่ได้ชำระเงินไว้แล้ว ทั้งนายจ้างก็มิได้จ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างเกินไป จากที่ควรจะต้องจ่าย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำที่ทุจริตต่อหน้าที่ และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ดังนี้ เมื่อนายจ้างไล่ลูกจ้างออกจากงาน จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม แม้ลูกจ้างเบิกเงินค่าทำหมันไม่ตรงตามข้อบังคับ หากมิได้มีเจตนาทุจริตและนายจ้างไม่เสียหาย
แม้ตามข้อบังคับของนายจ้างจะกำหนดว่า ลูกจ้างจะเบิกเงินค่าทำหมันได้ก็ต่อเมื่อภริยาของลูกจ้างได้รับการผ่าตัดทำหมันแล้วก็ตาม แต่การที่ก่อนลูกจ้างจะเบิกเงินค่าทำหมันภริยาของลูกจ้างมีความตั้งใจที่จะทำหมันและได้จ่ายเงินค่าทำหมันไปแล้ว เหตุที่ยังไม่ทำหมันในทันที เนื่องจากเจ็บป่วย ต่อมาหลังจากคลอดบุตรแล้ว แพทย์ก็ได้ทำหมันให้โดยถือเอาหลักฐานการชำระค่าทำหมันเดิมที่ได้ชำระเงินไว้แล้ว ทั้งนายจ้างก็มิได้จ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างเกินไปจากที่ควรจะต้องจ่าย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำที่ทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ดังนี้ เมื่อนายจ้างไล่ลูกจ้างออกจากงาน จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนย้ายลูกจ้างข้ามบริษัทในเครือ ต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เดิมโจทก์ทำงานกับบริษัท อ. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกับบริษัท ช. จำเลยต่อมาจำเลยรับโอนโจทก์มาทำงานกับจำเลยโดยโจทก์ยินยอมโจทก์ย่อมขาดจากการเป็นลูกจ้างของบริษัท อ. และ เป็นลูกจ้างของจำเลยโดยเด็ดขาดนับแต่บัดนั้นการที่จำเลยจะโอน โจทก์กลับไปยังบริษัท อ. อีกจึงต้องได้รับความยินยอมจากโจทก์ เพราะบริษัท อ. เป็นบุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 577

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนย้ายลูกจ้างระหว่างบริษัทในเครือ ต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง หากบริษัทเป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก
เดิมโจทก์ทำงานกับบริษัท อ. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกับบริษัท ช. จำเลยต่อมาจำเลยรับโอนโจทก์มาทำงานกับจำเลยโดยโจทก์ยินยอม โจทก์ย่อมขาดจากการเป็นลูกจ้างของบริษัท อ. และเป็นลูกจ้างของจำเลยโดยเด็ดขาดนับแต่บัดนั้น การที่จำเลยจะโอน โจทก์กลับไปยังบริษัท อ. อีกจึงต้องได้รับความยินยอมจากโจทก์ เพราะบริษัท อ. เป็นบุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 577

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม การละเมิดสิทธิลูกจ้าง และการคำนวณค่าชดเชย
แม้การลงหมายเลขสมาชิกสหกรณ์ในใบเสร็จรับเงินสด จะมีผลให้พี่สาวโจทก์เจ้าของหมายเลขสมาชิกได้รับเงินปันผล หรือเงินเฉลี่ยคืน แต่เงินดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์สินของบริษัทจำเลย บริษัทจำเลยไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินนี้ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ ของที่ซื้อจากร้านสหกรณ์ก็ได้นำไปใช้ในบริษัทจำเลยทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดนำไปใช้ส่วนตัว ทั้งมีราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปไม่ทำให้ บริษัทจำเลยเสียหายจากการซื้อสินค้านั้น ดังนั้น การที่บริษัทจำเลย ให้โจทก์ออกจากงานเพราะเหตุดังกล่าวจึงเป็นการเลิกจ้างโดยโจทก์ไม่มีความผิด เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม
การที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างนั้นหาเป็นการละเมิดตามกฎหมายไม่ หากแต่เป็นสิทธิของนายจ้างที่จะกระทำได้โดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 582 การกระทำละเมิดอันจะอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลแรงงานนั้นต้องสืบเนื่องมาจากข้อพิพาทแรงงานหรือเกี่ยวกับการทำงานตามสัญญาจ้างแรงงาน คดีนี้ไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำการอย่างใดอันจะเป็นการละเมิดเกี่ยวกับการทำงานของโจทก์ ฉะนั้น ศาลแรงงานกลางจึงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาตามมาตรา 8(5) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน ฯ
