คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เพียร ศรีอรุณ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 535 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับหนี้โดยการลงลายมือชื่อรับเงินภายหลัง ทำให้เอกสารมีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย
เอกสารลงวันที่ 4 มกราคม 2521 ซึ่งจำเลยเขียนให้โจทก์ภายหลังทำเอกสารสัญญากู้หมาย จ.1- จ.5 มีใจความว่าจำเลยค้างเงินโจทก์เป็นเงิน 3,732 บาท ไม่คิดดอกเบี้ย จะชำระให้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2521 และลงลายมือชื่อจำเลยฝ่ายเดียว ต่อมาวันที่ 3 มีนาคม 2521จำเลยชำระเงินรายนี้ให้โจทก์ 1,000 บาท โจทก์ลงลายมือชื่อรับเงินไว้ใกล้ ๆ กับข้อความที่จำเลยเขียนให้ไว้เดิม ถือได้ว่าโจทก์ยอมรับความถูกต้องของข้อความในเอกสารทั้งหมด จึงเป็นหลักฐานการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงจดทะเบียนภารจำยอมมีผลผูกพัน แม้ยังมิได้จดทะเบียน เพราะเป็นการตกลงเพื่อให้ได้มาซึ่งภารจำยอม
การที่จำเลยตกลงจะจดทะเบียนภารจำยอมให้แก่โจทก์นั้นก็เป็นการตกลงเพื่อให้ได้มาซึ่งภารจำยอมนั่นเอง จำเลยจึงต้องผูกพันตามข้อตกลงนั้น และโจทก์สามารถบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามข้อตกลงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดิน: การโอนสิทธิโดยไม่ชอบ และผลกระทบต่อผู้ซื้อโดยสุจริต
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยทำฎีกามายื่นใหม่ พร้อมกับชำระค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาภายในกำหนด 7 วัน และสั่งรับฎีกาจำเลยไว้เป็นการสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา18 ศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลาให้ได้
ก. ทำนาพิพาทที่จำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของครอบครองอยู่ด้วยไปขอรับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วทำนิติกรรมขายให้โจทก์ที่อำเภอโดยจำเลยมิได้ยินยอมให้ ก. ขายที่นาพิพาทส่วนของจำเลยการที่ ก. ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าว จึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิครอบครองในที่นาพิพาทส่วนของจำเลยแม้โจทก์รับซื้อไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนแล้ว ก็ไม่มีสิทธิแต่อย่างใดเพราะผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน จะนำมาตรา1299,1300 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้แก่กรณีมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเงินตามเช็ค: แม้ไม่มีภาพถ่ายด้านหลังเช็ค ศาลรับฟังพยานหลักฐานได้หากโจทก์ระบุในบัญชีพยานและจำเลยไม่คัดค้าน
การที่โจทก์ได้แสดงข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาโดยชัดแจ้งว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาทให้โจทก์เนื่องจากการเล่นแชร์จำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดชำระเงินตามเช็คให้โจทก์นั้นแม้โจทก์ไม่ได้แนบภาพถ่ายด้านหลังเช็คมาท้ายฟ้องฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม
โจทก์ระบุอ้างเช็คพิพาทไว้ในบัญชีพยานโดยชอบเมื่อโจทก์เบิกความถึงเช็คพิพาทและยื่นต่อศาล จำเลยไม่ได้คัดค้านประการใดเช็คพิพาทเป็นเอกสารสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญแห่งคดีแม้โจทก์มิได้ส่งสำเนาลายมือด้านหลังเช็คให้จำเลยก่อนวันสืบพยาน 3 วันก็ตามแต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลมีอำนาจรับฟังเช็คพิพาทได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1602/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายลิขสิทธิ์ฟิล์ม: แม้ฟิล์มเสื่อมสภาพ โจทก์ต้องรับคืน ไม่สามารถเรียกค่าเสียหายแทนได้
หลังจากพ้นกำหนดเวลาคืนทรัพย์ตามสัญญาแล้วโจทก์ได้ให้ทนายความมีหนังสือถึงจำเลยเตือนให้ส่งทรัพย์คืนหรือให้ใช้ค่าเสียหายตามสัญญานั้นแสดงว่าโจทก์ยังให้โอกาสจำเลยปฏิบัติตามสัญญาได้โจทก์จึงจะถือเอาเหตุที่จำเลยไม่ส่งทรัพย์คืนตามวันที่กำหนดไว้ในสัญญาเป็นข้ออ้างว่าจำเลยผิดสัญญาจะต้องชดใช้ค่าเสียหายแต่ประการเดียวโดยไม่ยอมรับทรัพย์คืนหาได้ไม่
ข้อสัญญาระบุว่า เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วจำเลยจะต้องนำทรัพย์มาคืนไม่ว่าทรัพย์นั้นจะอยู่ในสภาพใดนั้นแม้ทรัพย์ที่นำมาคืนจะอยู่ในสภาพที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้วก็ตาม โจทก์ก็ต้องรับคืนจะเกี่ยงเรียกค่าเสียหายแทนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1598/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอนสิทธิใช้ทางร่วม และการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่ชายตลิ่งสาธารณสมบัติ
