พบผลลัพธ์ทั้งหมด 535 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2461/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารสัญญากู้ที่ไม่ได้ขีดฆ่าหลังปิดอากรแสตมป์ใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ แม้ผู้กู้รับสภาพหนี้
ฟ้องเรียกเงินตามสำเนาสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันท้ายฟ้องผู้กู้ให้การรับว่าได้ทำสัญญากู้ 100,000 บาทจริง แต่รับเงิน 80,000 บาท ผู้ค้ำประกันให้การว่าลงลายมือชื่อโดยเข้าใจว่าเป็นสัญญานายหน้า ดังนี้ ไม่ต้องสืบเอกสารสัญญากู้เป็นพยาน แม้เอกสารปิดอากรแสตมป์แต่ไม่ขีดฆ่าใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ศาลก็พิพากษาให้ใช้เงิน 100,000 บาทตามที่พิจารณาได้ความได้ แต่บังคับผู้ค้ำประกันไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2382/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนขณะผู้เสียหายหมดสติ: ความผิดมาตรา 276
ชำเราหญิงขณะเมาสุราหมดสติ อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2328/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพาผู้เยาว์ไปเพื่ออยู่กินฉันสามีภรรยา ไม่ถือเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร
จำเลยพาหญิงผู้เยาว์อายุ 16 ปีไปจากผู้ปกครองโดยหญิงเต็มใจเพื่อจดทะเบียนสมรส แต่ถูกจับเสียก่อน ไม่ปรากฏว่าจำเลยมีภริยา มิใช่เพื่อการอนาจาร ไม่เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2316/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดินด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ใช่โรงเรือน ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม ม.1312
ถังส้วมซิเมนต์ของโรงเรือนของจำเลยรุกล้ำเข้าไปฝังอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยสุจริต ถังส้วมมิใช่โรงเรือนและอยู่นอกโรงเรือน ไม่เป็นส่วนหนึ่งของโรงเรือน ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม มาตรา 1312
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2293/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อ: ยึดรถคืนได้เมื่อผิดนัดแม้เพียงงวดเดียว หากมีข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมสัญญา
สัญญาเช่าซื้อมีว่าให้ยึดรถคืนได้เมื่อไม่ชำระค่าเช่าซื้องวดใดงวดหนึ่ง ผู้ให้เช่าซื้อยึดรถคืนได้ ไม่ต้องรอให้ผิดนัด 2 คราว ไม่ขัดต่อ มาตรา 574 วรรคแรก และไม่ใช่กรณีเงินชำระงวดสุดท้ายตาม มาตรา 574 วรรค 2 ผู้ให้เช่าซื้อยึดรถคืนก่อนแล้วบอกเลิกสัญญาภายหลังก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสนอข้อพิพาทราคาเวนคืนที่ดินต่อนอกศาล และการบังคับตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 86 ให้เวนคืนที่ดินของผู้ร้องเพื่อประโยชน์ของทางราชการกรมชลประทาน และกำหนดค่าทดแทนให้ราคาไร่ละ 2,000 บาท ผู้ร้องปฏิเสธเพราะราคาไม่เป็นธรรม จึงมีการตั้งอนุญาโตตุลาการขึ้นชี้ขาดราคา อนุญาโตตุลาการของทางฝ่ายกรมชลประทานและฝ่ายผู้ร้องมีความเห็นไม่ตรงกันได้ตกลงตั้งประธานอนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดโดยให้ฝ่ายผู้ร้องร้องขอต่อศาลให้ตั้ง อ. เป็นประธานอนุญาโตตุลาการ ศาลไต่สวนแล้วมีคำสั่งตั้ง อ.