คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชลูตม์ สวัสดิทัต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 914 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2183/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนความผิดป่าไม้: ผู้รับจ้างบรรทุกไม้ผิดกฎหมาย ไม่ถือว่าครอบครอง แต่มีความผิดฐานสนับสนุน
จำเลยรับจ้างบรรทุกไม้ขึ้นบรรทุกรถยนต์โดยสารของจำเลยโดยรู้ว่าเป็นไม้หวงห้ามผิดกฎหมายโดยเจ้าของควบคุมไปด้วยยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีไม้ของกลางไว้ในความครอบครอง แต่เป็นผู้สนับสนุนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 861

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนตัวผู้เช่าทำให้สัญญาเช่าเดิมระงับ และไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.เช่านา
จำเลยเช่านาโจทก์ทำมาตั้งแต่ พ.ศ.2510 เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าแล้วจำเลยไม่ได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์ ครั้นพ.ศ. 2517 จำเลยให้บุตรของจำเลยสองคนเช่าทำนาดังกล่าวกับโจทก์ ดังนี้ เป็นการเปลี่ยนตัวผู้เช่าจากจำเลยมาเป็นบุตรของจำเลยเป็นผู้เช่าโดยตรงกับโจทก์ ฉะนั้นสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยจึงระงับสิ้นไปแล้วตั้งแต่พ.ศ.2517 จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2087/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าร่วมกัน การสนับสนุนการกระทำผิด และความรับผิดฐานตัวการร่วม
การที่จำเลยมาพร้อมกับพวก จำเลยได้ทะเลาะกับผู้ตายทั้งยกเก้าอี้จะเข้าตีผู้ตายกับพวกก่อน เมื่อพวกของจำเลยได้ยิงผู้ตาย 1 นัด จำเลยได้ร้องบอกพวกว่ายิงซ้ำมันเลย ยิงซ้ำมันเลย คำพูดของจำเลยส่อแสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายเมื่อพวกของจำเลยยิงผู้ตายแล้ว จำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปด้วยกัน การกระทำของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการร่วมมือกับพวกจำเลยฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดเป็นตัวการร่วมกระทำผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2087/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมกระทำผิดฆ่าผู้อื่น: เจตนาจากการสนับสนุนให้ยิงซ้ำ
การที่จำเลยมาพร้อมกับพวก จำเลยได้ทะเลาะกับผู้ตายทั้งยกเก้าฮี้ จะเข้าตีผู้ตายกับพวกก่อน เมื่อพวกของจำเลยได้ยิงผู้ตาย 1 นัด จำเลย ได้ร้องบอกพวกว่ายิงซ้ำมันเลย ยิงซ้ำมันเลย คำพูดของจำเลยส่อแสดงให้เห็น ชัดว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย เมื่อพวกของจำเลยยิงผู้ตายแล้ว จำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปด้วยกัน การกระทำของจำเลยดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการ่วมมือกับ พวกจำเลยฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดเป็นตัวการร่วมกระทำผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2064/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนอำนาจชี้ขาดประเมินภาษีโรงเรือนฯ จากอธิบดีกรมสรรพากร มาเป็นคณะเทศมนตรี ตามกฎหมายเทศบาล
อำนาจชี้ขาดคำร้องขอให้พิจารณาการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินตาม มาตรา 25 แห่ง พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475ซึ่งเป็นของอธิบดีกรมสรรพากรตกมาเป็นของคณะเทศมนตรีตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และ พระราชบัญญัติรายได้เทศบาล พ.ศ.2497

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2042/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติดเป็นกรรมต่างหากจากการมีไว้เพื่อจำหน่าย แม้จะเป็นยาเสพติดชุดเดียวกัน
มีเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย 4 หลอด จำหน่ายไป 1 หลอด จับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนที่เหลือ 3 หลอดกับเงินที่ล่อซื้อ ความผิดฐานมีเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย 4 หลอด กับจำหน่ายเฮโรอีน 1 หลอด เป็นต่างกระทงกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาต่างตอบแทน & สิทธิเรียกร้องเช็ค: โจทก์ผิดสัญญาเช่าก่อน จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินจากเช็ค