การที่จำเลยกั้นรั้วและปลูกพืชผลในที่ชายตลิ่งอันเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งอยู่ระหว่างหน้าที่ดินโจทก์กับลำรางสาธารณะนั้น แม้จะมิได้บังหน้าที่ดินโจทก์ทั้งหมดก็ตาม แต่เมื่อบริเวณหน้าที่ดินโจทก์ที่ยังเป็นที่ว่างอยู่ส่วนมากเป็นหล่มเป็นเลนทำให้โจทก์ไม่ได้รับความสะดวกถูกจำกัดมิให้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากการเดินขึ้นลงระหว่างที่ดินโจทก์กับลำรางสาธารณะถือได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ โจทก์จึงมีสิทธิขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วและพืชผลออกไปได้ตามมาตรา 1337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิลูกจ้างประจำรับบำเหน็จ แม้ได้รับค่าชดเชยแล้ว ระเบียบใหม่ใช้บังคับไม่ได้หากไม่แจ้งให้ทราบ
โจทก์เป็นลูกจ้างประจำบริษัทจำเลย ทำงานเต็มเวลาติดต่อกันมา15 ปี จำเลยให้โจทก์ออกจากงานโดยโจทก์ไม่มีความผิด โจทก์จึงมีสิทธิได้รับบำเหน็จตามระเบียบการจ่ายเงินบำนาญของจำเลย การที่จำเลยออกระเบียบการจ่ายเงินบำนาญใหม่มาใช้แทนระเบียบเดิมโดยไม่ได้แจ้งให้สหพันธ์แรงงานและโจทก์ทราบระเบียบดังกล่าวไม่มีผลบังคับโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีชดใช้ทุนการศึกษา: ทุนจากต่างประเทศที่รัฐรับผิดชอบ
รัฐบาลประเทศแคนาดา ภายใต้แผนการโคลัมโบ ให้ทุนแก่ประเทศไทยตามความต้องการของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ได้รับทุนการศึกษาได้ทำสัญญาไว้กับกรมวิสามัญศึกษา (ต่อมาถูกยุบรวมกับกรมสามัญศึกษา โจทก์) ซึ่งได้รับทุนมาดำเนินการว่า สำเร็จการศึกษาแล้วจะต้องรับราชการในกรมวิสามัญศึกษาตามกำหนด หากผิดสัญญายอมคืนเงินค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลออกให้ลดลงตามส่วน โดยจำเลยได้ทำสัญญาค้ำประกันไว้ ต่อมาผู้ได้รับทุนรับราชการไม่ครบกำหนดตามสัญญาก็ลาออกไป ดังนี้ ทุนดังกล่าวเป็นทุนที่รัฐบาลประเทศแคนาดาให้ความช่วยเหลือแต่รัฐบาลไทย ตามความต้องการของกระทรวงศึกษาธิการ และกรมวิสามัญศึกษารับมาดำเนินการ จึงมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับทุนนั้น การทำสัญญากับผู้ได้รับทุนก็เพื่อประโยชน์แก่กรมวิสามัญศึกษาเอง รัฐบาลประเทศแคนาดามิได้เกี่ยวข้องกับสัญญาแต่ประการใด และตามสัญญารับทุนทีระบุว่า ผู้รับทุนยินยอมรับใช้ทุนแก่รัฐาลประเทศแคนาดานั้น โจทก์ได้กล่าวในฟ้องแล้วว่าเป็นการกรอกข้อความผิด วัตถุประสงค์ ที่แท้จริงต้องชดใช้ทุนแก่รัฐบาลไทย จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องนี้ ต้องถือว่าจำเลยรับตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง การชดใช้ทุนคืนตามสัญญาจึงมุ่งหมายให้คืนแก่กรมวิสามัญศึกษาซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยตรง เมื่อมีการผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีชดใช้ทุนการศึกษา: ทุนจากต่างประเทศผ่านรัฐบาลไทย กรมวิสามัญศึกษามีหน้าที่รับผิดชอบ
รัฐบาลประเทศแคนาดา ภายใต้แผนการโคลัมโบ ให้ทุนแก่ประเทศไทยตามความต้องการของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ได้รับทุนการศึกษาได้ทำสัญญาไว้กับกรมวิสามัญศึกษา(ต่อมาถูกยุบรวมกับกรมสามัญศึกษาโจทก์) ซึ่งได้รับทุนมาดำเนินการว่าสำเร็จการศึกษาแล้วจะต้องรับราชการในกรมวิสามัญศึกษาตามกำหนด หากผิดสัญญายอมคืนเงินค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลออกให้ลดลงตามส่วน โดยจำเลยได้ทำสัญญาค้ำประกันไว้ ต่อมาผู้ได้รับทุนรับราชการไม่ครบกำหนดตามสัญญาก็ลาออกไป ดังนี้ ทุนดังกล่าวเป็นทุนที่รัฐบาลประเทศแคนาดาให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลไทย ตามความต้องการของกระทรวงศึกษาธิการ และกรมวิสามัญศึกษารับมาดำเนินการ จึงมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับทุนนั้นการทำสัญญากับผู้ได้รับทุนก็เพื่อประโยชน์แก่กรมวิสามัญศึกษาเอง รัฐบาลประเทศแคนาดามิได้เกี่ยวข้องกับสัญญาแต่ประการใด และตามสัญญารับทุนที่ระบุว่า ผู้รับทุนยินยอมรับใช้ทุนแก่รัฐบาลประเทศแคนาดานั้น โจทก์ได้กล่าวในฟ้องแล้วว่าเป็นการกรอกข้อความผิด วัตถุประสงค์ที่แท้จริงต้องชดใช้ทุนแก่รัฐบาลไทยจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องนี้ ต้องถือว่าจำเลยรับตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง การชดใช้ทุนคืนตามสัญญาจึงมุ่งหมายให้คืนแก่กรมวิสามัญศึกษาซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยตรง เมื่อมีการผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1488/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 56 ต้องกำหนดระยะเวลา ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดได้หากศาลอุทธรณ์มิได้กำหนด
การรอการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ศาลจะต้องกำหนดระยะเวลาที่ศาลรอการลงโทษไว้ แต่ต้องไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษา
เมื่อโจทก์ฎีกาโดยขอให้ศาลฎีกากำหนดเวลารอการลงโทษไปด้วย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาในข้อนี้ได้
of 54