เป็นประธานอนุญาโตตุลาการ ต่อมา อ.ทำคำชี้ขาดว่าราคาที่ดินที่เป็นธรรมควรกำหนดราคาไร่ละ 68,000 บาท และยื่นคำชี้ขาดต่อศาลทางฝ่ายกรมชลประทานไม่ยอมปฏิบัติตาม จึงขอให้ศาลพิพากษาตามคำชี้ขาดดังกล่าว ดังนี้กรณีตามคำร้องเป็นการเสนอข้อพิพาทในการกำหนดค่าทดแทนให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดเรื่องราคาที่ดินนอกศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 221 ข้อที่อนุญาโตตุลาการลงมติให้ผู้ร้องร้องขอแต่งตั้ง อ.เป็นประธานอนุญาโตตุลาการและศาลมีคำสั่งแต่งตั้ง อ.ไปตามคำร้องแล้วนั้นเป็นเพียงข้อตกลงของคู่กรณีว่า ให้ไปดำเนินการทางศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งแต่งตั้ง อ.เท่านั้น หาใช่เป็นการตั้งอนุญาโตตุลาการในศาลไม่เพราะไม่มีคดีอันเป็นข้อพิพาทในเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลตามมาตรา 220 เหตุนี้การที่ อ.ได้ทำคำชี้ขาดกำหนดราคาที่ดินยื่นต่อศาลก็หาเป็นการชี้ขาดที่ต้องให้ศาลพิพากษาตามที่บังคับไว้ในมาตรา 218 วรรคสองไม่
มาตรา 221 ที่ให้ยื่นคำร้องขอต่อศาล ก็เพื่อแสดงว่าผู้ยื่นมีสิทธิตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ แต่คดีเรื่องนี้ผู้ร้องมีคำขอให้บังคับกรมชลประทานปฏิบัติตามคำพิพากษาตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเข้ามาด้วย จึงเป็นคดีที่มีจำเลย เรียกว่าคดีมีข้อพิพาท ผู้ร้องจึงต้องเสนอคดีต่อศาลโดยทำเป็นคำฟ้อง
มาตรา 221 ที่ให้ยื่นคำร้องขอต่อศาล ก็เพื่อแสดงว่าผู้ยื่นมีสิทธิตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ แต่คดีเรื่องนี้ผู้ร้องมีคำขอให้บังคับกรมชลประทานปฏิบัติตามคำพิพากษาตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเข้ามาด้วย จึงเป็นคดีที่มีจำเลย เรียกว่าคดีมีข้อพิพาท ผู้ร้องจึงต้องเสนอคดีต่อศาลโดยทำเป็นคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการเรื่องเวนคืนที่ดิน: การเสนอคดีต่อศาลต้องเป็นคำฟ้อง ไม่ใช่คำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 86 ให้เวนคืนที่ดินของผู้ร้องเพื่อประโยชน์ของทางราชการกรมชลประทาน และกำหนดค่าทดแทนให้ราคาไร่ละ 2,000 บาท ผู้ร้องปฏิเสธเพราะราคาไม่เป็นธรรมจึงมีการตั้งอนุญาโตตุลาการขึ้นชี้ขาดราคา อนุญาโตตุลาการของทางฝ่ายกรมชลประทานและฝ่ายผู้ร้องมีความเห็นไม่ตรงกัน ได้ตกลงตั้งประธานอนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดโดยให้ฝ่ายผู้ร้องร้องขอต่อศาลให้ตั้ง อ. เป็นประธานอนุญาโตตุลาการ ศาลไต่สวนแล้วมีคำสั่งตั้ง อ. เป็นประธานอนุญาโตตุลาการ ต่อมา อ. ทำคำชี้ขาดว่าราคาที่ดินที่เป็นธรรมควรกำหนดราคาไร่ละ 68,000 บาท และยื่นคำชี้ขาดต่อศาลทางฝ่ายกรมชลประทานไม่ยอมปฏิบัติตาม จึงขอให้ศาลพิพากษาตามคำชี้ขาดดังกล่าว ดังนี้กรณีตามคำร้องเป็นการเสนอข้อพิพาทในการกำหนดค่าทดแทนให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดเรื่องราคาที่ดินนอกศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 221 ข้อที่อนุญาโตตุลาการลงมติให้ผู้ร้องร้องขอแต่งตั้ง อ. เป็นประธานอนุญาโตตุลาการและศาลมีคำสั่งแต่งตั้ง อ. ไปตามคำร้องแล้วนั้นเป็นเพียงข้อตกลงของคู่กรณีว่าให้ไปดำเนินการทางศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งแต่งตั้ง อ. เท่านั้น หาใช่เป็นการตั้งอนุญาโตตุลาการในศาลไม่เพราะไม่มีคดีอันเป็นข้อพิพาทในเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลตามมาตรา 220 เหตุนี้การที่ อ. ได้ทำคำชี้ขาดกำหนดราคาที่ดินยื่นต่อศาลก็หาเป็นการชี้ขาดที่ต้องให้ศาลพิพากษาตามที่บังคับไว้ในมาตรา 218 วรรคสองไม่
