พบผลลัพธ์ทั้งหมด 914 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1649/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างพนักงานฐานหมดความไว้วางใจ ศาลยืนตามเหตุผลของนายจ้างที่ไม่ยกเลิกคำสั่งเลิกจ้าง แม้พนักงานจะไม่มีความผิด
การที่จำเลยใช้ดุลพินิจเลิกจ้างโจทก์ฐานหมดความไว้วางใจไม่ถือว่าจำเลยเจตนากลั่นแกล้งให้โจทก์เสียหายเพราะการกระทำของโจทก์มีเหตุอันสมควรที่จำเลยจะหมดความไว้วางใจนอกจากนี้ยังมีข้อบังคับของจำเลยระบุว่า แม้โจทก์จะไม่มีความผิดแต่ถ้ามีมลทินหรือมัวหมอง ผู้อำนวยการมีคำสั่งให้เลิกจ้างได้ฉะนั้นการไม่ยกเลิกคำสั่งเลิกจ้าง จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินเกินบัญชีจากเช็ค: สิทธิธนาคารในการเรียกคืนเงินและดอกเบี้ย
การที่ธนาคารโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คของจำเลย เป็นการทำไปในฐานะตัวแทนจำเลยเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คฉบับนั้นเท่านั้น และตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันก็มีว่า การนำเช็คฝากเข้าบัญชีจะถือว่าธนาคารได้รับฝากเงินต่อเมื่อธนาคารเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้น ๆ ได้แล้ว เมื่อธนาคารโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คของจำเลยไม่ได้ ธนาคารโจทก์ก็มีอำนาจเพิกถอนรายการรับฝากเงินตามเช็คดังกล่าวของจำเลยออกได้ จึงยังถือไม่ได้ว่าธนาคารโจทก์ก็ได้รับฝากเงินนั้นไว้จากจำเลยแล้ว
จำเลยเพียงทำสัญญาเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารโจทก์เท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องทำสัญญา บัญชีเดินสะพัดต่อกัน ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 856 และถือไม่ได้ว่าเป็นการค้าอย่างอื่นในทำนองเช่นว่านั้น และตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันที่ว่า ถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเข็คให้เกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้ฝากไปผู้ฝากยอมใช้เงินส่วนที่ธนาคารจ่ายเกินบัญชีนั้นให้ธนาคารพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดตามกฎหมายนัยแต่วันที่ธนาคารได้จ่ายเงินนั้นเป็นต้นไป ก็มิได้มีข้อตกลงให้เรียกดอกเบี้ยทบต้นได้ กับทั้งมิใช่เรื่องกู้ยืมเงิน ตามมาตรา 654 แต่เป็นเรื่องของธนาคารโจทก์จ่ายเงินตามคำสั่งของจำเลยผู้ออกเช็คเกินกว่า จำนวนเงินที่จำเลยมีอยู่ในบัญชี ซึ่งตามมาตรา 991 มิได้บังคับโดยเฉียบขาดมิให้ธนาคารโจทก์มีอำนาจจ่ายเงินตามเช็คให้จำเลยเกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีได้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินที่รับเกินไปคืนให้ธนาคารโจทก์ เมื่อจำเลยไม่คืนเงินให้โจทก์ จำเลยก็ตกเป็นผู้ผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตามมาตรา 7 และ 224 โดยไม่ทบต้น
จำเลยเพียงทำสัญญาเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารโจทก์เท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องทำสัญญา บัญชีเดินสะพัดต่อกัน ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 856 และถือไม่ได้ว่าเป็นการค้าอย่างอื่นในทำนองเช่นว่านั้น และตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันที่ว่า ถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเข็คให้เกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้ฝากไปผู้ฝากยอมใช้เงินส่วนที่ธนาคารจ่ายเกินบัญชีนั้นให้ธนาคารพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดตามกฎหมายนัยแต่วันที่ธนาคารได้จ่ายเงินนั้นเป็นต้นไป ก็มิได้มีข้อตกลงให้เรียกดอกเบี้ยทบต้นได้ กับทั้งมิใช่เรื่องกู้ยืมเงิน ตามมาตรา 654 