พบผลลัพธ์ทั้งหมด 914 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งศาล กรณีไม่กำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมอุทธรณ์ และอำนาจศาลในการกำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียม
การที่ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยว่า "โดยเหตุที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้ผัดการนำตัวจำเลยมาสาบานตามคำร้องของจำเลยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสั่งคำร้องนี้" โดยมิได้กำหนดเวลาให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์มาชำระภายในระยะเวลาอันสมควร จำเลยจึงมีสิทธิฟ้องอุทธรณ์คำสั่งจขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งกำหนดเวลาให้ชำระค่าธรรมเนียมให้ครบภายในเวลาอันสมควรได้ ส่วนศาลอุทธรณ์จะเห็นสมควรกำหนดเวลาให้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นอำนาจทั่ว ๆ ไป ในกรณีที่ไม่มีกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะตามความยุติธรรมและความเหมาะสม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์ค่าธรรมเนียม - การปฏิเสธคำร้องฟ้องอุทธรณ์อย่างอนาถา - กำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียม
การที่ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยว่า "โดยเหตุที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้ผัดการนำตัวจำเลยมาสาบานตามคำร้องของจำเลยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสั่งคำร้องนี้" โดยมิได้กำหนดเวลาให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์มาชำระภายในระยะเวลาอันสมควร จำเลยจึงมีสิทธิฟ้องอุทธรณ์คำสั่งขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งกำหนดเวลาให้ชำระค่าธรรมเนียมให้ครบภายในเวลาอันสมควรได้ส่วนศาลอุทธรณ์จะเห็นสมควรกำหนดเวลาให้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นอำนาจทั่ว ๆ ไปในกรณีที่ไม่มีกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะตามความยุติธรรมและความเหมาะสม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องยื่นจดทะเบียนก่อน หากถูกปฏิเสธจึงฟ้องได้
บิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ถ้า) ประสงค์จะจดทะเบียนบุตรที่เกิด ก่อนสมรสให้เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายจะต้องไปขอจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายต่อสำนักทะเบียนถ้าเด็กหรือมารดาเด็กคัดค้านการขอจดทะเบียนบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงจะมีอำนาจนำคดีมาฟ้องศาลได้โดยฟ้องเด็กและมารดาร่วมกันเป็นจำเลย เมื่อปรากฏทั้งจากคำบรรยายฟ้องของโจทก์และทางนำสืบว่าก่อนฟ้องโจทก์ไม่เคยไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนรับรองเด็กชายโอภาสต่อนายทะเบียนหรือจำเลยได้คัดค้านการขอจดทะเบียนข้อโต้แย้งสิทธิตามกฎหมายจึงยังไม่เกิดขึ้นแก่โจทก์โจทก์ไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้องจำเลยต่อศาล แม้จำเลยจะมิได้ยกข้อต่อสู้เรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ ไว้ในคำให้การและไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ตามศาลฎีกาก็ยกขึ้นได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยไปให้ความยินยอมจดทะเบียนว่าเด็กชาย อ. เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ จำเลยให้การและฟ้องแย้งขอให้โจทก์ มอบคืนเด็กชาย อ. แก่จำเลย แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลก็พิพากษาให้โจทก์มอบเด็กชาย อ. คืน ให้กับจำเลยตามฟ้องแย้งได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยไปให้ความยินยอมจดทะเบียนว่าเด็กชาย อ. เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ จำเลยให้การและฟ้องแย้งขอให้โจทก์ มอบคืนเด็กชาย อ. แก่จำเลย แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลก็พิพากษาให้โจทก์มอบเด็กชาย อ. คืน ให้กับจำเลยตามฟ้องแย้งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีจดทะเบียนรับรองบุตร ต้องยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนก่อน หากถูกคัดค้านจึงฟ้องศาลได้
บิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ถ้า) ประสงค์จะจดทะเบียนบุตรที่เกิดก่อนสมรสให้เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายจะต้องไปขอจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมยต่อสำนักทะเบียน ถ้าเด็กหรือมารดาเด็กคัดค้านการขอจดทะเบียน บิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงจะมีอำนาจนำคดีฟ้องศาลได้ โดยฟ้องเด็กและมารดาร่วมกันเป็นจำเลย เมื่อปรากฏทั้งจากคำบรรยายฟ้องของโจทก์และทางนำสืบว่าก่อนฟ้องโจทก์ไม่เคยไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนรับรองเด็กขายโอภาส ต่อนายทะเบียนหรือจำเลยได้คัดค้านการขอจดทะเบียนข้อโต้แย้งสิทธิตามกฎหมายจึงยังไม่เกิดขึ้นแก่โจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้องจำเลยต่อศาล แม้จำเลยจะมิได้ยกข้อต่อสู้เกิดขึ้นแก่โจทก์ ไว้ในคำให้การและไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ตาม ศาลฎีกาก็ยกขึ้นได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5)
โจทก็์ฟ้องขอให้จำเลยไปให้ความยินยอมจดทะเบียนว่าเด็กชาย อ. เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ จำเลยให้การและฟ้องแย้งขอให้โจทก์มอบคืนเด็กชาย อ. แก่จำเลย แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลก็พิพากษาให้โจทก์มอบเด็กชาย อ. คืนให้กับจำเลยตามฟ้องแย้งได้
