พบผลลัพธ์ทั้งหมด 914 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเช็ค: การต่อสู้ว่าโจทก์ร่วมฉ้อฉลจำเลยและผลต่อการเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบ
คำให้การของจำเลยมีความว่า จำเลยไม่เคยรู้จัก ไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ไม่เคยมีมูลหนี้กับโจทก์และนางสาวศิริพร การซื้อขายแหวนเพชรระหว่างโจทก์กับนางสาวศิริพรเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความจริง โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและใช้สิทธิไม่สุจริต พอถือได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์คบคิดกับนางสาวศิริพรฉ้อฉลจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเช็ค: การต่อสู้ว่าโจทก์ฉ้อฉลจำเลยมีผลให้ถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่ชอบ
คำให้การของจำเลยมีความว่า จำเลยไม่เคยรู้จักไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ไม่เคยมีมูลหนี้กับโจทก์และนางสาวศิริพรการซื้อขายแหวนเพชรระหว่างโจทก์กับนางสาวศิริพรเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้นฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความจริงโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและใช้สิทธิไม่สุจริตพอถือได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์คบคิดกับนางสาวศิริพรฉ้อฉลจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนใบอนุญาตสมาคมและมูลนิธิ, การควบคุมทรัพย์สิน, และการขอคุ้มครองชั่วคราว
เหตุที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจำเลยที่ 1 ขีดชื่อสมาคมซึ่งโจทก์เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลออกจากทะเบียนสมาคมและจำเลยที่1กับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายอำเภอได้เข้าควบคุมกิจการและทรัพย์สินของสมาคมและมูลนิธิก็เพราะสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติฯเพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งสมาคมและมูลนิธินี้เนื่องจากร่วมกันกระทำการเป็นไปในทางนำความเสื่อมเสียมาสู่วัฒนธรรมของชาติและร่วมกันกระทำการอันอาจเป็นภัยกับความมั่นคงของชาติฯลฯพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนดังนั้น เมื่อคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของโจทก์มีวัตถุประสงค์ที่จะให้มูลนิธิและสมาคมได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่อไปจึงยังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษามาคุ้มครองให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนใบอนุญาตสมาคมและมูลนิธิกรณีขัดต่อความมั่นคงและวัฒนธรรมของชาติ และคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว
เหตุที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจำเลยที่ 1 ขีดชื่อสมาคมซึ่งโจทก์เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลออกจากทะเบียนสมาคม และจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายอำเภอได้เข้าควบคุมกิจการและทรัพย์สินของสมาคมและมูลนิธิก็ เพราะสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ ฯ เพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งสมาคมและมูลนิธินี้เนื่องจากร่วมกันกระทำการเป็นไปในทางนำความเสื่อมเสียมาสู่วัฒนธรรมของชาติ และร่วมกันกระทำการอันอาจเป็นภัยกับความมั่นคงของชาติ ฯลฯ พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ดังนั้น เมื่อคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของโจทก์มีวัตถุประสงค์ที่จะให้มูลนิธิและสมาคมได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่อไปจึงยังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษามาคุ้มครองให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์: การแบ่งหน้าที่คุมดูต้นทางถือเป็นตัวการ
จำเลยกับพวกคนร้ายที่ขึ้นบ้านปล้นทรัพย์พายเรือไปด้วยกัน 2 ลำเมื่อถึงบ้านเจ้าทรัพย์ก็จอดเรือไว้หน้าบ้าน จำเลยกับพวกอีก 2 คนอยู่ในเรือ พวกของจำเลยอีก 3 คนในเรืออีกลำหนึ่งขึ้นบนบ้าน ปล้นได้ทรัพย์แล้วกลับมาลงเรือ จำเลยกับพวกทั้งหมดพายเรือ กลับไปด้วยกัน การที่จำเลยจอดเรืออยู่ที่หน้าบ้านเจ้าทรัพย์พฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยอยู่ในลักษณะคุมดูต้นทางและ สามารถช่วยเหลือให้การปล้นทรัพย์สำเร็จลุล่วงไป เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำและร่วมกระทำผิดด้วยกัน จำเลยจึงเป็นตัวการในการปล้นทรัพย์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการร่วมกันปล้นทรัพย์ การแบ่งหน้าที่ และการเป็นตัวการ
