คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประภาศน์ อวยชัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 318 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2447/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่านาเดิมก่อนพ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา ใช้บังคับ สิทธิการเช่ายังคงอยู่ แม้มีการโอนกรรมสิทธิ์
โจทก์ทำสัญญาเช่านาจำเลยก่อนพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 ใช้บังคับ เมื่อสัญญานี้ยังไม่ระงับ และเป็นสัญญาที่มีกำหนดเวลาต่ำกว่า 6 ปี จึงมีผลให้การเช่ามีกำหนดเวลา 6 ปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ
การโอนกรรมสิทธิ์นาที่ให้เช่าหาทำให้สัญญาเช่าระงับไปไม่ ผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2430/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรรมการสมาคม, การใช้เงินผิดหน้าที่, และความรับผิดของผู้จัดการสมาคมต่อความเสียหาย
สมาคมชลประทานราษฎร์มีข้อบังคับให้นายอำเภอเป็นประธานกรรมการควบคุมโดยตำแหน่ง กรมการปกครองตั้งกรรมการสอบสวนหนี้สินของสมาคมได้ ถือว่าสมาคมมอบอำนาจให้กรรมการสอบสวนและฟังผลการสอบสวนเป็นพยานหลักฐานได้ จำเลยเป็นผู้จัดการสมาคมจ่ายเงินของสมาคมใช้หนี้ที่สมาชิกเป็นลูกหนี้คนภายนอกซึ่งสมาคมมิได้เป็นลูกหนี้ กับขายปุ๋ยและเครื่องทุ่นแรงให้สมาชิกไปโดยไม่มีสัญญาเป็นหลักฐาน ทำให้สมาคมเสียหายจำเลยต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2419/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาและการพ้นกำหนดเวลายื่นคำร้องอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาของโจทก์นั้น ชอบที่ศาลชั้นต้นจะส่งไปให้ศาลฎีกาพิจารณา การที่ศาลชั้นต้นส่งไปยังศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์พิพากษาไปนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อันเกี่ยวกับคำร้องของโจทก์นั้นเสีย
ฎีกาของโจทก์ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับนั้น โจทก์จะต้องฎีกาเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันฟังคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 การที่โจทก์ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2519 และในแบบพิมพ์ท้ายฎีกามีข้อความว่า "รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว" ทั้งยังปรากฏว่าศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาในวันนั้นเอง ดังนี้ต้องถือว่าโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นในวันนั้น โจทก์เพิ่งมายื่นฎีกาเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2519 ซึ่งพ้นกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว คำร้องอุทธรณ์คำสั่งโจทก์จึงต้องห้าม ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2419/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับฎีกาต้องยื่นภายในกำหนด และการส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
คำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาของโจทก์นั้น ชอบที่ศาลชั้นต้นจะส่งไปให้ศาลฎีกาพิจารณา การที่ศาลชั้นต้นส่งไปยังศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์พิพากษาไปนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อันเกี่ยวกับคำร้องของโจทก์นั้นเสีย
ฎีกาของโจทก์ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับนั้น โจทก์จะต้องฎีกาเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันฟังคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 224 การที่โจทก์ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2519 และในแบบพิมพ์ท้ายฎีกามีข้อความว่า "รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว" ทั้งยังปรากฏว่าศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาในวันนั้นเอง ดังนี้ ต้องถือว่าโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นในวันนั้นโจทก์เพิ่งมายื่นฎีกาเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2519 ซึ่งพ้นกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว คำร้องอุทธรณ์คำสั่งโจทก์จึงต้องห้าม ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2413/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กสำเร็จความผิด แม้ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บที่ช่องคลอด