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค จำเลยให้การว่าจำเลยออกเช็คพิพาทมอบให้บุตรจำเลยนำไปชำระค่าโอนสิทธิการเช่าตึกแถวจากธ. ในฐานะส่วนตัวและในฐานะ ธ. เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างโจทก์ แล้ว ธ. และโจทก์ผิดสัญญาไม่ขนย้ายออกไปและไม่มอบตึกแถวให้บุตรจำเลยตามกำหนด บุตรจำเลยจึงขอให้จำเลยแจ้งธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คไว้ดังนี้ สัญญาโอนสิทธิการเช่าตามที่จำเลยให้การเป็นสัญญาต่างตอบแทน หากโจทก์ผิดสัญญาไม่ขนย้ายออกไปและไม่ส่งมอบตึกแถวให้บุตรจำเลย โจทก์ก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้บุตรจำเลยชำระหนี้ และไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยให้ใช้เงินตามเช็คพิพาทซึ่งออกเพื่อชำระหนี้ของบุตรจำเลยด้วย คำให้การจำเลยจึงเป็นการต่อสู้ว่าสิทธิของโจทก์ในฐานะผู้ทรงบกพร่องเพราะไม่อาจบังคับตามมูลหนี้ได้ และเมื่อศาลชั้นต้นก็กำหนดประเด็นพิพาทไว้ว่า เช็คมีมูลหนี้หรือไม่คดีจึงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ผิดสัญญาหรือไม่
ธ. ในฐานะส่วนตัวและในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์ทำสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกแถวกับบุตรจำเลย ธ. ยอมรับเช็คพิพาทสั่งจ่ายวันที่ 15 มิถุนายน 2515 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ ธ. และโจทก์ต้องขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากตึกแถวแสดงว่าคู่สัญญาตกลงจะปฏิบัติชำระหนี้ตอบแทนกันในวันเดียวกัน การที่สัญญามีข้อความว่า "และผู้รับเงินได้รับเงินจำนวนนี้ไปเป็นการถูกต้องและเรียบร้อยแล้วในวันทำสัญญานี้" คงมุ่งหมายเพียงให้เป็นหลักฐานว่า ธ. และโจทก์ได้รับเช็คเป็นการชำระค่าตอบแทนไปแล้ว หาได้หมายความว่าบุตรจำเลยต้องชำระหนี้เป็นตัวเงินตอบแทนก่อน แล้ว ธ. และโจทก์จึงจะต้องขนย้ายออกไปจากตึกแถวไม่ เมื่อ ธ.และโจทก์ไม่ขนย้ายออกไปจากตึกแถวภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2515 จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา และไม่มีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยให้ใช้เงินตามเช็คพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1926-1927/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีเงินได้จากค่าเช่าฟิลม์ภาพยนตร์ต่างประเทศ: เงินได้พึงประเมินคือเงินที่จ่ายให้บริษัทต่างประเทศหลังหักค่าใช้จ่าย
โจทก์เป็นบริษัทจำกัด จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลที่ประเทศสหรัฐอเมริกาประกอบธุรกิจให้เช่าและจัดจำหน่ายฟิลม์ภาพยนตร์ มีสำนักงานสาขาอยู่ในประเทศไทยโจทก์เช่าฟิลม์ภาพยนตร์จากบริษัทต่างประเทศแล้วเอาเข้ามาฉายในประเทศไทย ซึ่งทางโรงภาพยนตร์จะแบ่งปันรายได้ให้แก่โจทก์โจทก์จะหักไว้เป็นรายได้ของโจทก์ร้อยละ 40 ส่วนที่เหลือร้อยละ 60 ต้องหักค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ค่าตัดต่อฟิลม์ค่าพิมพ์คำบรรยายค่าบันทึกเสียงหรือพากย์ และค่าตรวจเซนเซ่อร์เสียก่อน เหลือเท่าไรบริษัทต่างประเทศจึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาจากโจทก์ได้และโจทก์มีหน้าที่ตามสัญญาที่จะต้องส่งเงินสุทธิดังกล่าวเท่านั้นไปให้บริษัทต่างประเทศดังนั้นเงินค่าเช่าฟิลม์ภาพยนตร์ซึ่งถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมินที่โจทก์จะต้องรับผิดเสียภาษีตามมาตรา 40(5) ประกอบด้วยมาตรา 70 จึงได้แก่เงินที่โจทก์จ่ายให้บริษัทต่างประเทศหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังกล่าวแล้วและการคำนวณภาษีเงินได้ของเงินดังกล่าวจะต้องหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาให้อีกร้อยละ 10 ของเงินที่เหลือตามมาตรา 70(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรสที่เกิดจากการข่มขู่ด้วยอาวุธ และการฟ้องเพิกถอนการสมรสเป็นโมฆียะกรรม
ชายมีปืนขู่พาหญิงไปร่วมประเวณีและจดทะเบียนสมรส หญิงเพิกถอนได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1491 วรรค2 เดิม ซึ่งใช้อยู่ในขณะเกิดเหตุ การฟ้องคดีเป็นการบอกล้างโมฆียะกรรมไปในตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1754/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ: การอยู่กินฉันสามีภรรยาโดยลำพัง ไม่จำกัดเฉพาะเรือนหลังใหญ่
ยอมความว่า จำเลยยอมไปอยู่กินกับโจทก์ที่บ้านโจทก์โดยลำพังนับแต่วันจดทะเบียนสมรสไม่ได้ระบุว่าต้องอยู่ที่เรือนใหญ่โจทก์ปลูกเรือนเพื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังอีกหลังหนึ่ง เป็นการตรงตามสัญญายอมแล้ว จำเลยไม่ยอมจดทะเบียนสมรสและไปอยู่กับโจทก์ผิดสัญญายอม โจทก์ยึดทรัพย์ใช้ค่าเสียหายตามยอมได้
of 92