พบผลลัพธ์ทั้งหมด 914 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1100/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้เงินดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดบางส่วนเป็นโมฆะ เจ้าหนี้มีสิทธิรับเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
ค้างเงินค่าเซ้งตึกที่ต้องคืนกัน 80,000 บาท คู่กรณีตกลงกันทำเป็นสัญญากู้โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 21/2 เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดเป็นเวลา 15 เดือน เงิน 30,000 บาทรวมเป็นสัญญากู้ 110,000 บาท เงิน 30,000 บาท นี้เป็นโมฆะทั้งหมดเจ้าหนี้มีสิทธิได้รับเงินคืนโดยบวกดอกเบี้ยร้อยละ 71/2 ต่อปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตสิทธิผู้ร้องสอด และดุลพินิจศาลรวมพิจารณาคดี
ตามคำร้องสอดและคำสั่งของศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยร่วมเข้ามาในคดีในฐานะเป็นจำเลยร่วม ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 58 วรรคสอง ห้ามมิให้ผู้ร้องสอดใช้สิทธิอย่างอื่นนอกจากสิทธิที่มีอยู่แก่คู่ความฝ่ายซึ่งตนเข้าเป็นโจทก์ร่วมหรือจำเลยร่วมในชั้นพิจารณาเมื่อตนร้องสอดดังนั้นเมื่อคดีเดิมมิได้มีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านตามฟ้องโดยสุจริตหรือไม่จำเลยร่วมจึงไม่อาจใช้สิทธิตั้งประเด็นข้อนี้ขึ้นใหม่ในคำร้องสอดเพื่อให้ศาลวินิจฉัยในคดีนี้ได้
การสั่งรวมพิจารณาคดีหลายเรื่องอยู่ในดุลพินิจของศาลถ้าจะต้องเลื่อนการพิจารณาไปทำให้ล่าช้าศาลไม่รวมพิจารณา
การสั่งรวมพิจารณาคดีหลายเรื่องอยู่ในดุลพินิจของศาลถ้าจะต้องเลื่อนการพิจารณาไปทำให้ล่าช้าศาลไม่รวมพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความพยายามส่งออกยาเสพติด: การกระทำความผิดเกิดขึ้นเมื่อลงมือ แม้ยังไม่ได้ขึ้นเครื่อง
จำเลยรอเวลาที่จะออกเดินทางไปกับสายการบินพร้อมเฮโรอีนของกลาง ณ ท่าอากาศยานกรุงเทพก่อนกำหนดเที่ยวบินที่จะออกนอกราชอาณาจักรประมาณ 1 ชั่วโมงแต่ถูกเจ้าพนักงานตรวจค้นจับกุมขณะอยู่ในพิธีการทางศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองดังนี้ แม้จำเลยจะยังไม่ทันได้ขึ้นเครื่องบินอันเป็นยานพาหนะก็ถือได้ว่าจำเลยได้ลงมือที่จะนำเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักรแล้วหาใช่อยู่ในขั้นตระเตรียมการไม่จำเลยลงมือกระทำความผิดแล้วแต่กระทำไปไม่ตลอดเพราะถูกเจ้าพนักงานจับกุมเสียก่อนจึงเป็นการพยายามกระทำความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 983/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรนัยและการยินยอมโดยปริยาย ทำให้สัญญาสมบูรณ์
ที่พิพาทมิใช่ที่สาธารณสมบัติหรือหวงห้าม แม้จะเป็นของกรมธนารักษ์และตกอยู่ในความดูแลขององค์การเชื้อเพลิงก็ตามแต่เมื่อโจทก์ได้เข้าครอบครองใช้ประโยชน์ในที่พิพาทต่อมาเป็นเวลานาน โดยองค์การเชื้อเพลิงมิได้ห้ามปรามทักท้วงประการใดพฤติการณ์เช่นนี้ถือว่าองค์การเชื้อเพลิงยินยอมโดยปริยายให้โจทก์มีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่พิพาทและโจทก์อาจยอมให้บุคคลอื่นผู้ไม่มีสิทธิดีกว่าเข้าใช้ประโยชน์ด้วยได้ ฉะนั้น สัญญาขอใช้สถานที่ประกอบรถยนต์ในที่พิพาทที่จำเลยกระทำไว้ต่อโจทก์ จึงเป็นสัญญาที่สมบูรณ์ตามกฎหมายและมีผลบังคับให้จำเลยต้องเสียค่าตอบแทนตามสัญญา
คดีเดิมศาลยกฟ้องเพราะโจทก์ฟ้องโดยไม่ได้มีหนังสือยินยอมของสามีมิได้ชี้ขาดประเด็นข้อพิพาทคดีนี้สามีเป็นโจทก์ฟ้องร่วมกับโจทก์เดิมด้วยไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คดีเดิมศาลยกฟ้องเพราะโจทก์ฟ้องโดยไม่ได้มีหนังสือยินยอมของสามีมิได้ชี้ขาดประเด็นข้อพิพาทคดีนี้สามีเป็นโจทก์ฟ้องร่วมกับโจทก์เดิมด้วยไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดินและผลกระทบต่อที่ดินข้างเคียง: สิทธิในการฟ้องขอให้แก้ไขสภาพ
บรรยายฟ้องว่าจำเลยขุดบ่อปลาในคลองสาธารณะขอบบ่อติดกับที่ดินโฉนดของโจทก์เป็นเหตุให้ตลิ่งที่ดินของโจทก์พังและต่อมาจำเลยขุดขยายบ่อปลารุกล้ำเข้ามาในที่ดินโจทก์ทำให้ตลิ่งพังและกอไผ่ตายคดีตามคำบรรยายฟ้องดังนี้เป็นคดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์
คำขอท้ายฟ้องข้อ 1 ให้จำเลยถอยบ่อปลาออกไปห่างที่ดินของโจทก์บ่อละ 2 วาและให้ทำที่ดินของโจทก์กับพื้นคลองติดที่ดินโจทก์ให้คืนสภาพเดิมเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