จำเลยอุทธรณ์เรื่องจำนวนค่าชดเชยว่าคำนวณไม่ถูกต้อง ข้ออุทธรณ์นี้จำเลยได้ให้การต่อสู้คดีไว้แล้ว และศาลก็ได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์มีสิทธิเรียกค่าชดเชยหรือไม่เพียงใด แต่ศาลแรงงานกลางมิได้หยิบยกขึ้นพิจารณาและการคำนวณค่าชดเชยนั้นยังโต้เถียงกันอยู่ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยในประเด็นข้อนี้แล้ว พิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมและการพิจารณาค่าชดเชย: การกระทำที่ไม่เข้าข่ายละเมิดและอำนาจศาลแรงงาน
แม้การลงหมายเลขสมาชิกสหกรณ์ในใบเสร็จรับเงินสด จะมีผลให้พี่สาวโจทก์เจ้าของหมายเลขสมาชิกได้รับเงินปันผล หรือเงินเฉลี่ยคืนแต่เงินดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์สินของบริษัทจำเลยบริษัทจำเลยไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินนี้เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ ของที่ซื้อจากร้านสหกรณ์ก็ได้นำไปใช้ในบริษัทจำเลยทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดนำไปใช้ส่วนตัวทั้งมีราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปไม่ทำให้ บริษัทจำเลยเสียหายจากการซื้อสินค้านั้นดังนั้นการที่บริษัทจำเลย ให้โจทก์ออกจากงานเพราะเหตุดังกล่าวจึงเป็นการเลิกจ้างโดยโจทก์ไม่มีความผิดเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม การที่นายจ้างเลิกจ้างนั้นหาเป็นการละเมิดตามกฎหมายไม่หากแต่เป็นสิทธิของนายจ้างที่จะกระทำได้โดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 582 การกระทำละเมิด อันจะอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลแรงงานนั้นต้องสืบเนื่อง มาจากข้อพิพาทแรงงานหรือเกี่ยวกับการทำงานตามสัญญาจ้างแรงงาน คดีนี้ไม่ ปรากฏว่าจำเลยกระทำการอย่างใดอันจะเป็นการละเมิดเกี่ยวกับการทำงานของโจทก์ฉะนั้นศาลแรงงานกลางจึงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาตามมาตรา 8(5) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ จำเลยอุทธรณ์เรื่องจำนวนค่าชดเชยว่าคำนวณไม่ถูกต้องข้ออุทธรณ์นี้จำเลยได้ให้การต่อสู้คดีไว้แล้วและศาลก็ได้กำหนดประเด็นข้อพิพาท ว่าโจทก์มีสิทธิเรียกค่าชดเชยหรือไม่เพียงใด แต่ศาลแรงงานกลาง มิได้หยิบยกขึ้นพิจารณาและการคำนวณค่าชดเชยนั้นยังโต้เถียงกันอยู่ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยในประเด็นข้อนี้แล้ว พิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1307/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฝ่ายเดียวในการยินยอมให้หักเงินเดือน: สิทธิของนายจ้างในการชดใช้ค่าเสียหายจากลูกจ้าง
โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยได้ยินยอมลงชื่อในเอกสารที่มีใจความว่าโจทก์สัญญาว่าจะไม่ประพฤติการต่าง ๆ ให้เป็นที่เสียหายต่อจำเลย หากทำให้จำเลยเสียหายยอมให้จำเลยหักเอาจากเงินที่โจทก์มีสิทธิได้รับจากจำเลยได้ ไม่มีข้อความตอนใดที่แสดงว่าโจทก์จะเรียกร้องสิ่งใดจากจำเลยได้บ้าง และไม่มีกฎหมายบังคับว่าความยินยอมของลูกจ้างเช่นนี้จะต้องทำตามแบบอย่างไร ดังนั้นเพียงแต่โจทก์แสดงเจตนาฝ่ายเดียวก็เป็นการเพียงพอที่จะทำให้จำเลยมีสิทธิหักเงินเดือนของโจทก์มาชดใช้เงินค่าอาหารและค่าอุปกรณ์การเรียนของบุตรที่โจทก์เบิกไปโดยไม่มีสิทธิได้ โดยจำเลยไม่จำเป็นต้องลงชื่อในเอกสารดังกล่าวด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1307/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมลูกจ้างให้หักเงินชดใช้ค่าเสียหาย แม้ไม่มีการลงชื่อคู่สัญญา ก็มีผลผูกพันได้ หากแสดงเจตนาชัดเจน
โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยได้ยินยอมลงชื่อในเอกสารที่มีใจความว่าโจทก์สัญญาว่าจะไม่ประพฤติการต่าง ๆ ให้เป็นที่เสียหายต่อจำเลยหากทำให้จำเลยเสียหายยอมให้จำเลยหักเอาจากเงินที่โจทก์มีสิทธิได้รับจากจำเลยได้ไม่มีข้อความตอนใดที่แสดงว่าโจทก์จะเรียกร้องสิ่งใดจากจำเลยได้บ้างและไม่มีกฎหมายบังคับว่าความยินยอมของลูกจ้างเช่นนี้จะต้องทำตามแบบอย่างไรดังนั้นเพียงแต่โจทก์แสดงเจตนาฝ่ายเดียวก็เป็นการเพียงพอที่จะทำให้จำเลยมีสิทธิหักเงินเดือนของโจทก์มาชดใช้เงินค่าอาหารและค่าอุปกรณ์การเรียนของบุตรที่โจทก์เบิกไปโดยไม่มีสิทธิได้โดยจำเลยไม่จำเป็นต้องลงชื่อในเอกสารดังกล่าวด้วย
of 205