แต่เป็นเรื่องของธนาคารโจทก์จ่ายเงินตามคำสั่งของจำเลยผู้ออกเช็คเกินกว่า จำนวนเงินที่จำเลยมีอยู่ในบัญชี ซึ่งตามมาตรา 991 มิได้บังคับโดยเฉียบขาดมิให้ธนาคารโจทก์มีอำนาจจ่ายเงินตามเช็คให้จำเลยเกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีได้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินที่รับเกินไปคืนให้ธนาคารโจทก์ เมื่อจำเลยไม่คืนเงินให้โจทก์ จำเลยก็ตกเป็นผู้ผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตามมาตรา 7 และ 224 โดยไม่ทบต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกเงินเกินบัญชีจากเช็ค: อำนาจธนาคาร, หน้าที่จำเลย, และดอกเบี้ย
การที่ธนาคารโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คของจำเลย เป็นการทำไปในฐานะตัวแทนจำเลยเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คฉบับนั้นเท่านั้น และตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันก็มีว่า การนำเช็คฝากเข้าบัญชีจะถือว่าธนาคารได้รับฝากเงินต่อเมื่อธนาคารเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้น ๆ ได้แล้วเมื่อธนาคารโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คของจำเลยไม่ได้ธนาคารโจทก์ก็มีอำนาจเพิกถอนรายการรับฝากเงินตามเช็คดังกล่าวของจำเลยออกได้จึงยังถือไม่ได้ว่าธนาคารโจทก์ได้รับฝากเงินนั้นไว้จากจำเลยแล้ว
จำเลยเพียงทำสัญญาเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารโจทก์เท่านั้นจึงไม่ใช่เรื่องทำสัญญาบัญชีเดินสะพัดต่อกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 856. และถือไม่ได้ว่าเป็นการค้าอย่างอื่นในทำนองเช่นว่านั้น และตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันที่ว่า ถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเช็คให้เกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้ฝากไป ผู้ฝากยอมใช้เงินส่วนที่ธนาคารจ่ายเกินบัญชีนั้นให้ธนาคารพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดตามกฎหมายนับแต่วันที่ธนาคารได้จ่ายเงินนั้นเป็นต้นไป ก็มิได้มีข้อตกลงให้เรียกดอกเบี้ยทบต้นได้ กับทั้งมิใช่เรื่องกู้ยืมเงิน ตามมาตรา654 แต่เป็นเรื่องของธนาคารโจทก์จ่ายเงินตามคำสั่งของจำเลยผู้ออกเช็คเกินกว่าจำนวนเงินที่จำเลยมีอยู่ในบัญชีซึ่งตามมาตรา 991 มิได้บังคับโดยเฉียบขาดมิให้ธนาคารจ่ายเงินเกินบัญชีของผู้เคยค้า และตามเงื่อนไขคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันดังกล่าวให้ธนาคารโจทก์มีอำนาจจ่ายเงินตามเช็คให้จำเลยเกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีได้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินที่รับเกินไปคืนให้ธนาคารโจทก์เมื่อจำเลยไม่คืนเงินให้โจทก์ จำเลยก็ตกเป็นผู้ผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตามมาตรา 7 และ 224 โดยไม่ทบต้น
จำเลยเพียงทำสัญญาเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารโจทก์เท่านั้นจึงไม่ใช่เรื่องทำสัญญาบัญชีเดินสะพัดต่อกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 856. และถือไม่ได้ว่าเป็นการค้าอย่างอื่นในทำนองเช่นว่านั้น และตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันที่ว่า ถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเช็คให้เกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้ฝากไป ผู้ฝากยอมใช้เงินส่วนที่ธนาคารจ่ายเกินบัญชีนั้นให้ธนาคารพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดตามกฎหมายนับแต่วันที่ธนาคารได้จ่ายเงินนั้นเป็นต้นไป ก็มิได้มีข้อตกลงให้เรียกดอกเบี้ยทบต้นได้ กับทั้งมิใช่เรื่องกู้ยืมเงิน ตามมาตรา654 แต่เป็นเรื่องของธนาคารโจทก์จ่ายเงินตามคำสั่งของจำเลยผู้ออกเช็คเกินกว่าจำนวนเงินที่จำเลยมีอยู่ในบัญชีซึ่งตามมาตรา 