เมื่อคดีตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์เป็นคดีอันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์และคำขอบังคับข้อ 1 เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้โจทก์จึงอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้
คำขอท้ายฟ้องข้อ 1 ให้จำเลยถอยบ่อปลาออกไปห่างที่ดินของโจทก์บ่อละ 2 วาและให้ทำที่ดินของโจทก์กับพื้นคลองติดที่ดินโจทก์ให้คืนสภาพเดิมเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
เมื่อคดีตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์เป็นคดีอันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์และคำขอบังคับข้อ 1 เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้โจทก์จึงอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนเหตุสุดวิสัยเพื่อวางค่าฤชาธรรมเนียม ไม่ต้องใช้ขั้นตอนการสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88
การไต่สวนคำร้องที่โจทก์อ้างว่าโจทก์ไม่สามารถนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนจำเลยมาวางศาลภายในกำหนดเวลาเพราะเหตุสุดวิสัยนั้น เป็นการไต่สวนเพื่อที่จะทราบข้อเท็จจริงว่า โจทก์มิได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมไปวางศาลภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นขยายให้เป็นเพราะเหตุสุดวิสัยหรือไม่เท่านั้น มิใช่เป็นการสืบพยานตามประเด็นในคำฟ้องและคำให้การ และเป็นเรื่องของศาลจึงไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนเหตุสุดวิสัยชำระค่าฤชาธรรมเนียม: ไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 88
การไต่สวนคำร้องที่โจทก์อ้างว่าโจทก์ไม่สามารถนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนจำเลยมาวางศาล ภายในกำหนดเวลาเพราะเหตุสุดวิสัยนั้น เป็นการไต่สวนเพื่อที่จะทราบข้อเท็จจริงว่า โจทก์มิได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมไปวางศาลภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นขยายให้เป็นเพราะเหตุสุดวิสัยหรือไม่เท่านั้น มิใช่เป็นการสืบพยานตามประเด็นในคำฟ้องและคำให้การ และเป็นเรื่องของศาลจึงไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำนองโดยสุจริตและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่น: การคุ้มครองสิทธิของบุคคลภายนอก
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้จำนอง จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินที่จำนองเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินที่โจทก์นำยึดดังกล่าวผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยส่วนหนึ่ง โดยผู้ร้องได้ครอบครองโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 10ปีแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จึงขอให้ปล่อยการยึดที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโจทก์ให้การว่าโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนข้ออ้างของผู้ร้องจึงยกขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้ ดังนี้ตามข้ออ้างของผู้ร้องเป็นเพียงการได้มาซึ่งสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นอันมิใช่เป็นการได้มาโดยทางนิติกรรม แต่ผู้ร้องไม่ได้จดทะเบียนสิทธิของตนไว้ จึงไม่อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้ ทั้งต้องห้ามมิให้ยกเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ส่วนปัญหาว่าโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ ผู้ร้องก็ไม่ได้กล่าวอ้างหรือยกเป็นประเด็นเพื่อการนำสืบไว้ในคำร้องทั้ง ๆ ที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่ฝ่ายตนที่จะหักล้างข้อสันนิษฐานอันเป็นคุณแก่โจทก์ว่า บุคคลทุกคนกระทำการโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 6 คดีจึงไม่มีประเด็น ข้อพิพาทว่าโจทก์รับจำนองโดยสุจริตหรือไม่ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำร้องและคำให้การของโจทก์แล้วว่าโจทก์รับจำนองที่พิพาทโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว จึงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1299 วรรคสอง ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิขอให้ปล่อยทรัพย์พิพาท
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นเรื่องโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องฎีกาในปัญหาข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกประเด็นที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นเรื่องโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องฎีกาในปัญหาข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกประเด็นที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำนอง vs. สิทธิครอบครองปรปักษ์: บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนย่อมได้รับการคุ้มครอง
