คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ขจร หะวานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,047 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4051/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีภาษีโรงเรือน: ต้องชำระภาษีประเมินก่อนฟ้อง
โจทก์ได้รับทราบคำชี้ขาดของจำเลยให้เสียภาษีตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยประเมินไว้แล้ว โจทก์ไม่พอใจคำชี้ขาดของจำเลย แต่โจทก์ไม่ยอมชำระค่าภาษีตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยประเมินไว้ กลับนำคดีมาฟ้องจำเลยต่อศาลว่าการประเมินไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติมาตรา 31 การที่โจทก์ฟ้องจำเลยดังกล่าวจึงต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 39 คือโจทก์ต้องชำระค่าภาษีให้จำเลยไปก่อน เมื่อโจทก์ไม่ชำระค่าภาษีตามที่จำเลยประเมินไว้ก่อนฟ้องเช่นนี้ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ศาลจะรับไว้พิจารณาไม่ได้ และศาลไม่อาจที่จะสั่งให้โจทก์นำค่าภาษีมาชำระหลังจากฟ้องแล้วได้ ถือได้ว่าโจทก์ยังไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4032/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างสำหรับคำนวณค่าชดเชยและค่าเสียหายจากการเลิกจ้าง ต้องเป็นเงินที่นายจ้างจ่ายโดยตรง
เมื่อเงินเพิ่มตามวุฒิและค่าครองชีพเป็นเงินของกระทรวงศึกษาธิการซึ่งมิใช่นายจ้างของโจทก์จ่ายให้โจทก์เงินดังกล่าวจึงมิใช่ค่าจ้าง เพราะมิใช่เป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้าง จึงไม่ต้องนำมาเป็นเกณฑ์คำนวณค่าชดเชยและเงินที่ต้องจ่ายแทนการบอกเลิกการจ้างล่วงหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4032/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าชดเชยและเงินทดแทนการบอกเลิกจ้าง คำนวณจากค่าจ้างที่นายจ้างจ่ายเท่านั้น เงินจากหน่วยงานอื่นไม่รวม
เมื่อเงินเพิ่มตามวุฒิและค่าครองชีพเป็นเงินของกระทรวงศึกษาธิการซึ่งมิใช่นายจ้างของโจทก์จ่ายให้โจทก์เงินดังกล่าวจึงมิใช่ค่าจ้าง เพราะมิใช่เป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้าง จึงไม่ต้องนำมาเป็นเกณฑ์คำนวณค่าชดเชยและเงินที่ต้องจ่ายแทนการบอกเลิกการจ้างล่วงหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3999/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างและค่าชดเชย: การกระทำของลูกจ้างที่มิอาจถือเป็นความผิดร้ายแรง
โจทก์เล่นหมากรุกในเวลาทำงาน จำเลยได้ออกหนังสือเตือนโจทก์แล้ว โจทก์ปฏิเสธไม่ยอมลงนามรับทราบหนังสือเตือนจำเลยก็แจ้งให้โจทก์ทราบด้วยวิธีปิดประกาศ และการที่โจทก์นำหนังสือเตือนไปวางบนโต๊ะทำงานต่อหน้าผู้จัดการโรงงานซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา แม้จะมีลักษณะเป็นการท้าทายไม่เคารพผู้บังคับบัญชา เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับแต่ก็เป็นการกระทำเพื่อแสดงการปฏิเสธไม่ยอมลงนามรับทราบหนังสือเตือนและเป็นไปด้วยความสงบ ฉะนั้นพฤติการณ์ของโจทก์ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งและระเบียบข้อบังคับอันเป็นกรณีที่ร้ายแรง หรือกระทำความผิดอย่างร้ายแรงตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47(3) หรือป.พ.พ. ม.583

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3997/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างงานไม่มีกำหนดระยะเวลา สิทธิการรับค่าชดเชยเมื่อเลิกจ้าง
เอกสารของจำเลยที่ตอบรับโจทก์เข้าทำงานไม่ปรากฏว่าโจทก์และจำเลยตกลงจ้างกันเป็นกำหนดระยะเวลาเท่าใด ข้อความเกี่ยวกับเงินโบนัสก็เป็นเพียงเงื่อนไขว่ากรณีที่โจทก์ปฏิบัติงานจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมก็จะได้รับเงินโบนัสเท่ากับเงินเดือน 2 เดือนเท่านั้น ข้อความดังกล่าวมิได้แสดงว่าจำเลยตกลงจ้างโจทก์จนถึงเดือนธันวาคม ทั้งข้อตกลงที่ว่าในวันสุดท้ายของการสิ้นสุดตามสัญญาจะจ่ายเงินชดเชยให้ตามกฎหมายแรงงาน ก็เป็นเพียงข้อตกลงที่จำเลยทั้งสองยอมจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์เมื่อสิ้นสุดตามสัญญาซึ่งเกิดขึ้นได้ในกรณีบอกกล่าวเลิกสัญญาตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น ข้อความในเอกสารดังกล่าวจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยจ้างโจทก์ไว้โดยมีกำหนดระยะเวลาการจ้างแน่นอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3996/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนัดหยุดงานของลูกจ้างทำให้ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในช่วงเวลาที่นัดหยุดงานและนายจ้างปิดงานตอบโต้
