พบผลลัพธ์ทั้งหมด 914 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3141/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส แม้มีโอกาสยิงซ้ำแต่ไม่ทำ ไม่ถือเป็นเจตนาฆ่า
จำเลยได้ยิงปืนออกไป 3 นัด ติดๆกัน ในขณะที่ชุลมุนแย่งปืนกับผู้เสียหายกระสุนปืนนัดหนึ่งถูกที่แก้มขวาบริเวณขากรรไกรของผู้เสียหาย นัดหนึ่งถูกฝาระเบียงด้านในอีกนัดหนึ่งทะลุพื้นกระดาน ดังนี้ เห็นว่าในสถานการณ์เช่นนี้จำเลยย่อมไม่มีโอกาสเลือกยิงผู้เสียหายให้ถูกที่อวัยวะสำคัญได้ เมื่อผู้เสียหายฟุบลงกันพื้นแล้ว จำเลยยังมีกระสุนอยู่ในรังเพลิงปืนอีก 2 นัด จำเลยย่อมมีโอกาสยิงซ้ำได้ จำเลยก็หาได้ฉวยโอกาสนั้นเลือกยิงผู้เสียหายซ้ำอีกไม่ จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงฟังได้เพียงว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหาย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3090/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายเชื่อเครื่องเพชรไม่ถือเป็นยักยอก หากผิดสัญญาเป็นเรื่องแพ่ง
ผู้เสียหายมอบเครื่องเพชรให้จำเลยไปขาย โดยผู้เสียหายคิดเอาราคา 32,300 บาท มีข้อตกลงกันว่าจำเลยจะจ่ายเงินตามราคาของให้เมื่อครบ 1 เดือน นับแต่วันเอาของไป ถ้าขายไม่ได้จะคืนของภายใน 1 เดือน เช่นกันโดยไม่ได้จำกัดว่าจำเลยจะต้องขายในราคาเท่าใด เช่นนี้ เงินที่ขายเครื่องเพชรดังกล่าวได้จึงตกเป็นของจำเลย เพียงแต่จำเลยมีความผูกพันว่าจะต้องนำเงิน 32,300 บาท มาคืนให้แก่ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น กรณีจึงมิใช่จำเลยได้รับมอบหมายให้รับเครื่องเพชรหรือราคาเครื่องเพชรไว้แทนผู้เสียหายแต่เป็นกรณีผู้เสียหายขายเชื่อเครื่องเพชรให้จำเลยไป แม้จำเลยไม่จ่ายเงินแก่ผู้เสียหายและไม่คืนเครื่องเพชรก็เป็นเรื่องผิดสัญญาแพ่ง ไม่เป็นความผิดอาญาฐานยักยอกตามที่โจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3090/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายเชื่อเครื่องเพชรไม่เป็นความผิดฐานยักยอก เป็นเพียงผิดสัญญาทางแพ่ง
ผู้เสียหายมอบเครื่องเพชรให้จำเลยไปขาย โดยผู้เสียหายคิดเอาราคา 32,300 บาท มีข้อตกลงกันว่าจำเลยจะจ่ายเงินตามราคาของให้เมื่อครบ 1 เดือนนับแต่วันเอาของไปถ้าขายไม่ได้จะคืนของให้ภายใน 1 เดือนเช่นกัน โดยไม่ได้จำกัดว่าจำเลยจะต้องขายในราคาเท่าใด เช่นนี้เงินที่ขายเครื่องเพชรดังกล่าวได้จึงตกเป็นของจำเลย เพียงแต่จำเลยมีความผูกพันว่าจะต้องนำเงิน 32,300 บาทมาคืนให้แก่ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น กรณีจึงมิใช่จำเลยได้รับมอบหมายให้รับเครื่องเพชรหรือราคาเครื่องเพชรไว้แทนผู้เสียหาย แต่เป็นกรณีผู้เสียหายขายเชื่อเครื่องเพชรให้จำเลยไป แม้จำเลยไม่จ่ายเงินแก่ผู้เสียหาย และไม่คืนเครื่องเพชรก็เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง ไม่เป็นความผิดอาญาฐานยักยอกตามที่โจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เจ้าของรถที่เมาหลับไม่ได้ครอบครองหรือควบคุมรถ ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย
เจ้าของรถเมาสุรานอนหลับอยู่ในรถยนต์ เพื่อนของเจ้าของรถขับรถไปธุระของเพื่อน รถชนผู้อื่น เจ้าของไม่ใช่ผู้ครอบครองรถหรือควบคุมรถตาม มาตรา 437
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3065/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอันยอมความได้ ผู้เสียหายถอนฟ้อง สิทธิฟ้องระงับ
ความผิดอันยอมความได้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องอัยการโจทก์ฎีกา ก่อนส่งสำนวนไปศาลฎีกา ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลฎีกา ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2921/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องหนี้จากการไถ่ถอนจำนองและดอกเบี้ย ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ ไม่เพิ่มดอกเบี้ยตามที่โจทก์ขอ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จำเลยเป็นฝ่ายฎีกา โจทก์มิได้ฎีกาแต่กล่าวมาในคำแก้ฎีกาว่าโจทก์มีสิทธิได้ดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปี ศาลฎีกาจะพิพากษาเพิ่มดอกเบี้ยให้โจทก์หาได้ไม่ เพราะไม่มีคำขอและคำฟ้องฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2790/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดรับผิดหนี้ห้างฯ แม้ยังไม่ผิดนัด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ม.94
จำเลยเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. จำเลยก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวในหนี้ของห้างหุ้นส่วนดังกล่าว โดยไม่จำกัดจำนวนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1077(2) แม้เจ้าหนี้ยังไม่เคยทวงถามและห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. ยังไม่ผิดนัดชำระหนี้ก็เป็นเพียงเหตุที่เจ้าหนี้จะเรียกให้จำเลยชำระหนี้ยังไม่ได้ตามมาตรา 1070 ประกอบด้วยมาตรา 1080 เท่านั้นซึ่งในกรณีนี้พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 94 บัญญัติว่า "เจ้าหนี้ไม่มีประกัน อาจขอรับชำระหนี้ได้ ถ้ามูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหรือมีเงื่อนไขก็ตามฯลฯ" ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยชั่วคราว และในวันเดียวกันนั้นห้างหุ้นส่วนจำกัด ท.เป็นหนี้เบิกเงินเกินบัญชีแก่เจ้าหนี้อยู่เป็นเงิน 987,881.78 บาท จึงถือได้ว่าเจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นเจ้าหนี้ของจำเลย และมีสิทธิขอรับชำระหนี้จำนวนนั้นจากกองทรัพย์สินของจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2790/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดรับผิดหนี้ของห้างฯ แม้เจ้าหนี้ยังไม่ทวงถาม หรือห้างฯ ไม่ผิดนัด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ
จำเลยเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ท. จำเลยก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวในหนี้ของห้างหุ้นส่วนดังกล่าวโดยไม่จำกัดจำนวนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1077 (2) แม้เจ้าหนี้ยังไม่เคยทวงถามและห้างหุ้นส่วนจำกัด ท.ยังไม่ผิดนัดชำระหนี้ก็เป็นเพียงเหตุที่เจ้าหน้าที่จะเรียกให้จำเลยชำระหนี้ยังไม่ได้ตาม มาตรา 1070 ประกอบด้วยมาตรา 1080 เท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 94 บัญญัติว่า "เจ้าหนี้ไม่มีประกัน อาจขอรับชำระหนี้ได้ ถ้ามูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อน วันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหรือมีเงื่อนไขก็ตาม ฯลฯ" ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยชั่วคราว และในวันเดียวกันนั้นห้างหุ้นส่วน จำกัด ท. เป็นหนี้เบิกเงินเกินบัญชีแก่เจ้าหนี้อยู่เป็นเงิน 987,881.78 บาท จึงถือได้ว่า เจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นเจ้าหนี้ของจำเลย และมีสิทธิขอรับชำระหนี้จำนวนนั้นจากกองทรัพย์สินของจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาฟ้องคดีเด็กและเยาวชนและการขออนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการหากพ้นกำหนด
การฟ้องคดีเด็กและเยาวชนจะต้องอยู่ในบังคับของมาตรา 24 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 ทั้งสิ้น กล่าวคือจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เด็กหรือเยาวชนถูกจับกุม หรือได้รับอนุญาตจากศาลให้ผัดฟ้องได้เป็นคราวๆไป หากพ้นกำหนดนี้แล้วจะฟ้องได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการแม้จะเป็นการฟ้องคดีตามคำชี้ขาดให้ฟ้องคดีของอธิบดีกรมอัยการก็ตาม (อ้างฎีกาที่ 10/2522)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีเด็กและเยาวชนต้องยื่นฟ้องภายใน 30 วัน หรือขอผัดฟ้อง หากพ้นกำหนดต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการ
การฟ้องคดีเด็กและเยาวชนจะต้องอยู่ในบังคับของมาตรา 24 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 ทั้งสิ้น กล่าวคือจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เด็กหรือเยาวชนถูกจับกุม หรือได้รับอนุญาตจากศาลให้ผัดฟ้องได้เป็นคราว ๆ ไป หากพ้นกำหนดนี้แล้วจะฟ้องคดีได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการแม้จะเป็นการฟ้องคดีตามคำชี้ขาดให้ฟ้องคดีของอธิบดีกรมอัยการก็ตาม (อ้างฎีกาที่ 10/2522)