991 มิได้บังคับโดยเฉียบขาดมิให้ธนาคารจ่ายเงินเกินบัญชีของผู้เคยค้า และตามเงื่อนไขคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันดังกล่าวให้ธนาคารโจทก์มีอำนาจจ่ายเงินตามเช็คให้จำเลยเกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีได้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินที่รับเกินไปคืนให้ธนาคารโจทก์เมื่อจำเลยไม่คืนเงินให้โจทก์ จำเลยก็ตกเป็นผู้ผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตามมาตรา 7 และ 224 โดยไม่ทบต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584-1585/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมคำฟ้อง, การโต้แย้งคำสั่งศาล, และอำนาจการวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาล
แม้จำเลยจะมิได้ยื่นคำแถลงโต้แย้งคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมคำฟ้องตามคำร้องของโจทก์ไว้โดยตรง แต่ปรากฏว่าเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานและพิพากษาคดีในครั้งแรกจำเลยได้กล่าวไว้ในคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยชัดแจ้งว่า จำเลยขอโต้แย้งคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง เช่นนี้เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่และมีการดำเนินคดีต่อมาย่อมถือว่า จำเลยได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นไว้ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) แล้วจำเลยจึงหยิบยกปัญหานี้ขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์ฎีกาได้
การที่โจทก์ขอเพิ่มเติมคำฟ้องในรายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์ ว่าที่ในสัญญาเช่าท้ายฟ้องระบุที่ดินโฉนดเลขที่ 2622 นั้นผู้เขียนสัญญาเขียนผิดไปความจริงเป็นการเช่าที่ดินโฉนดเลขที่ 2662 ตามคำฟ้องเดิมนั้นเองมิใช่ที่ดินแปลงอื่นทั้งนี้เพื่อให้คำฟ้องเดิมของโจทก์มีความชัดแจ้งบริบูรณ์ขึ้นโจทก์ย่อมขอเพิ่มเติมได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179(2)
การที่โจทก์ขอเพิ่มเติมคำฟ้องในรายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินที่จำเลยเช่าจากโจทก์ ว่าที่ในสัญญาเช่าท้ายฟ้องระบุที่ดินโฉนดเลขที่ 2622 นั้นผู้เขียนสัญญาเขียนผิดไปความจริงเป็นการเช่าที่ดินโฉนดเลขที่ 2662 ตามคำฟ้องเดิมนั้นเองมิใช่ที่ดินแปลงอื่นทั้งนี้เพื่อให้คำฟ้องเดิมของโจทก์มีความชัดแจ้งบริบูรณ์ขึ้นโจทก์ย่อมขอเพิ่มเติมได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1555/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกคืนทรัพย์เช่าซื้อ: ไม่ใช่ค่าเช่า แต่เป็นสิทธิติดตามทรัพย์สิน 10 ปี
สิทธิเรียกร้องของผู้ให้เช่าซื้อในการติดตามเอาทรัพย์สินที่ให้เช่าซื้อคืน ไม่ใช่เรื่องที่บุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เรียกเอาค่าเช่าซึ่งมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6) หากแต่เป็นเรื่องที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่นจึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนใช้ไม่ได้ก็ผิดกฎหมาย: พกพาอาวุธโดยสภาพ แม้ใช้ยิงไม่ได้ ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.อาวุธปืน
อาวุธปืนแม้จะไม่มีลูกโม่และแกนลูกโม่ปืน ไม่สามารถใช้ยิงได้ ก็เป็นอาวุธโดยสภาพตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 1(5)เมื่อจำเลยพาไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรย่อมเป็นความผิดตามมาตรา 371(อ้างคำพิพากษาฎีกาประชุมใหญ่ที่ 1903/2520)
