คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประภาศน์ อวยชัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 318 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเผยแพร่ข้อความดูหมิ่นผู้อื่นผ่านหนังสือพิมพ์เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393
ฟ้องว่า จำเลยลงข่าวในหนังสือพิมพ์ช่องสังคมอยุธยา โดยทิดแก้ว ว่า "วันก่อนเกินผ่านตลาดหัวรอได้ยินเสียเจ๊แต๋ว มาดามของคุณประสิทธิ์ มานะประเสริฐศักดิ์ บก. แหลมทอง ตะโกนลั่นกลางตลาดว่า ถ้าคนที่ชื่อสุชาติ บุญเกษม เดินผ่านหน้าร้านเมื่อไร จะถอดรองเท้าตบหน้าสักที เสียเท่าไหร่ก็ยอม จริงหรือเปล่าจ๊ะเจ๊ "ทิดแก้ว" กลัวจะไม่จริงดังปากว่าเท่านั้นแหละ แฮะ ๆ" ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 ข้อความดังนี้เป็นข้อความดูหมิ่น เพราะทำให้ผู้เสียหายบังเกิดความอับอาย เป็นการดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 เป็นการอ้างบทมาตราที่ผิด ศาลลงโทษจำเลยตามมาตรา 393 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดต่อความเสียหายจากลูกจ้างประมาท แม้จะไม่ได้สั่งให้ทำโดยตรง
ลูกจ้างจุดไม้ขีดไฟเพื่อสูบบุหรี่ในขณะขนปี๊บหน่อไม้จากฉางขึ้นรถยนต์ตามคำสั่งของนายจ้าง หัวไม้ขีดที่กำลังติดไฟกระเด็นไปถูกปุยนุ่นและปอในฉาง ทำให้เกิดไฟไหม้ฉางและลามไปไหม้บ้านราษฎรเสียหาย ขณะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างกำลังมีอยู่ ต้องถือว่าการละเมิดเกิดขึ้นขณะในปฏิบัติงานในทางการที่จ้าง ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของลูกจ้างและไม่ไกลเกินกว่าเหตุ นายจ้างต้องรับผิด
กรณีดังกล่าว หากลูกจ้างใช้ความระมัดระวัง โดยพิเคราะห์ดูว่าปุยนุ่นและปอเป็นวัตถุที่ไวต่อการลุกไหม้แล้ว เหตุก็จะไม่เกิดขึ้นได้ กรณีจึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัยหรืออุบัติเหตุอันจะไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย
เมื่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายจ้างไม่ได้อุทธรณ์ว่าผู้ทำละเมิดมิใช่ลูกจ้างของตน ปัญหาข้อนี้จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามมาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดต่อการละเมิดของลูกจ้างขณะปฏิบัติงาน แม้จะเกิดจากความประมาทเลินเล่อ และไม่ใช่เหตุสุดวิสัย
ลูกจ้างจุดไม้ขีดไฟเพื่อสูบบุหรี่ในขณะขนปี๊ปหน่อไม้จากฉางขึ้นรถยนต์ตามคำสั่งของนายจ้าง หัวไม้ขีดที่กำลังติดไฟกระเด็นไปถูกปุยนุ่นและปอในฉางทำให้เกิดไฟไหม้ฉางและลามไปไหม้บ้านราษฎรเสียหายขณะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างกำลังมีอยู่ ต้องถือว่าการละเมิดเกิดขึ้นขณะปฏิบัติงานในทางการที่จ้าง ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของลูกจ้างและไม่ไกลเกินกว่าเหตุ นายจ้างต้องรับผิด
กรณีดังกล่าว หากลูกจ้างใช้ความระมัดระวัง โดยพิเคราะห์ดูว่าปุยนุ่นและปอเป็นวัตถุที่ไวต่อการลุกไหม้แล้วเหตุก็จะไม่เกิดขึ้นได้ กรณีจึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัยหรืออุบัติเหตุอันจะไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย
เมื่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายจ้างไม่ได้อุทธรณ์ว่าผู้ทำละเมิดมิใช่ลูกจ้างของตนปัญหาข้อนี้จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามมาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบ: โจทก์ฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัย แทนที่จะคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสั่งเกี่ยวกับคำร้องขอให้มีการพิจารณาใหม่ของจำเลย แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี โจทก์ฎีกาว่าข้อเท็จจริงควรฟังว่าที่พิพาทเป็นที่ไม่มีโฉนด โจทก์ซื้อและครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 20 ปีโจทก์ฟ้องคดีโดยสุจริต ดังนี้ โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่ามีเหตุผลประการใดที่ศาลอุทธรณ์ไม่ควรพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่กลับไปฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย จึงเป็นฎีกาไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบ: โจทก์ฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงแทนการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสั่งเกี่ยวกับคำร้องขอให้มีการพิจารณาใหม่ของจำเลย แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี โจทก์ฎีกาว่าข้อเท็จจริงควรฟังว่าที่พิพาทเป็นที่ไม่มีโฉนด โจทก์ซื้อและครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 20 ปี โจทก์ฟ้องคดีโดยสุจริต ดังนี้ โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่ามีเหตุผลประการใดที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย จึงเป็นฎีกาไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณภาษีเงินได้กรณีนายจ้างจ่ายภาษีให้ลูกจ้าง ต้องรวมเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อคำนวณภาษีที่ถูกต้อง
เงินได้ที่นายจ้างออกให้เป็นค่าภาษีของลูกจ้างผู้ใดนั้น ก่อนที่จะทราบว่าเป็นเงินได้จำนวนเท่าใด ก็จะต้องทราบเสียก่อนว่าลูกจ้างผู้นั้นจะต้องเสียภาษีเงินได้จากเงินได้พึงประเมินของตนเป็นจำนวนเท่าใด และภาษีเงินได้ที่ลูกจ้างจะต้องเสียจำนวนนี้ หากนายจ้างออกให้ก็จะต้องนำมารวมกับรายได้พึงประเมินเดิมของลูกจ้างเพื่อถือเป็นเงินได้พึงประเมิน.ทั้งสิ้นของลูกจ้าง ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 40(1) แต่จะคำนวณทำนองนี้ต่อไปซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ได้ เพราะจะเป็นการคำนวณภาษีเงินได้ในอัตราที่สูงกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติดและการมีไว้เพื่อจำหน่าย: ไม่ต้องปรับบทลงโทษซ้ำซ้อน
จำเลยขายเฮโรอีน 2 ห่อให้พลตำรวจ ท. ซึ่งปลอมตัวไปซื้อท. ซื้อไปแล้วได้นำพวกกลับไปจับจำเลยได้เฮโรอีนอีก 24 ห่อ เป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่าย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 20ทวิ ซึ่งเป็นบทเฉพาะ ไม่ต้องปรับบทลงโทษฐานมีเฮโรอีนจำนวนเดียวกันนั้นไว้ในความครอบครองตามมาตรา 20 ตรีอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พลุไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนหรืออาวุธ แม้รับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้
พลุสดุดส่องแสงของกลางไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และไม่เป็นอาวุธตามประมวลกฎหมายอาญา
แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้อง แต่เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดเสียแล้ว ก็ย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พลุส่องแสงไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนหรืออาวุธตามกฎหมาย แม้รับสารภาพก็ไม่ผิด
พลุสดุดส่องแสงของกลางไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และไม่เป็นอาวุธตามประมวลกฎหมายอาญา
แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้อง แต่เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดเสียแล้ว ก็ย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำนองกับบุคคลภายนอก: การบังคับจำนองที่ดินที่ขายฝากต้องแจ้งผู้รับโอนก่อน
จำเลยจำนองที่ดินไว้กับโจทก์แล้วนำไปขายฝากแก่ผู้ร้องและไม่ไถ่คืน ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องตั้งแต่วันซื้อฝากโดยมีภารจำนองติดไปด้วย หากโจทก์บังคับจำนอง โจทก์ต้องบอกกล่าวแก่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับโอนล่วงหน้าเดือนหนึ่งก่อน ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 735 เมื่อโจทก์มิได้บอกกล่าวและฟ้องขอบังคับจำนองแก่ผู้ร้อง โจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์พิพาทที่จำเลยจำนองแก่โจทก์ เพราะผู้ร้องเป็นบุคคลนอกคดี สิทธิในการบังคับคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อเห็นสมควรศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)
ข้อตกลงในสัญญาจำนองที่มีเงื่อนไขไม่ให้จำเลยให้สิทธิแก่ผู้อื่นเป็นที่เสื่อมสิทธิของโจทก์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ก่อนนั้นไม่ผูกพันบุคคลภายนอก เมื่อจำเลยฝ่าฝืนข้อสัญญาเอาทรัพย์ที่จำนองไปขายฝากให้ผู้ร้อง หากเกิดความเสียหายแก่โจทก์ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาจำนอง จะฟังว่าผู้ร้องรับซื้อฝากโดยไม่สุจริตหาได้ไม่
of 32