พบผลลัพธ์ทั้งหมด 914 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2708/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องคุ้มครองสิทธิชั่วคราวต้องตรงกับการกระทำที่ถูกฟ้อง และไม่กระทบสิทธิบุคคลภายนอก
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทำหนังสือมอบอำนาจให้แก่โจทก์เพื่อให้โจทก์มีสิทธิและอำนาจดำเนินการขุดแร่หรือโอนขายประทานบัตรและอื่นๆ ได้ทั้งสิ้นตามสัญญาขายสิทธิการทำเหมืองแร่ เช่น ดังที่จำเลยได้เคยทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ไว้แต่เดิมและขอให้เพิกถอนหนังสือมอบอำนาจที่จำเลยมอบอำนาจไห้ว.มาเปิดทำการขุดหาแร่ในที่ประทานบัตรที่ขายให้โจทก์ อันเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวนเป็นราคาเงินได้ แล้วโจทก์มีคำขอให้ศาลสั่งห้ามชั่วคราวมิให้จำเลย และ ว.เข้าทำเหมืองแร่ ดังนี้คำฟ้องของโจทก์มิใช่เรื่องขอให้บังคับเอาแก่ตัวทรัพย์หรือเหมืองแร่ที่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิของโจทก์เลย และโจทก์มิได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายมาด้วย เหมืองแร่ที่ ว. เข้าไปทำจึงมิใช่ตัวทรัพย์ที่พิพาทในคดีนี้ การที่โจทก์มายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิของโจทก์ดังกล่าว จึงไม่ตรงกับการกระทำที่จำเลยถูกฟ้อง ซึ่งไม่เกี่ยวกับตัวทรัพย์หรือเหมืองแร่ หากการกระทำของ ว. และจำเลยอาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ในเวลาต่อมา ก็เป็นเรื่องนอกคำขอท้ายฟ้องคดีนี้ และศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิของโจทก์ให้กระทบกระเทือนถึง ว. ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและไม่มีโอกาสต่อสู้คดีหาได้ไม่ ศาลจึงไม่จำต้องรับคำร้องของโจทก์ไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2708/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องคุ้มครองสิทธิชั่วคราวต้องสอดคล้องกับคำฟ้องและตัวทรัพย์ที่พิพาท หากไม่สอดคล้องศาลไม่จำเป็นต้องรับคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทำหนังสือมอบอำนาจให้แก่โจทก์เพื่อให้โจทก์มีสิทธิและอำนาจดำเนินการขุดแร่หรือโอนขายประทานบัตรและอื่น ๆ ได้ทั้งสิ้นตามสัญญาขายสิทธิการทำเหมืองแร่เช่นดังที่จำเลยได้เคยทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ไว้แต่เดิมและขอให้เพิกถอนหนังสือมอบอำนาจที่จำเลยมอบอำนาจให้ ว. มาเปิดทำการขุดหาแร่ในที่ประทานบัตรที่ขายให้โจทก์ อันเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้แล้วโจทก์มีคำขอให้ศาลสั่งห้ามชั่วคราวมิให้จำเลยและ ว. เข้าทำเหมืองแร่ดังนี้ คำฟ้องของโจทก์มิใช่เรื่องขอให้บังคับเอาแก่ตัวทรัพย์หรือเหมืองแร่ที่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิของโจทก์เลยและโจทก์มิได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายมาด้วยเหมืองแร่ที่ ว. เข้าไปทำจึงมิใช่ตัวทรัพย์ที่พิพาทในคดีนี้การที่โจทก์มายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิของโจทก์ดังกล่าว จึงไม่ตรงกับการกระทำที่จำเลยถูกฟ้อง ซึ่งไม่เกี่ยวกับตัวทรัพย์หรือเหมืองแร่หากการกระทำของ ว. และจำเลยอาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ในเวลาต่อมาก็เป็นเรื่องนอกคำขอท้ายฟ้องคดีนี้ และศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิของโจทก์ให้กระทบกระเทือนถึง ว. ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและไม่มีโอกาสต่อสู้คดีหาได้ไม่ ศาลจึงไม่จำต้องรับคำร้องของโจทก์ไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2611/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงมอบเงินฝากเป็นประกันความเสียหาย ไม่ถือเป็นการจำนำ ทำให้ผู้ร้องไม่เป็นเจ้าหนี้มีประกันในคดีล้มละลาย