การนัดหยุดงานเป็นมาตรการที่ลูกจ้างกระทำเพื่อบีบบังคับให้นายจ้างต้องยอมตามข้อเรียกร้องของฝ่ายลูกจ้าง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กิจการของนายจ้าง นายจ้างไม่ได้รับประโยชน์จากแรงงานของลูกจ้าง การจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทนโดยลูกจ้างมีหน้าที่ต้องทำงานให้แก่นายจ้างและนายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง การที่ลูกจ้างนัดหยุดงานย่อมจะต้องเล็งเห็นความเสียหายอันจะเกิดแก่นายจ้าง และลูกจ้างก็ต้องยอมรับผลแห่งการที่ไม่ได้ทำงานแก่นายจ้างด้วย ดังนั้น เมื่อทั้งลูกจ้างซึ่งนัดหยุดงานและนายจ้างก็ปิดงานเป็นการโต้ตอบกันโดยสมัครใจและถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานแล้วจึงเรียกร้องสิทธิอันจะพึงเกิดจากการจ้างแรงงานหาได้ไม่ ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างนัดหยุดงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3996/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนัดหยุดงานและการปิดงานโดยนายจ้างทำให้ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในช่วงเวลาดังกล่าว
การนัดหยุดงานเป็นมาตรการที่ลูกจ้างกระทำเพื่อบีบบังคับให้นายจ้างต้องยอมตามข้อเรียกร้องของฝ่ายลูกจ้าง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กิจการของนายจ้าง นายจ้างไม่ได้รับประโยชน์จากแรงงานของลูกจ้าง การจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทนโดยลูกจ้างมีหน้าที่ต้องทำงานให้แก่นายจ้างและนายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง การที่ลูกจ้างนัดหยุดงานย่อมจะต้องเล็งเห็นความเสียหายอันจะเกิดแก่นายจ้าง และลูกจ้างก็ต้องยอมรับผลแห่งการที่ไม่ได้ทำงานแก่นายจ้างด้วย ดังนั้น เมื่อทั้งลูกจ้างซึ่งนัดหยุดงานและนายจ้างก็ปิดงานเป็นการโต้ตอบกันโดยสมัครใจและถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานแล้วจึงเรียกร้องสิทธิอันจะพึงเกิดจากการจ้างแรงงานหาได้ไม่ ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างนัดหยุดงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3920/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานอัยการรับแก้ต่างให้เจ้าพนักงานที่ถูกฟ้อง ย่อมเป็นไปตามดุลพินิจที่กฎหมายให้อำนาจ แม้โจทก์มิได้ระบุฐานะเจ้าพนักงานในฟ้อง
แม้โจทก์จะมิได้กล่าวไว้ในคำฟ้องว่าได้ฟ้องจำเลยในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน แต่เมื่อเจ้าพนักงานอัยการพิจารณาเห็นว่าจำเลยถูกฟ้องเนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติตามหน้าที่และเห็นสมควรรับแก้ต่างให้แล้ว พนักงานอัยการก็มีอำนาจรับเป็นทนายความแก้ต่างให้จำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาใด เพราะมาตรา 11(3) แห่งพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. 2494 ให้อำนาจแก่พนักงานอัยการที่จะใช้ดุลพินิจตามที่เห็นสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3908/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกจ้างทุจริตต่อหน้าที่เบียดบังเงินค่าฤชาธรรมเนียม จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
โจทก์เป็นผู้จัดการสำนักกฎหมายของจำเลยมีหน้าที่ดำเนินคดีแทนจำเลยโจทก์เบิกเงินค่าฤชาธรรมเนียมในการดำเนินคดีตามหน้าที่ของโจทก์เหลือเท่าใดโจทก์ต้องคืนให้จำเลย โจทก์ถอนฟ้อง ศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลเป็นเงิน 39,283 บาทโจทก์มีหน้าที่ต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวคืนให้จำเลย แต่โจทก์กลับเบียดบังเอาไว้เป็นของตน ถือได้ว่าโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 47(1)จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3908/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทุจริตต่อหน้าที่ของลูกจ้างผู้จัดการสำนักกฎหมาย และผลกระทบต่อสิทธิรับค่าชดเชย
โจทก์เป็นผู้จัดการสำนักกฎหมายของจำเลยมีหน้าที่ดำเนินคดีแทนจำเลยโจทก์เบิกเงินค่าฤชาธรรมเนียมในการดำเนินคดีตามหน้าที่ของโจทก์เหลือเท่าใดโจทก์ต้องคืนให้จำเลย โจทก์ถอนฟ้อง ศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลเป็นเงิน 39,283 บาทโจทก์มีหน้าที่ต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวคืนให้จำเลย แต่โจทก์กลับเบียดบังเอาไว้เป็นของตน ถือได้ว่าโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 47 (1)จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์
of 205