พบผลลัพธ์ทั้งหมด 914 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลทหาร: การพิจารณาคดีอาญาที่จำเลยเป็นทหาร แม้ฟ้องต่อศาลพลเรือน
พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 มาตรา 15 วรรคสอง หมายความว่าขณะที่ศาลพลเรือนสั่งรับประทับฟ้องของโจทก์ ความยังไม่ปรากฏชัดแจ้งว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลทหารหรือไม่ ต่อมาเมื่อศาลพลเรือนได้สั่งรับประทับฟ้องไว้แล้วความจึงปรากฏในภายหลังว่าจำเลยเป็นทหารประจำการ ดังนี้ ศาลพลเรือนย่อมดำเนินการพิจารณาต่อไปได้เท่านั้น หาได้หมายความว่าคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร หากยื่นฟ้องต่อศาลพลเรือนแล้วศาลพลเรือนจะรับไว้พิจารณาพิพากษาหรือไม่ก็ได้
การที่โจทก์นำคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมายื่นฟ้องยังศาลพลเรือนศาลพลเรือนไม่จำต้องสั่งไม่รับขณะที่โจทก์ยื่นฟ้อง (อาจสั่งหลังจากไต่สวนมูลฟ้องแล้วก็ได้)
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 เป็นความผิดในทางอาญาอย่างหนึ่ง เมื่อจำเลยเป็นทหารประจำการจึงเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร
การที่โจทก์นำคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมายื่นฟ้องยังศาลพลเรือนศาลพลเรือนไม่จำต้องสั่งไม่รับขณะที่โจทก์ยื่นฟ้อง (อาจสั่งหลังจากไต่สวนมูลฟ้องแล้วก็ได้)
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 เป็นความผิดในทางอาญาอย่างหนึ่ง เมื่อจำเลยเป็นทหารประจำการจึงเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญญาจ้างเหมา: การรื้อถอนงานที่ยังไม่ส่งมอบไม่ใช่ความผิดทำให้เสียทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์ โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยได้จ้างโจทก์สร้างถนนและลานจอดรถยนต์ในบริเวณโรงแรมแล้วจำเลยได้หลอกลวง บ. ซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างว่าโจทก์ละทิ้งงาน และสั่งให้ บ. รื้อถนนและลานจอดรถยนต์ที่โจทก์สร้างและครอบครองดูแลออกจนหมดทำให้ถนนและลานจอดรถเสียหายใช้การไม่ได้ ดังนี้ กรณีเป็นเรื่องโต้แย้งกันว่าฝ่ายใดผิดสัญญาจ้าง หาใช่เป็นคำฟ้องในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่: การระบุรายละเอียดสินค้าในคำฟ้องซื้อขายและการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นพิจารณา
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าซื้อสินค้าโดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาซื้อสินค้าเครื่องปรับอากาศยี่ห้อแอร์โรมาสเตอร์ขนาด 1,200 บีทียูถึง60,000บีทียู ทั้งแบบแยกส่วนและแบบติดผนังของโจทก์ไปจำหน่าย กำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยมีจำเลยที่ 21 ถึงที่ 9 เป็นผู้ค้ำประกัน โจทก์ได้แนบสำเนาสัญญาซื้อขายมาท้ายฟ้องด้วยในสัญญานี้ได้ระบุราคาของเครื่องปรับอากาศแต่ละชนิดและขนาดรวมทั้งวิธีการชำระเงินไว้แล้ว โจทก์ได้ส่งมอบเครื่องปรับอากาศให้จำเลยที่ 1 รับไปจำหน่ายครั้งละหลาย ๆ เครื่อง จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็ค 7 ฉบับ จำนวนเงินรวม805,863 บบาท ชำระหนี้ค่าสินค้าให้โจทก์ โจทก์นำเช็คดังกล่าว 6 ฉบับ ไปเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เป็นเหตุให้โจทก์ไม่ได้รับชำระหนี้จำนวน 805,863 บาท จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ การที่โจทก์บรรยายถึงเรื่องเช็คมาด้วยกเพื่อแสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่โจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศ คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172แล้ว ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวน ชนิด ขนาดและราคาของสินค้าเครื่องปรับอากาศที่โจทก์ส่งมอบแก่จำเลยที่ 1 ในแต่ละครั้ง เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะนำสืบในชั้นพิจารณา แม้โจทก์จะมิได้กล่าวไว้ในคำฟ้องก็หาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่: สัญญาซื้อขาย, เช็คไม่ขึ้น, และการระบุรายละเอียดสินค้า