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้จำนอง จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินที่จำนองเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินที่โจทก์นำยึดดังกล่าวผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยส่วนหนึ่ง โดยผู้ร้องได้ครอบครองโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 10 ปี แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จึงขอให้ปล่อยการยึดที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง โจทก์ให้การว่าโจทก์จับจำนองไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนข้ออ้างของผู้ร้องจึงยกขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้ ดังนี้ ตามข้ออ้างของผู้ร้องเป็นเพียงการได้มาซึ่งสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่น อันมิใช่เป็นการได้มาโดยทางนิติกรรม แต่ผู้ร้องไม่ได้จดทะเบียนสิทธิของตนได้ จึงไม่อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้ ทั้งต้องห้ามมิให้ยกเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ส่วนปัญหาว่าโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ ผู้ร้องก็ไม่ได้กล่าวอ้างหรือยกเป็นประเด็นเพื่อการนำสืบไว้ในคำร้อง ทั้ง ๆ ที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่ฝ่ายตนที่จะหักล้างข้อสันนิษฐานอันเป็นคุณแก่โจทก์ว่า บุคคลทุกคนกระทำการโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 6 คดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์รับจำนองโดยสุจริตหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำร้องและคำให้การของโจทก์แล้วว่า โจทก์รับจำนองที่พิพาทโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว จึงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1299 วรรคสองผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิขอให้ปล่อยทรัพย์พิพาท
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นเรื่องโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องฎีกาในปัญหาข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกประเด็นที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นเรื่องโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องฎีกาในปัญหาข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกประเด็นที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายกระบือและการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 456: กระบือที่ยังไม่ได้ใช้งานไม่ต้องจดทะเบียน
สัตว์พาหนะที่กฎหมายบังคับให้มีการจดทะเบียนการซื้อขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456นั้น ต้องเป็นสัตว์พาหนะตามพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ.2482 มาตรา 4 อันได้แก่ช้าง ม้า โค กระบือ ล่อลา ซึ่งได้ทำ หรือต้องทำตั๋วรูปพรรณตามพระราชบัญญัตินี้
สัตว์พาหนะดังกล่าวที่กฎหมายบังคับให้ต้องทำตั๋วรูปพรรณมีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติที่กล่าวนั้น มาตรา 8(3) ว่าได้แก่สัตว์ใดที่ได้ใช้ขับขี่ลากเข็น หรือใช้งานแล้ว
กระบือรายพิพาทที่โจทก์ขายให้จำเลยไม่มีตั๋วรูปพรรณแม้จะมีอายุ 4 ปีแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าเป็นกระบือที่ใช้งานแล้ว จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องทำตั๋วรูปพรรณ ดังนั้น การซื้อขายกระบือรายพิพาท ไม่จำต้องจดทะเบียนซื้อขาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 การซื้อขายนี้ไม่เป็นโมฆะ
สัตว์พาหนะดังกล่าวที่กฎหมายบังคับให้ต้องทำตั๋วรูปพรรณมีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติที่กล่าวนั้น มาตรา 8(3) ว่าได้แก่สัตว์ใดที่ได้ใช้ขับขี่ลากเข็น หรือใช้งานแล้ว
กระบือรายพิพาทที่โจทก์ขายให้จำเลยไม่มีตั๋วรูปพรรณแม้จะมีอายุ 4 ปีแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าเป็นกระบือที่ใช้งานแล้ว จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องทำตั๋วรูปพรรณ ดังนั้น การซื้อขายกระบือรายพิพาท ไม่จำต้องจดทะเบียนซื้อขาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 การซื้อขายนี้ไม่เป็นโมฆะ