พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินบำเหน็จกับการจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน การจ่ายเงินบำเหน็จถือเป็นการจ่ายค่าชดเชยแล้ว
คำสั่งของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ออกมาเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ. 2499 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นมิได้ออกโดยอาศัยพระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนั้น การที่ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 19 มายกเลิกพระราชบัญญัติ นี้ จึงหากระทบกระเทือนถึงคำสั่งนั้นไม่
คำสั่งที่มีความว่า ในกรณีที่พนักงานประจำมีสิทธิได้รับทั้งเงินชดเชยและเงินบำเหน็จ ถ้าเงินบำเหน็จมากกว่าเงินชดเชย ให้ตัดเงินบำเหน็จออกเท่ากับจำนวนเงินชดเชยแต่ถ้าเงินบำเหน็จน้อยกว่าเงินชดเชยให้ได้รับแต่เงินชดเชยอย่างเดียวนั้น ถือได้ว่าได้จ่ายเงินชดเชยให้เช่นกันเพียงแต่จ่ายรวมไปกับเงินบำเหน็จเท่านั้น และในกรณีเงินบำเหน็จน้อยกว่าเงินชดเชยก็จะจ่ายเงินบำเหน็จให้เท่ากับเงินชดเชย ดังนี้ การจ่ายเงินบำเหน็จดังกล่าวจึงเป็นการจ่ายเงินชดเชยรวมไปด้วย
คำสั่งที่มีความว่า ในกรณีที่พนักงานประจำมีสิทธิได้รับทั้งเงินชดเชยและเงินบำเหน็จ ถ้าเงินบำเหน็จมากกว่าเงินชดเชย ให้ตัดเงินบำเหน็จออกเท่ากับจำนวนเงินชดเชยแต่ถ้าเงินบำเหน็จน้อยกว่าเงินชดเชยให้ได้รับแต่เงินชดเชยอย่างเดียวนั้น ถือได้ว่าได้จ่ายเงินชดเชยให้เช่นกันเพียงแต่จ่ายรวมไปกับเงินบำเหน็จเท่านั้น และในกรณีเงินบำเหน็จน้อยกว่าเงินชดเชยก็จะจ่ายเงินบำเหน็จให้เท่ากับเงินชดเชย ดังนี้ การจ่ายเงินบำเหน็จดังกล่าวจึงเป็นการจ่ายเงินชดเชยรวมไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางวินัยลูกจ้าง กรณีสั่งการงานเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุมัติ และความรับผิดชอบในการแก้ไขอุปสรรคโครงการ
โจทก์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองวิชาการและวางแผน และผู้อำนวยการโครงการระบบขนส่งมวลชนของจำเลย มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณาแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานตามโครงการของจำเลย เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้สั่งการให้ บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาของจำเลยสำรวจออกแบบเพิ่มเติมนอกเหนือสัญญา แต่กลับได้ความว่า โจทก์ได้สั่งให้บริษัทเสนอราคาทำงานทำความตกลงกับจำเลยก่อนลงมือทำงาน แต่บริษัทได้ทำการสำรวจออกแบบไปก่อนเอง ประกอบกับจำเลยก็มิได้ยอมรับการทำงานเพิ่มของบริษัทและปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเพิ่ม ดังนี้จะถือว่าการปฏิบัติงานของโจทก์เป็นการผิดวินัยตามข้อบังคับของจำเลยมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางวินัยลูกจ้าง กรณีสั่งการงานเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุมัติ ศาลยกเลิกคำสั่งตัดเงินเดือน
โจทก์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองวิชาการและวางแผน และผู้อำนวยการโครงการระบบขนส่งมวลชนของจำเลย มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณาแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานตามโครงการของจำเลย เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้สั่งการให้บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาของจำเลยสำรวจออกแบบเพิ่มเติมนอกเหนือสัญญาแต่กลับได้ความว่า โจทก์ได้สั่งให้บริษัทเสนอราคาทำงานทำความตกลงกับจำเลยก่อนลงมือทำงาน แต่บริษัทได้ทำการสำรวจออกแบบไปก่อนเอง ประกอบกับจำเลยก็มิได้ยอมรับการทำงานเพิ่มของบริษัทและปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเพิ่ม ดังนี้จะถือว่าการปฏิบัติงานของโจทก์เป็นการผิดวินัยตามข้อบังคับของจำเลยมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงค่าจ้างรวมค่าล่วงเวลา ไม่ขัดต่อกฎหมาย ตราบเท่าที่ไม่เป็นการสละสิทธิ
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำและประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มิได้กำหนดห้ามนายจ้างและลูกจ้างตกลงจ้างกันโดยคิดค่าจ้างและค่าล่วงเวลารวมกันไปในตัว นายจ้างและลูกจ้างจึงย่อมตกลงกันได้และมิใช่เป็นกรณีตกลงทำนองให้ลูกจ้างสละสิทธิในค่าล่วงเวลา จึงไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงค่าจ้างรวมค่าล่วงเวลา ไม่ขัดกฎหมาย หากลูกจ้างไม่สละสิทธิ
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำและประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มิได้กำหนดห้ามนายจ้างและลูกจ้างตกลงจ้างกันโดยคิดค่าจ้างและค่าล่วงเวลารวมกันไปในตัว นายจ้างและลูกจ้างจึงย่อมตกลงกันได้และมิใช่เป็นกรณีตกลงทำนองให้ลูกจ้างสละสิทธิในค่าล่วงเวลา จึงไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1095/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินสะสมของลูกจ้างกับค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานเป็นสิทธิแยกต่างหาก แม้ข้อบังคับบริษัทจะระบุรวมกัน