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าซื้อสินค้าโดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาซื้อสินค้าเครื่องปรับอากาศยี่ห้อแอร์โรมาสเตอร์ขนาด 1,200 บีทียู ถึง 60,000 บีทียู ทั้งแบบแยกส่วนและแบบติดผนังของโจทก์ไปจำหน่าย กำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยมีจำเลยที่ 21 ถึงที่ 9 เป็นผู้ค้ำประกัน โจทก์ได้แนบสำเนาสัญญาซื้อขายมาท้ายฟ้องด้วย ในสัญญานี้ได้ระบุราคาของเครื่องปรับอากาศแต่ละชนิดและขนาดรวมทั้งวิธีการชำระเงินไว้แล้ว โจทก์ได้ส่งมอบเครื่องปรับอากาศให้จำเลยที่ 1 รับไปจำหน่ายครั้งละหลาย ๆ เครื่อง จำเลยที่ 1สั่งจ่ายเช็ค 7 ฉบับ จำนวนเงินรวม 805,863 บาท ชำระหนี้ค่าสินค้าให้โจทก์ โจทก์นำเช็คดังกล่าว 6 ฉบับ ไปเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เป็นเหตุให้โจทก์ไม่ได้รับชำระหนี้จำนวน 805,863 บาท จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ การที่โจทก์บรรยายถึงเรื่องเช็คมาด้วยกเพื่อแสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่โจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศ คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวน ชนิด ขนาดและราคาของสินค้าเครื่องปรับอากาศที่โจทก์ส่งมอบแก่จำเลยที่ 1 ในแต่ละครั้ง เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะนำสืบในชั้นพิจารณา แม้โจทก์จะมิได้กล่าวไว้ในคำฟ้องก็หาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนหุ้นโดยไม่ระบุเลขที่หุ้น ไม่ทำให้การโอนเป็นโมฆะ หากบริษัทไม่ได้ออกใบหุ้นและไม่มีทะเบียนผู้ถือหุ้น
ในเอกสารการโอนหุ้นโจทก์ผู้รับโอนกับผู้โอนได้ลงลายมือชื่อมีพยานรับรอง 2 คน ทั้งกรรมการบริษัทจำเลยสองนายได้ลงชื่อประทับตราบริษัทอนุมัติให้โอนหุ้นกันได้ ถูกต้องตามแบบที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 วรรคสองบังคับไว้ ส่วนที่บทบัญญัติมาตราดังกล่าวบัญญัติความต่อไปว่าตราสารการโอนหุ้นต้องแถลงเลขหมายของหุ้นซึ่งโอนกันนั้นด้วยก็เพื่อจะรู้ได้แน่นอนว่าหุ้นใดของผู้ถือหุ้นยังอยู่และหุ้นใดได้โอนให้บุคคลอื่นไปแล้วเท่านั้น หาได้บัญญัติว่าถ้ามิได้แถลงหมายเลขหุ้นที่โอนกัน การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อย่อมเป็นโมฆะ ทั้งบริษัทจำเลยยังไม่ได้ออกใบหุ้นให้ผู้ถือหุ้น ย่อมไม่มีเลขหมายของหุ้นซึ่งโอนกันที่ผู้โอนจะแถลงลงในหนังสือโอนหุ้นและจดแจ้งการโอน กับชื่อผู้รับโอนลงในทะเบียนผู้ถือหุ้นได้ การโอนหุ้นดังกล่าวมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับช่วงสิทธิของบริษัทประกันภัยจากสัญญาจ้างบริการรักษาความปลอดภัยกรณีทรัพย์สินสูญหาย
จำเลยทำสัญญารับจ้างรักษาความปลอดภัยสถานที่ของบริษัท ท. โดยยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ในกรณีทรัพย์สินสูญหายเพราะความประมาทเลินเล่อของพนักงานรักษาความปลอดภัยของจำเลย ส่วนโจทก์รับประกันภัยทรัพย์สินของบริษัท ท. จากการบุกรุกโจรกรรม ระหว่างเวลากรมธรรม์มีผลคุ้มครอง ได้มีคนร้ายงัดประตูสำนักงานเข้าไปลักเครื่องคิดเลขของบริษัท ท. ไปเพราะความประมาทของพนักงานรักษาความปลอดภัยของจำเลย เมื่อโจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยไปก่อนแล้ว ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลยตามสัญญารับจ้างรักษาความปลอดภัยทันทีโดยผลของกฎหมายและมีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับช่วงสิทธิของบริษัทประกันภัยจากการทำสัญญาจ้างบริการรักษาความปลอดภัย และความรับผิดของบริษัทรักษาความปลอดภัยต่อความเสียหาย