จำเลยเอาของลับใส่เข้าไปในของลับผู้เสียหายอายุ 13 ปี 11 วัน ดันโดยแรง ผู้เสียหายรู้สึกว่าของลับของจำเลยเข้าไปลึกขนาดช่วงนิ้วมือนั้น ดังนี้ ของลับจำเลยได้ล่วงล้ำเข้าไปในของลับผู้เสียหายแล้วจึงเป็นความผิดสำเร็จ หาจำเป็นจะต้องมีรอยฉีกขาดที่ช่องคลอด ปากมดลูก หรือที่เยื่อพรหมจารีด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2413/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเราสำเร็จความผิด แม้ไม่มีรอยฉีกขาด
จำเลยเอาของลับใส่เข้าไปในของลับผู้เสียหายอายุ 13 ปี 11 วัน ดันโดยแรง ผู้เสียหายรู้สึกว่าของลับของจำเลยเข้าไปลึกขนาดช่วงนิ้วมือนั้น ดังนี้ ของลับจำเลยได้ล่วงล้ำเข้าไปในของลับผู้เสียหายแล้ว จึงเป็นความผิดสำเร็จ หาจำเป็นจะต้องมีรอยฉีกขาดที่ช่องคลอดปากมดลูก หรือที่เยื่อพรหมจารีด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2403/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางสัญญาขายฝากเป็นหลักฐานการกู้ ดอกเบี้ยเกินอัตรา
กู้เงิน 500,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อเดือน ทำเป็นสัญญาขายฝาก 400,000 บาท ทำเป็นสัญญากู้ 120,000บาท สัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพราง ต้องบังคับตามสัญญากู้โดยใช้สัญญาขายฝากเป็นหลักฐานการกู้ ผู้ซื้อฝากฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ 120,000 บาท ผู้ขายฝากฟ้องแย้งเรียกที่ดินคืนได้ ดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 ต่อปี ต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 จึงเรียกได้แต่ดอกเบี้ยตั้งแต่วันผิดนัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2338/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่มีเงิน - ความรับผิดของผู้ถือเช็ค - การไม่ฟ้องผู้สั่งจ่าย
โจทก์ขายลดและสลักหลังเช็คแก่ธนาคาร ธนาคารเรียกเก็บเงินไม่ได้เพราะผู้สั่งจ่ายไม่มีเงิน ธนาคารหักบัญชีเงินของโจทก์แล้วคืนเช็คแก่โจทก์ ธนาคารเป็นผู้เสียหาย โจทก์เป็นผู้ถือหรือผู้ทรงภายหลังที่ความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯได้เกิดขึ้นแล้ว โจทก์ฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายเช็คไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2328-2329/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยเกินอัตรา, สัญญากู้ใหม่, สิทธิเรียกคืนต้นเงิน
กู้เงินคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ชำระต้นเงินแล้ว ดอกเบี้ยทำเป็นสัญญากู้ขึ้นใหม่ ดังนี้ ผู้ให้กู้ไม่มีสิทธิเรียกต้นเงินที่เกิดจากดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2296/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหย่า, การสมรสโมฆะ, และอายุความแบ่งสินสมรส
สามีภริยาตามกฎหมายเก่าหย่ากันเมื่อใช้กฎหมายใหม่แล้วต้องทำตามแบบใน มาตรา 1498 เดิม
ชายจดทะเบียนกับหญิงระหว่างที่ชายยังมีภริยาตามกฎหมายเก่าอยู่ การสมรสตามที่จดทะเบียนเป็นโมฆะตาม มาตรา 1490 ไม่ใช่การสมรสเดิมขาดจากกัน
ประนีประนอมยอมความระหว่างผู้รับพินัยกรรม ซึ่งโจทก์ผู้เป็นภริยาเจ้ามรดกมิได้รับพินัยกรรมและไม่มีข้อพิพาทด้วย แม้ได้ลงชื่อในบันทึกข้อตกลงด้วยก็ในฐานะรับให้ทรัพย์สินบางอย่าง ไม่ตัดสิทธิโจทก์ขอแบ่งสินสมรสระหว่างโจทก์กับเจ้ามรดก
อายุความแบ่งสินสมรสระหว่างภริยากับเจ้ามรดกผู้ตายไม่ใช่ 1 ปี ตาม มาตรา 1754 แต่ 10 ปีตาม มาตรา 164
of 32