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ มิได้จำกัดเฉพาะว่าอาวุธปืนนั้นจะต้องสามารถใช้ยิงได้จึงจะเป็นความผิด เมื่ออาวุธปืนของกลางที่จำเลยพกพาติดตัวไปเป็นอาวุธปืนตามความหมายของกฎหมายก็ต้องด้วยเงื่อนไขที่บัญญัติเป็นความผิดแล้วแม้ไม่อาจใช้ยิงได้ก็ถือว่าจำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายดังกล่าวแล้ว
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ มิได้จำกัดเฉพาะว่าอาวุธปืนนั้นจะต้องสามารถใช้ยิงได้จึงจะเป็นความผิด เมื่ออาวุธปืนของกลางที่จำเลยพกพาติดตัวไปเป็นอาวุธปืนตามความหมายของกฎหมายก็ต้องด้วยเงื่อนไขที่บัญญัติเป็นความผิดแล้วแม้ไม่อาจใช้ยิงได้ก็ถือว่าจำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายดังกล่าวแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนใช้ยิงไม่ได้ก็เป็นความผิดตามกฎหมายได้ หากพกพาในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร
อาวุธปืนแม้จะไม่มีลูกโม่และแกนลูกโม่ ไม่สามารถใช้ยิงได้ ก็เป็นอาวุธโดยสภาพตามความหมายของ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1 (5) เมื่อจำเลยพาไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรย่อมเป็นความผิดตามมาตรา 371 (อ้างคำพิพากษาฎีกาประชุมใหญ่ที่ 1903/2520)
พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ มิได้จำกัดเฉพาะว่า อาวุธปืนนั้นจะต้องสามารถใช้ยิงได้จึงจะเป็นความผิด เมื่ออาวุธปืนของกลางที่จำเลยพกพาติดตัวไปเป็นอาวุธปืนตามความหมายของกฎหมายก็ต้องด้วยเงื่อนไขที่บัญญัติเป็นความผิดแล้ว แม้ไม่อาจใช้ยิงได้ก็ถือว่าจำเลยกระทำผิดต่อกฎหมาย ดังกล่าวแล้ว
พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ มิได้จำกัดเฉพาะว่า อาวุธปืนนั้นจะต้องสามารถใช้ยิงได้จึงจะเป็นความผิด เมื่ออาวุธปืนของกลางที่จำเลยพกพาติดตัวไปเป็นอาวุธปืนตามความหมายของกฎหมายก็ต้องด้วยเงื่อนไขที่บัญญัติเป็นความผิดแล้ว แม้ไม่อาจใช้ยิงได้ก็ถือว่าจำเลยกระทำผิดต่อกฎหมาย ดังกล่าวแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเงินบำเหน็จ: ข้อบังคับบริษัทขัดกับกฎหมาย อายุความตามกฎหมายมีผลบังคับใช้
อายุความที่กฎหมายกำหนดไว้ผู้ใดหาอาจขยายออกหรือย่นเข้าได้ไม่ ข้อบังคับของบริษัทนายจ้างที่ให้ลูกจ้างยื่นคำร้องขอรับบำเหน็จต่อบริษัทเมื่อพ้นจากการเป็นพนักงานภายใน 3 เดือนจึงไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1359/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเรียกคืนเงินค่าสินค้า - ความแตกต่างระหว่างการไม่ส่งมอบกับข้อบกพร่อง
ผู้ซื้อเรียกเงินที่ชำระราคาล่วงหน้าไปคืนจากผู้ขายเพราะผู้ขายไม่ส่งมอบของที่ขายไม่ใช่อายุความ 2 ปี ตาม มาตรา 165(1) แต่ 10 ปี ตาม มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1338/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีแร่ดีบุก: วันกระทำผิดคือวันครอบครองเกินโควต้า แม้ต่อมาจะขอเพิ่มโควต้า
จำเลยขุดแร่ดีบุกไว้ในครอบครองเกินโควต้าที่ได้รับอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมแร่ดีบุก พ.ศ.2514 มาตรา 20,31 ซึ่งมีโทษปรับอย่างเดียวนั้นอายุความ 1 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 เจ้าพนักงานเข้าตรวจระหว่างวันที่ 17-20 กันยายน 2518 พบว่าจำเลยมีแร่ดีบุกไว้ในครอบครองเกินโควต้า ต้องถือว่าวันที่17 กันยายน 2518 เป็นวันที่จำเลยกระทำความผิดโจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2519 เกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยกระทำความผิด คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
แม้จำเลยจะได้รับอนุมัติให้เพิ่มโควต้าในภายหลังก็ไม่ทำให้ความผิดที่จำเลยได้กระทำไปแล้วกลายเป็นไม่เป็นความผิด
แม้จำเลยจะได้รับอนุมัติให้เพิ่มโควต้าในภายหลังก็ไม่ทำให้ความผิดที่จำเลยได้กระทำไปแล้วกลายเป็นไม่เป็นความผิด