การที่จำเลยที่ 1 ตกลงมอบเงินฝากพร้อมใบรับฝากแก่ผู้ร้อง เพื่อเป็นประกันความเสียหายที่ผู้ร้องออกหนังสือค้ำประกันจำเลยที่ 1 ไว้ต่อกรมทางหลวงให้ผู้ร้องมีอำนาจหักเงินจากบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 ชำระค่าเสียหายที่ผู้ร้องต้องชดใช้แทนได้ทันที และจำเลยที่ 1 จะไม่ถอนเงินฝากจนกว่า ผู้ร้องจะพ้นภาระความรับผิดชอบตามหนังสือค้ำประกันนั้น ข้อตกลงดังกล่าวไม่เป็นการจำนำเงินฝาก ผู้ร้องจึงไม่เป็นเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 95
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2611/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงมอบเงินฝากเป็นประกันความเสียหาย ไม่ถือเป็นการจำนำ ผู้ร้องจึงไม่เป็นเจ้าหนี้มีประกันตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
การที่จำเลยที่ 1 ตกลงมอบเงินฝากพร้อมใบรับฝากแก่ผู้ร้อง เพื่อเป็นประกันความเสียหายที่ผู้ร้องออกหนังสือค้ำประกันจำเลยที่ 1 ไว้ต่อกรมทางหลวง ให้ผู้ร้องมีอำนาจหักเงินจากบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 ชำระค่าเสียหายที่ผู้ร้องต้องชดใช้แทนได้ทันที และจำเลยที่ 1 จะไม่ถอนเงินฝากจนกว่าผู้ร้องจะพ้นภาระความรับผิดชอบตามหนังสือค้ำประกันนั้น ข้อตกลงดังกล่าวไม่เป็นการจำนำเงินฝาก ผู้ร้องจึงไม่เป็นเจ้าหน้าที่มีประกันตามประราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 95
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2587/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลต้องใช้ข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาคดีอาญา
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีอาญาในความผิดฐานฉ้อโกงว่าโจทก์เข้าทำสัญญาโอนกิจการปั๊มน้ำมันและสิ่งปลูกสร้างจากจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 ทำกลฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์ว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของและเป็นผู้มีสิทธิดำเนินกิจการปั๊มน้ำมันที่ขายสิทธิให้โจทก์ แต่ความจริงปั๊มน้ำมันเป็นของบริษัทน้ำมันเอง และจำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิดำเนินกิจการ ศาลพิพากษายกฟ้อง การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีแพ่งเรียกคืนเงินที่จ่ายตามสัญญาดังกล่าว จึงเป็นการฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาศาลจึงต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2577-2581/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งคำสั่งรื้อถอนอาคารและการอุทธรณ์ตามกฎหมายรักษาความสะอาดฯ หากไม่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย จะไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีคำสั่งให้รื้อถอนอาคารที่พิพาทโดยได้ส่งคำสั่งให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ครอบครองทราบโดยชอบแล้วโจทก์ไม่อุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยภายใน 15 วัน ตามที่ พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองฯ มาตรา 12 วรรคสองกำหนดไว้ ถือได้ว่าโจทก์มิได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลีกเลี่ยงภาษีโดยการแสดงรายการเท็จ แม้ผู้กระทำจะเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร
ประมวลรัษฎากร มาตรา 37 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2502 มาตรา 14 หาได้บัญญัติว่า ผู้ที่จะมีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่มีการหลีกเลี่ยงไม่ เมื่อจำเลยซึ่งจดทะเบียนการค้าเป็นผู้ประกอบกิจการโรงเลื่อยจักรยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้ ภาษีการค้าจากการประกอบกิจการโรงเลื่อยจักรดังกล่าวเท็จ โดยแสดงรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริงเห็นได้ว่าเพื่อให้มีการเสียภาษีต่ำกว่าที่ต้องเสียและได้เสียภาษีเงินได้ ภาษีการค้าขาดไปเพราะการแสดงรายการเป็นเท็จนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีเงินได้ ภาษีการค้าโดยความเท็จและโดยฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลีกเลี่ยงภาษีโดยการแสดงรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริง แม้ผู้กระทำจะเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีหรือไม่
ประมวลรัษฎากร มาตรา 37 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 16) พ.ศ.2502 มาตรา 14 หาได้บัญญัติว่า ผู้ที่จะมีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่มีการหลีกเลี่ยงไม่ เมื่อจำเลยซึ่งจดทะเบียนการค้าเป็นผู้ประกอบกิจการโรงเลื่อยจักรยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้ ภาษีการค้าจากการประกอบกิจการโรงเลื่อยจักรดังกล่าวเท็จ โดยแสดงรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริงเห็นได้ว่าเพื่อให้มีการเสียภาษีต่ำกว่าที่ต้องเสียและได้เสียภาษีเงินได้ภาษีการค้าขาดไปเพราะการแสดงรายการเป็นเท็จนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีเงินได้ภาษีการค้าโดยความเท็จและโดยฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2558/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้: สิทธิเรียกร้องที่มีข้อต่อสู้ไม่อาจนำมาหักกลบลบหนี้ได้
ได้ความว่าจำเลยมีหนี้ต้องใช้เงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์ และโจทก์ก็ได้สั่งจ่ายเช็คเอกสารหมาย ล.1 ชำระหนี้อีกรายหนึ่งแก่จำเลยซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว เมื่อปรากฏว่าในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบโต้เถียงว่า โจทก์กับจำเลยได้หักทอนบัญชีกันแล้ว จำเลยยังคงเป็นลูกหนี้โจทก์อีกเป็นจำนวนหนึ่ง ดังนี้ เป็นการต่อสู้ว่าหนี้ที่โจทก์ต้องใช้เงินแก่จำเลยตามเช็ค เอกสารหมาย ล.1 ระงับไปแล้วด้วยการหักกลลบหนี้และโจทก์ไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระแก่จำเลยอีกถือได้ว่าสิทธิเรียกร้องที่จำเลยนำมาขอหักกลบลบหนี้ยังมีข้อต่อสู้อยู่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344 จำเลยจึงจะนำสิทธิเรียกร้องตามเช็คเอกสารหมาย ล.1 มาขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2558/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้ต้องไม่เป็นหนี้ที่มีข้อต่อสู้ จึงจะทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344
ได้ความว่าจำเลยมีหนี้ต้องใช้เงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์และโจทก์ก็ได้สั่งจ่ายเช็คเอกสารหมาย ล.1 ชำระหนี้อีกรายหนึ่งแก่จำเลยซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว เมื่อปรากฏว่าในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบโต้เถียงว่า โจทก์กับจำเลยให้หักทอนบัญชีกันแล้ว จำเลยยังคงเป็นลูกหนี้โจทก์อีกเป็นจำนวนหนึ่งดังนี้ เป็นการต่อสู้ว่าหนี้ที่โจทก์ต้องใช้เงินแก่จำเลยตามเช็คเอกสารหมาย ล.1 ระงับไปแล้วด้วยการหักกลบลบหนี้และโจทก์ไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระแก่จำเลยอีกถือได้ว่าสิทธิเรียกร้องที่จำเลยนำมาขอหักกลบลบหนี้ยังมีข้อต่อสู้อยู่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344 จำเลยจึงจะนำสิทธิเรียกร้องตามเช็คเอกสารหมาย ล.1 มาขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์ไม่ได้