มาตรา 221 ที่ให้ยื่นคำร้องขอต่อศาล ก็เพื่อแสดงว่าผู้ยื่นมีสิทธิตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ แต่คดีเรื่องนี้ผู้ร้องมีคำขอให้บังคับกรมชลประทานปฏิบัติตามคำพิพากษาตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเข้ามาด้วยจึงเป็นคดีที่มีจำเลย เรียกว่าคดีมีข้อพิพาทผู้ร้องจึงต้องเสนอคดีต่อศาลโดยทำเป็นคำฟ้อง
มาตรา 221 ที่ให้ยื่นคำร้องขอต่อศาล ก็เพื่อแสดงว่าผู้ยื่นมีสิทธิตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ แต่คดีเรื่องนี้ผู้ร้องมีคำขอให้บังคับกรมชลประทานปฏิบัติตามคำพิพากษาตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเข้ามาด้วยจึงเป็นคดีที่มีจำเลย เรียกว่าคดีมีข้อพิพาทผู้ร้องจึงต้องเสนอคดีต่อศาลโดยทำเป็นคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1875/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำร้ายร่างกายจนเป็นอันตรายแก่กาย ศาลพิจารณารอการลงโทษจากเหตุผลในการทำร้ายและประวัติจำเลย
บาดแผลถูกชกต่อยและเตะ หลังจากเกิดเหตุ 7 วันตาซ้ายยังเขียวช้ำหรี่เกือบปิด แก้มและขาซ้ายฟกช้ำเป็นอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1847/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าสินไหมทดแทนประกันภัย: เริ่มนับจากวันเกิดเหตุวินาศภัย ไม่ใช่จากคำพิพากษา
รถยนต์คันที่โจทก์เอาประกันภัยค้ำจุนไว้กับจำเลยได้ชนกับรถยนต์ของบริษัท ร. เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2517 โจทก์มาฟ้องคดีขอให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2521 พ้นกำหนดสองปีนับแต่วันวินาศภัย ฟ้องของโจทก์จึงขาดอายุความตามมาตรา 882 การที่โจทก์ได้ถูกบริษัท ร.ฟ้องและศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บริษัท ร.เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2520 นั้น ไม่ทำให้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาประกันภัยจะเพิ่งมาตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาดังกล่าวเพราะสิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยเกิดขึ้นนับแต่วันวินาศภัยจึงจะนำอายุความตามมาตรา 168 มาใช้บังคับในกรณีนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเพื่อกันคดีขาดอายุความ มิใช่คำร้องทุกข์ คดีขาดอายุความ
ผู้เสียหายแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน "...กันคดีขาดอายุความเพื่อจะนำเรื่องไปดำเนินการเอง..." นั้น เป็นการแจ้งความเพื่อป้องกันคดีขาดอายุความอย่างเดียว มิได้มีเจตนาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับจำเลย ถือไม่ได้ว่าคำแจ้งความดังกล่าวเป็นคำร้องทุกข์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(7)