จำเลยกับพวกคนร้ายที่ขึ้นบ้านปล้นทรัพย์พายเรือไปด้วยกัน 2 ลำเมื่อถึงบ้านเจ้าทรัพย์ก็จอดเรือไว้หน้าบ้าน จำเลยกับพวกอีก 2 คนอยู่ในเรือ พวกของจำเลยอีก 3 คนในเรืออีกลำหนึ่งขึ้นบนบ้านปล้นได้ทรัพย์แล้วกลับมาลงเรือ จำเลยกับพวกทั้งหมดพายเรือกลับไปด้วยกัน การที่จำเลยจอดเรืออยู่ที่หน้าบ้านเจ้าทรัพย์ พฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยอยู่ในลักษณะคุมดูต้นทางและสามารถช่วยเหลือให้การปล้นทรัพย์สำเร็จลุล่วงไป เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำและร่วมกระทำผิดด้วยกัน จำเลยจึงเป็นตัวการในการปล้นทรัพย์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทสิ้นสุดเมื่อโจทก์พ้นสถานะกรรมการและไม่มีส่วนได้เสียในบริษัท
โจทก์ฟ้องคดีในนามของโจทก์ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท มิใช่ฟ้อง ในฐานะทำการแทนบริษัทเพื่อบังคับจำเลยให้รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง กรรมการและอำนาจกรรมการของบริษัทให้โจทก์เป็นกรรมการแต่เพียงผู้เดียว มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท อันถือได้ว่าโจทก์ เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง จึงมีอำนาจฟ้องคดีในขณะยื่นฟ้อง แต่เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทและไม่ได้เกี่ยวข้อง กับบริษัทอีกต่อไปแล้วทั้งที่ประชุมวิสามัญของผู้ถือหุ้นได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่ากรรมการบริษัทประกอบด้วยกรรมการ 2 คน ไม่ใช่โจทก์ จึงถือว่าโจทก์ ไม่มีส่วนได้เสียโดยตรงในคดีนี้อีกต่อไป อำนาจฟ้องของโจทก์จึงหมดลง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเปลี่ยนแปลงกรรมการหมดลงเมื่อโจทก์พ้นสภาพกรรมการและไม่มีส่วนได้เสียในบริษัท
โจทก์ฟ้องคดีในนามของโจทก์ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท มิใช่ฟ้องในฐานะทำการแทนบริษัท เพื่อบังคับจำเลยให้รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการและอำนาจกรรมการของบริษัทให้โจทก์เป็นกรรมการแต่เพียงผู้เดียว มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท อันถือได้ว่าโจทก์ เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง จึงมีอำนาจฟ้องคดีในขณะยื่นฟ้อง แต่เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทและไม่ได้เกี่ยวข้อง กับบริษัทอีกต่อไปแล้ว ทั้งที่ประชุมวิสามัญของผู้ถือหุ้นได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่ากรรมการบริษัทประกอบด้วยกรรมการ 2 คน ไม่ใช่โจทก์ จึงถือว่าโจทก์ไม่มีส่วนได้เสียโดยตรงในคดีนี้อีกต่อไป อำนาจฟ้องของโจทก์จึงหมดลง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่เกิดจากการซื้อลดเช็คของลูกหนี้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าหนี้ทราบแต่ยังยินยอม ทำให้หนี้นั้นไม่อาจบังคับชำระได้
เช็คที่ลูกหนี้เอาไปขายลดให้เจ้าหนี้เริ่มขาดความเชื่อถือเพราะขึ้นเงินไม่ได้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2523 ก่อนที่ลูกหนี้ จะนำเช็คพิพาทมาขายลดให้เจ้าหนี้ในเดือนตุลาคม 2523 โดยเช็คเหล่านั้นลูกหนี้เป็นผู้ลงชื่อสลักหลัง ซึ่งลูกหนี้จะต้องร่วมกับผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อเจ้าหนี้แต่ลูกหนี้ก็มิได้ชำระ จึงถือได้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้ว การที่เจ้าหนี้ยินยอมซื้อลดเช็คพิพาทไว้อีก ย่อมเห็นได้ว่าเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ขึ้นทั้งๆที่เจ้าหนี้รู้ถึง การที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ ตามมาตรา 94(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่เกิดขึ้นหลังรู้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่อาจขอรับชำระในคดีล้มละลาย
เช็คที่ลูกหนี้เอาไปขายลดให้เจ้าหนี้เริ่มขาดความเชื่อถือเพราะขึ้นเงินไม่ได้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2523 ก่อนที่ลูกหนี้ จะนำเช็คพิพาทมาขายลดให้เจ้าหนี้ในเดือนตุลาคม 2523 โดยเช็คเหล่านั้นลูกหนี้เป็นผู้ลงชื่อสลักหลังซึ่งลูกหนี้จะต้องร่วมกับ ผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อเจ้าหนี้แต่ลูกหนี้ก็มิได้ชำระ จึงถือได้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้ว การที่เจ้าหนี้ยินยอมซื้อลดเช็คพิพาทไว้อีก ย่อมเห็นได้ว่าเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ขึ้นทั้งๆที่เจ้าหนี้รู้ถึง การที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ ตามมาตรา 94(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483