เงินสะสมที่จำเลยจ่ายให้โจทก์มีหลักเกณฑ์การจ่ายแตกต่างไปจากค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ฯ จึงเป็นเงินคนละประเภทกับค่าชดเชยแม้ข้อบังคับของจำเลยว่าด้วยเงินทุนสะสม ฯ จะกำหนดว่าเงินสะสมที่โจทก์ได้รับมีค่าชดเชยรวมอยู่ด้วยก็ไม่มีผลบังคับ เพราะขัดกับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ซึ่งมีผลบังคับเป็นกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1095/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินสะสมของลูกจ้างและค่าชดเชยเป็นสิทธิแยกต่างหาก แม้ข้อบังคับบริษัทจะรวมไว้ด้วยก็ใช้ไม่ได้
เงินสะสมที่จำเลยจ่ายให้โจทก์มีหลักเกณฑ์การจ่ายแตกต่างไปจากค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ฯ จึงเป็นเงินคนละประเภทกับค่าชดเชย แม้ข้อบังคับของจำเลยว่าด้วยเงินทุนสะสม ฯ จะกำหนดว่าเงินสะสมที่โจทก์ได้รับมีค่าชดเชยรวมอยู่ด้วยก็ไม่มีผลบังคับ เพราะขัดกับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานซึ่งมีผลบังคับเป็นกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างอันไม่เป็นธรรมหลังข้อตกลงสหภาพฯ และการใช้ดุลพินิจกำหนดค่าเสียหาย
เมื่อสหภาพแรงงานยื่นข้อเรียกร้องต่อนายจ้างและตกลงกันได้ ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงคือสมาชิกสหภาพแรงงานซึ่งยื่นข้อเรียกร้องนั้น จึงถือได้ว่าสมาชิกสหภาพแรงงานเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องที่สหภาพแรงงานยื่นต่อนายจ้าง ย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 123 การที่นายจ้างเลิกจ้างในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับจึงเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 41(4) มิได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการสั่งเรื่องค่าเสียหายในกรณีเลิกจ้างอันเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมได้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จึงย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะกำหนดค่าเสียหายให้ลูกจ้างตามที่เห็นสมควรได้
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 41(4) มิได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการสั่งเรื่องค่าเสียหายในกรณีเลิกจ้างอันเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมได้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จึงย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะกำหนดค่าเสียหายให้ลูกจ้างตามที่เห็นสมควรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างอันไม่เป็นธรรมและการคุ้มครองลูกจ้างตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีอำนาจกำหนดค่าเสียหายตามดุลพินิจ
เมื่อสหภาพแรงงานยื่นข้อเรียกร้องต่อนายจ้างและตกลงกันได้ ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงคือสมาชิกสหภาพแรงงานซึ่งยื่นข้อเรียกร้องนั้น จึงถือได้ว่าสมาชิกสหภาพแรงงานเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องที่สหภาพแรงงานยื่นต่อนายจ้าง ย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 123 การที่นายจ้างเลิกจ้างในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับจึงเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 41(4) มิได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการสั่งเรื่องค่าเสียหายในกรณีเลิกจ้างอันเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมได้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จึงย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะกำหนดค่าเสียหายให้ลูกจ้างตามที่เห็นสมควรได้
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 41(4) มิได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการสั่งเรื่องค่าเสียหายในกรณีเลิกจ้างอันเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมได้คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จึงย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะกำหนดค่าเสียหายให้ลูกจ้างตามที่เห็นสมควรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1024/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายลดเช็คไม่สมบูรณ์ ทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องในฐานะผู้ทรงเช็ค
จำเลยนำเช็คไปขายลดให้แก่โจทก์ แต่เจ้าหน้าที่ของโจทก์จ่ายเงินให้แก่ผู้อื่นไปโดยบกพร่องต่อหน้าที่อันส่อไปในทางไม่สุจริต โจทก์จำต้องรับผิดในการที่จำเลยไม่ได้รับเงินค่าขายลดเช็ค การขายลดเช็คยังไม่สมบูรณ์เพราะถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้จ่ายเงินค่าขายลดเช็คให้จำเลยตามสัญญาขายลดเช็ค. โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้เงินตามเช็คดังกล่าวได้