โจทก็์ฟ้องขอให้จำเลยไปให้ความยินยอมจดทะเบียนว่าเด็กชาย อ. เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ จำเลยให้การและฟ้องแย้งขอให้โจทก์มอบคืนเด็กชาย อ. แก่จำเลย แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลก็พิพากษาให้โจทก์มอบเด็กชาย อ. คืนให้กับจำเลยตามฟ้องแย้งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน: ความผิดตามมาตรา 172/173 เกิดขึ้นเมื่อแจ้งความต่อผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเท่านั้น
แจ้งความเท็จต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย ซึ่งขณะนั้นเป็นรองอธิบดีกรมตำรวจมีอำนาจสืบสวนคดีอาญาด้วย แต่แจ้งความในฐานะรัฐมนตรี ไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 172,173
ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จำคุก 1 ปี ปรับ 600 บาท ให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์20,000 บาท ศาลเห็นควรรอการลงโทษจำคุกไว้ 3 ปี เพราะเป็นความผิดเล็กน้อยและเสียค่าสินไหมทดแทนสูงพอที่จะทำให้รู้สำนึกแล้ว
ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จำคุก 1 ปี ปรับ 600 บาท ให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์20,000 บาท ศาลเห็นควรรอการลงโทษจำคุกไว้ 3 ปี เพราะเป็นความผิดเล็กน้อยและเสียค่าสินไหมทดแทนสูงพอที่จะทำให้รู้สำนึกแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายงานกระบวนพิจารณาที่ศาลจดบันทึก แม้โจทก์ไม่ลงชื่อ ก็มีผลผูกพันตามกฎหมาย หากศาลจดเหตุผลที่โจทก์ไม่ลงชื่อไว้
ศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาไว้ โจทก์ไม่ยอมลงชื่อรับรู้ศาลจดแจ้งเหตุที่ไม่มีลายมือชื่อโจทก์ลงไว้ว่าโจทก์ไม่ยอมเซ็นชื่อเป็นการชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 50 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรโดยชายที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส อาศัยหลักฐานความสัมพันธ์และการตรวจ DNA
ชายหญิงอยู่ด้วยกันอย่างสามีภริยาโดยเปิดเผย หญิงตั้งครรภ์และคลอดบุตร หญิงมารดาฟ้องชายให้รับรองบุตรได้
ผู้เชี่ยวชาญทำความเห็นเป็นหนังสือ ไม่ต้องมาเป็นพยานเบิกความประกอบก็ฟังได้
ผู้เชี่ยวชาญทำความเห็นเป็นหนังสือ ไม่ต้องมาเป็นพยานเบิกความประกอบก็ฟังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับอาวัลต้องรับผิดชอบหนี้เช่นลูกหนี้ชั้นต้น แม้มีการผ่อนเวลาชำระ และอายุความไม่ขาดเพราะมีการรับสารภาพหนี้
การที่ผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินยอมผ่อนเวลาให้กับผู้ออกตั๋วนั้นไม่เป็นเหตุให้ผู้รับอวัลหยุดพ้นจากความรับผิด เพราะผู้รับอาวัลย่อมต้องผูกพันเป็นอย่งเดียวกันกับบุคคลซึ่งตนประกันจึงอยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้ชั้นต้นเช่นเดียวกับผู้ออกตั๋ว และไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ค้ำประกันตามหลักทั่วไปในเรื่องค้ำประกัน
ผู้รับอาวัลสั่งจ่ายเช็คจำนวนหนึ่งผ่อนชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นการรับสารภาพหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น และย่อมเป็นเหตุให้อายุความสดุดหยุดลง
ผู้รับอาวัลสั่งจ่ายเช็คจำนวนหนึ่งผ่อนชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นการรับสารภาพหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น และย่อมเป็นเหตุให้อายุความสดุดหยุดลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินมีฐานะเป็นลูกหนี้ชั้นต้น อายุความสะดุดหยุดเมื่อมีการผ่อนชำระ
การที่ผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินยอมผ่อนเวลาให้กับผู้ออกตั๋วนั้นไม่เป็นเหตุให้ผู้รับอาวัลหลุดพ้นจากความรับผิด เพราะผู้รับอาวัลย่อมต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกันกับบุคคลซึ่งตนประกันจึงอยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้ชั้นต้นเช่นเดียวกับผู้ออกตั๋ว และไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ค้ำประกันตามหลักทั่วไปในเรื่องค้ำประกัน
ผู้รับอาวัลสั่งจ่ายเช็คจำนวนหนึ่งผ่อนชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นการรับสภาพหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น และย่อมเป็นเหตุให้อายุความสดุดหยุดลง
ผู้รับอาวัลสั่งจ่ายเช็คจำนวนหนึ่งผ่อนชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นการรับสภาพหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น และย่อมเป็นเหตุให้อายุความสดุดหยุดลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิพากษาแก้โทษในคดีอาญา แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ หากโจทก์อุทธรณ์ขอแก้ไขโทษ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกรรโชก ชิงทรัพย์ และพาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์และพาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร จำเลยมิได้อุทธรณ์ แต่โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานกรรโชคอีกด้วย เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดียังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายชิงทรัพย์และหาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร แต่เชื่อว่าจำเลยเป็นคนร้ายกรรโชคทรัพย์ผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษาแก้เสียให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 โดยไม่ใช่กรณีที่ต้องอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 เพราะมิใช่เป็นเหตุในลักษณะคดี แต่เป็นเรื่องคดียังไม่ถึงที่สุดซึ่งศาลอาจพิพากษาเป็นอย่างอื่นได้