จำเลยทำสัญญารับจ้างรักษาความปลอดภัยสถานที่ของบริษัทท. โดยยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ในกรณีทรัพย์สินสูญหายเพราะความประมาทเลินเล่อของพนักงานรักษาความปลอดภัยของจำเลย ส่วนโจทก์รับประกันภัยทรัพย์สินของบริษัท ท. จากการบุกรุกโจรกรรม ระหว่างเวลากรมธรรม์มีผลคุ้มครอง ได้มีคนร้ายงัดประตูสำนักงานเข้าไปลักเครื่องคิดเลขของบริษัท ท. ไปเพราะความประมาทของพนักงานรักษาความปลอดภัยของจำเลยเมื่อโจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยไปก่อนแล้ว ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลยตามสัญญารับจ้างรักษาความปลอดภัยทันทีโดยผลของกฎหมายและมีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในคดีเด็กและเยาวชน: การเข้าพบผู้ถูกควบคุมตัวต้องเป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนของกฎหมาย
ผู้ร้องซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายยื่นคำร้องต่อหัวหน้ากองแรกรับ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางเพื่อเข้าพบเยาวชนซึ่งถูกควบคุมตัว ณ กองแรกรับ หัวหน้ากองแรกรับจะอนุญาตหรือไม่เป็นเรื่องธุรการซึ่งต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของกองแรกรับ หากผู้ร้องไม่พอใจคำสั่งดังกล่าว ก็ชอบที่จะร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาชั้นสูงขึ้นไป หามีสิทธิที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งหัวหน้ากองแรกรับอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าพบลูกความตามที่ต้องการไม่ ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางจะมีอำนาจสั่งได้เมื่อเยาวชนนั้นถูกฟ้องต่อศาลแล้ว
กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่บทเป็นหลักในการปกครอง ศาลจะมีอำนาจสั่งการใด ๆ ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายเฉพาะเรื่อง
กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่บทเป็นหลักในการปกครอง ศาลจะมีอำนาจสั่งการใด ๆ ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายเฉพาะเรื่อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสั่งอนุญาตให้ทนายความเข้าพบเยาวชนที่ถูกควบคุมตัว: ต้องรอการฟ้องต่อศาล
ผู้ร้องซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายยื่นคำร้องต่อหัวหน้ากองแรกรับ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางเพื่อเข้าพบเยาวชนซึ่งถูกควบคุมตัว ณ กองแรกรับ หัวหน้ากองแรกรับจะอนุญาตหรือไม่ เป็นเรื่องธุรการซึ่งต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของกองแรกรับ หากผู้ร้องไม่พอใจคำสั่งดังกล่าว ก็ชอบที่จะร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาชั้นสูงขึ้นไป หามีสิทธิที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งหัวหน้ากองแรกรับอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าพบลูกความตามที่ต้องการไม่ ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางจะมีอำนาจสั่งได้เมื่อเยาวชนนั้นถูกฟ้องต่อศาลแล้ว
กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่บทเป็นหลักในการปกครอง ศาลจะมีอำนาจสั่งการใด ๆ ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายเฉพาะเรื่อง
กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่บทเป็นหลักในการปกครอง ศาลจะมีอำนาจสั่งการใด ๆ ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายเฉพาะเรื่อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่เกิดจากการฉ้อฉล เริ่มนับแต่วันที่รู้เหตุ
เมื่อโจทก์มิได้ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่พิพาทระหว่างล. กับจำเลยภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่โจทก์ได้รู้ต้นเหตุอันเป็นมูลให้เพิกถอนคือวันที่โจทก์ฟ้อง ล. กับจำเลยเป็นคดีอาญาหาว่าร่วมกันฉ้อโกงโจทก์เกี่ยวกับที่พิพาท คดีของโจทก์จึงขาดอายุความฟ้องร้องตาม ป.พ.พ. ม.240